Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มกราคม 2549
ไทยพลาสติกฯกำไรปี48รูด11%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์, บมจ.
Chemicals and Plastics




ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ เผยผลงานปี 2548 กำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเกือบ 11% เหตุจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลดลงจากปีก่อน แม้จะมีรายได้จากการขายสูงเกือบ 2.5 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 6%

นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2548 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,820.40 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.22 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,152.03 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.60 บาท หรือกำไรสุทธิลดลงจากปีก่อน 10.52%

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและจากการให้บริการรวม 24,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,303 ล้านบาท หรือ 6% มีผลจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขาย ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเกิดจากการปรับตัวลดลงของราคาพีวีซี ในขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักคือ เอทธิลีน ราคาเฉลี่ยอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีก่อนสืบเนื่องจากผลของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

นายคเณศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ราคาขายเฉลี่ยพีวีซีปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจาก 963 $/MT เป็น 846 $/MT ราคาวีซีเอ็มปรับตัวลดลงมากกว่าราคาพีวีซีจาก 825 $/MT เป็น 645 $/MT เนื่องจากความต้องการในจีนอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมถึงการปรับลดราคาลงของผู้ผลิตพีวีซีที่เป็น Acetylene-based ซึ่งมีการผลิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ราคาเอทธิลีนที่ปรับลดลงจาก 1,149 $/MT เป็น 892 $/MT เนื่องจากมีเอทธิลีนเหลือในตลาดจากการที่ความต้องการ PE ลดลง ส่วนราคาอีดีซีนอกจากจะได้รับผลกระทบจากราคาขายพีวีซีและราคาเอทธิลีนที่ลดลง ปริมาณในตลาดมีมากกว่าความต้องการ ประกอบกับราคาโซดาไฟที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ จึงทำให้ราคาอีดีซี ลดลงอย่างมากจากปีก่อนอยู่ที่ 545 $/MT เหลือเพียง 288 $/MT ส่งผลให้ส่วนต่างราคา PVC-(EDC&Ethylene) ของตลาดเพิ่มขึ้นจาก 241 $/MT เป็น 399 $/MT

สำหรับภาวะตลาดในประเทศนั้น ปริมาณความต้องการพีวีซีไตรมาสสุดท้ายลดลงจากปีก่อน 6% ทำให้ยอดขายในประเทศ ลดลง 10% และราคาขายในประเทศเมื่อเทียบกับราคา FE ปรับตัวลดลงจาก 5.1% over FE ไปอยู่ที่ -3.0% over FE ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 44% เนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง จึงส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะจากส่วนของปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น สำหรับราคาขายเมื่อเทียบกับราคา FE นั้นก็ลดลงจาก 2.2% เป็น -0.5%

ด้านรายได้จากการขายและการให้บริการ ไตรมาส 4 ปีนี้ รวม 5,993 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 3 % ซึ่งเป็นผลจากทั้งราคาและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าสำเร็จรูป ส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวม 903 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 20% แต่ในแง่ของการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมาก ทั้งธุรกิจ PVC และสินค้าสำเร็จรูป

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 1 ปีนั้น ความต้องการพีวีซีภายในประเทศเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 9% เนื่องจากภาวะภัยแล้ง การขยายตัวของโครงการภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ รวมถึงการขยายตัวของการภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการท่อเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์มีการเติบโต ทำให้ความต้องการสายไฟเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น 9% ส่วนยอดขายพีวีซีในต่างประเทศลดลง 3% เนื่องจากการขยายตัวของปริมาณความต้องการพีวีซีในประเทศที่เพิ่มขึ้น

ด้านสัดส่วนของรายได้จากการขายประจำปี 2548 เป็นผลจากจากธุรกิจ PVC ธุรกิจท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป 77% และ 21% ของรายได้รวม ตามลำดับ สัดส่วนรายได้ของธุรกิจ PVC 48% เป็นการขายภายในประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออก และผลจากการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ และมีรายไดอื่นรวม 841 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18%

สำหรับต้นทุนขายในปี 2548 มีต้นทุนขายรวม 20,626 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9% เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบหลักคือ เอทธิลีน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อก่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 1,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us