นับจากมีการอนุมัติโครงการก่อสร้างบ้านพักเป็นทางการแห่งใหม่ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อ
15 ปีที่แล้ว หลังจากทุ่มงบก่อสร้างไป 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นก้าวพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
11 คน
ในที่สุด บ้านพักผู้นำญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า Kantei
ก็เผยโฉมให้ชาวโลกตกตะลึงตาค้างเอาในปีนี้ ด้วยความเป็นไฮเทคที่น่าตื่นตาตื่นใจ
โดยเฉพาะตัวอาคารที่เน้นมาตรการของระบบรักษาความปลอดภัยกันทุกตารางนิ้ว บวกกับการออกแบบ
ตกแต่งภายในแบบหรูเลิศเกินกว่าจะบรรยายด้วยงานฝีมือและสถาปัตยกรรมที่เน้นความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างน่าทึ่ง
พร้อมสีสันที่ทำให้ผู้ได้พบเห็นชื่นตาชื่นใจยิ่ง
บ้านพักผู้นำญี่ปุ่นแห่งใหม่ล่าสุดนี้ตั้งอยู่ที่ Nagatacho ในกรุงโตเกียว
ซึ่งเป็นย่าน การเมืองที่มีกระทรวงต่างๆ เรียงรายตามถนนเต็มไปหมด จึงไม่ต้องหวังว่าประชาชนเดินดินธรรมดาๆ
จะมีโอกาสย่างกรายเข้าใกล้อาคารที่พักแห่งใหม่นี้ได้
สำหรับ Junichiro Koizumi นายกรัฐมนตรีหัวก้าว หน้าคนปัจจุบันของญี่ปุ่นแล้ว
ที่นี่นอกจากจะเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการ ยังเป็นที่ที่เขาใช้สำหรับปรึกษางานกับบรรดาที่ปรึกษา
ประชุมคณะรัฐมนตรี จัดแถลงข่าว และรับรองนักการเมืองระดับแขกบ้านแขกเมือง
วงการเมืองญี่ปุ่นก็มีคำฮิตติดปากคือ "ความโปร่งใส" และ "เปิดกว้าง" ซึ่งนักออกแบบได้นำเอามาเป็นแนวคิดสอด
ใส่ลงไปในงานออกแบบ Kantei นี้ด้วย
ทันทีที่ผู้มาเยือนก้าวพ้นประตูกระจกเข้าไป ก็จะพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องโถงกว้างใหญ่
ซึ่งถัดจากห้องโถงนี้ไป ก็จะเป็นลานมหึมาภายในตัวอาคารที่มองเห็นได้จากห้องเกือบทุกห้องในอาคารนี้
กับคำว่า "เปิดกว้าง" นั้น มีข้อน่าสังเกตตามคำบอกเล่าของ Eiji Teramoto
ผู้อำนวยการ ฝ่ายสถาปัตยกรรมของรัฐบาลญี่ปุ่นว่า "เราต้องการให้ผู้มาเยือนแน่ใจว่า
พวกเขาอยู่ในญี่ปุ่นจริง จึงออกแบบให้ตัวอาคารมีความทันสมัย แต่ก็ต้องบ่งบอกความเป็นตัวตนของประเทศนี้ด้วย"
สิ่งที่สะท้อนคำพูดนี้คือ บริเวณทางเข้าสู่ตัวอาคารที่ทำด้วยกระจกและเหล็ก
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ shoji หรือฉากบังตาทำด้วยกระดาษ ลานกว้างภายในตัวอาคารก็จะปลูกต้นไผ่และประดับด้วยหินตัดเนื้อหยาบ
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์โบราณที่หมายถึงการเติบโตและความแข็งแกร่ง สำหรับไม้นั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งตั้งแต่ฝาผนังห้องประชุมของนายกรัฐมนตรี
ไปจนถึงรอดและเสาของห้องรับรองเล็กๆ ซึ่งเป็นไม้ที่ตัดจากต้นซีดาร์อายุ 370
ปีจากเกาะฮอกไกโด
"เราพยายามสื่อในสิ่งที่เราคิดว่ามีความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ" Teramoto เพิ่มเติม
"โดยเฉพาะ เรื่องของความเรียบง่าย"
ภายนอกตัวอาคารจึงปูกระเบื้องสีน้ำตาลปนเทา ซึ่งเป็นกระเบื้องที่ผลิตในญี่ปุ่นและสะท้อน
ถึงความเคร่งขรึมตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่ภายในตัวอาคารกลับเล่นสีสันอย่างเสรี
เห็นได้จากห้องประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งฉีกพ้นจากภาพลักษณ์ของระบบราชการญี่ปุ่นออกไปแบบสุดกู่
ตัวโต๊ะเป็นทรงกลมทำจากเศษไม้ เชอร์รี่ของญี่ปุ่น ขณะที่พรมลายเด่นสะดุดตานั้นเล่า
ทอเป็นรูปก้อนเมฆเป็นวงสลับสีแดง ชมพู และครีม สวยงาม ผู้มา เยือนบ้านพักผู้นำญี่ปุ่นจะพบว่าตัวเองเพลิดเพลินกับพรมหลากลายหลากสีสัน
เพราะแต่ละผืนที่ปูในแต่ละห้องล้วนมีลวดลายเฉพาะไม่ซ้ำกันเลย บางผืนเป็นลายดอกเชอร์รี่บานสะพรั่ง
ขณะที่บางผืนเป็นลายต้นข้าวลู่ลม หรือไม่ก็ลายดอกไอริชสีม่วง
นอกจากนี้ ยังใช้งานฝีมือพื้นเมืองเข้ามามีบทบาทในงานออกแบบตกแต่งภายในรูปแบบใหม่
อาทิ ฝาผนังของห้องประชุมคณะรัฐมนตรีฉาบด้วยส่วนผสมของดินเนื้อหยาบ ซึ่งพบเห็นอยู่ตามบ้านเรือนของชาวญี่ปุ่นพื้นเมืองทั่วไป
ส่วนห้องรับรองก็มี washi ซึ่งเป็นกระดาษทำด้วยมือของชาวญี่ปุ่นขนาดมหึมาแขวนประดับ
โดยมีลวดเหล็กขึงให้แข็งแรงและเปิดไฟส่องจากด้านหลัง การประดับด้วย washi
ยังมีให้เห็นอีกคือ บริเวณที่นายกรัฐมนตรีเดินออกมาต้อนรับแขกผู้มาเยือน
และจุดที่เขาจะอ่านแถลงการณ์สำคัญๆ และเมื่อต้องถ่ายรูป ผู้นำญี่ปุ่นจะยืนอยู่ตรงหน้าผนังเซรามิก
สีแดง (burnt-red) ซึ่งเป็นแบบพื้นเมืองที่เรียกกันว่า bizenyaki
ส่วนห้องทำงานของ Koizumi ผู้นำญี่ปุ่นคนปัจจุบันอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งมีสวนหินเป็นสัดส่วนของตัวเอง
และมีโต๊ะประชุมทำด้วยไม้เมเปิ้ลขนาดยักษ์เด่นเป็นสง่า
หนึ่งในเหตุผลที่ต้องสร้างบ้านพักนายกรัฐมนตรีแห่งใหม่ เพราะ Kantei เก่า
ซึ่งสร้างในปี 1929 เริ่มทรุดโทรมและมีปัญหาเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงต่อการพังครืนลงมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
Kantei ที่เพิ่งเปิดตัวไปนี้มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าครึ่งของแห่งเดิม มีความแข็งแรงเหมือนป้อมปราการขนาดมหึมา
เป็นอาคารกรุด้วยกระจกกันกระสุนและออกแบบให้ทนทานต่อภัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวหรือการจู่โจมจากผู้ก่อการร้าย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ หลังคาของตัวอาคารสามารถใช้เป็นลานขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์
และอุทยานน้ำพุสวย งามก็สามารถสูบน้ำออกจนแห้งและกลายเป็นลานขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ได้ภายในพริบตาเช่นกัน
อาคารบ้านพักผู้นำญี่ปุ่นแห่ง ใหม่นี้เสร็จสมบูรณ์ลงก็จริง แต่สำหรับ Kantei
ทั้งโครงการนั้นถือว่ายังไม่แล้วเสร็จ โดยโครงการระยะสองจะเป็นการย้ายบ้านพักเก่าให้ถอยหลังไปอีก
50 เมตร และบูรณะให้เป็นบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะแล้วเสร็จในราวปี 2004....จากนิตยสาร
Wallpaper ฉบับเดือนกันยายน