|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
จับตาบิ๊ก"ราศรี" เจ้าของโปรเจกต์สเตท ทาวเวอร์ มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรในบริษัท แชเลนจ์ กรุ๊ป ดึงมือดี"ชนินทร์ เย็นสุดใจ" ที่มีสายสัมพันธ์กับ"วิชัย ทองแตง" นั่งตำแหน่งซีอีโอในแชเลนจ์ฯ คาดหวังฟื้นฟูบริษัทฯ ด้านลูกสาวราศีแตกไลน์เปิดบริษัทอสังหาฯของตัวเอง เล็งแผน 3 ปี สร้างชื่อในตลาด เน้นโครงการขนาดเล็ก จบเร็ว ตามแนวรถไฟฟ้า ประเดิมโครงการแรก เดอะ ซินโครไนซ์ ที่รัชดา ระบุหากประสบความสำเร็จลุยต่อปีละ 3-4 โครงการ
น.ส.รัฐวดี บัวเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีทูเอ็น แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้แยกตัวออกมาจากบริษัท แชเลนจ์ พรอพเพอร์ตี้ กรุ๊ป เพื่อพัฒนาโครงการและพิสูจน์ฝีมือของตนเองในการก่อตั้งบริษัท อีทูเอ็นฯขึ้นมาใหม่นั้น ทางคณะกรรมการบริษัทของกลุ่มแชเลนจ์ กรุ๊ป ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ด้วยการดึงผู้บริหารระดับมืออาชีพจากภายนอก เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) คือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ซึ่งมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปลายปี 48 ที่ผ่านมา ส่วนนโยบายใหม่ของกลุ่มแชเลนจ์ฯ จะเป็นเช่นใดนั้นขณะนี้ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ คงต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหม่ออกมาเปิดเผยจะดีกว่า แต่ตนก็ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารอยู่ในบริษัทเช่นกัน
สำหรับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ต้องถือว่าเป็นบุคคลที่มีความชำนาญในด้านการบริหารจัดการในองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว ปัจจุบันมีตำแหน่งในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ ประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดโดมอน จำกัด (มหาชน) , บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) และก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท แต่ได้ลาออกเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2548
ขณะเดียวกันนายชนินทร์ ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนายวิชัย ทองแตง ซึ่งเป็นที่รับรู้ในวงการว่า เป็นนักซื้อกิจการอีกบุคคลหนึ่งและเป็นเจ้าของธุรกิจในหลายแห่ง อาทิ ธุรกิจโรงพยาบาลเปาโล , บริษัท ไดโดมอนฯ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของบริษัทแชเลนจ์ฯซึ่งเป็นเจ้าของโครงการสเตท ทาวเวอร์ หรือรอยัล เจริญกรุง บนถนนสีลม เป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยเดิมบริษัทเป็นลูกหนี้ธนาคารกรุงไทย มูลหนี้คงค้างทั้งหมดกว่า 9,000 ล้านบาท แต่ได้มีการจำหน่ายหนี้ให้แก่ บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) และล่าสุดบบส.เตรียมยุบรวมเข้ากับบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) แล้ว เพียงแต่อยู่ระหว่างตรวจสอบบัญชีและรายการทรัพย์สินต่างๆ ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่านางราศรี บัวเลิศ ได้พยายามหาผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน
ขอสร้างฐานธุรกิจตัวเองให้เข้มแข็ง
นางสาวรัฐวดี กล่าวถึงบริษัทอีทูเอ็น แอสเสทฯ ว่า ได้บริษัทก่อตั้งมาเป็นเวลา 1 ปี ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งแยกจากบริษัท แชลเลนจ์ฯซึ่งเป็นของมารดา คือ นางราศรี บัวเลิศ (ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัท แชเลนจ์ฯ ) โดยเด็ดขาด และมีการแบ่งเซกเมนต์หรือคอนเซปต์ในการพัฒนาโครงการอย่างชัดเจน โดยอีทูเอ็นฯจะเน้นพัฒนาโครงการที่เป็นตลาดเฉพาะ ลักษณะโครงการขนาดกลางสามารถปิดการขายได้เร็ว เน้นบริเวณพื้นที่ที่เดินทางสะดวกที่มีรถไฟฟ้าบนดินหรือใต้ดิน
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทนั้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการแรกคือ โครงการเดอะซินโครไนซ์ มูลค่า 750 ล้านบาท บนถนนรัชดาภิเษกในลักษณะอาคาร 5-6 ชั้น ภายใต้คอนเซปต์ ทาวน์โฮม จำนวน 28 ยูนิต ราคาขาย 25-30 ล้านบาท คาดว่าจะปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน โดยโครงการนี้มีธนาคารนครหลวงไทยเป็นผู้สนับสนุนวงเงินสินเชื่อ ในอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1: 1 ทั้งนี้ ในแผนระยะ 3-5 ปีนั้น บริษัทต้องการสร้างแบรนด์และชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในตลาด ทั้งด้านคุณภาพและรูปแบบของโครงการ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งหากโครงการแรกประสบผลสำเร็จ ก็จะมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องปีละ 3-4 โครงการ ส่วนโครงการที่จะพัฒนาต่อจากนี้นั้น อยู่ระหว่างการศึกษา
ปัจจุบัน นอกจากธุรกิจอสังหาฯแล้ว ส่วนตัวยังมีธุรกิจให้บริการร้านอาหารภายใต้บริษัท แชลเลนจ์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ซึ่งมีร้านอาหารภายใต้การดูแล 3 ร้านคือ ดีสธิว, เดอะโดม และซีล็อกโค รวมทั้งยังได้รับสัมปทานร้านอาหารในโครงการไนซ์ซาฟารีที่เชียงใหม่ด้วย ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี ในปี 2548 มีรายได้ที่ 300 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมีอัตราเติบโตจากปีก่อนประมาณ 10% และจะถึงคุ้มทุนในปีนี้เช่นกัน
|
|
 |
|
|