สถาบันการเงิน ในประเทศ-ต่างประเทศ ร่วมลงขันปล่อยกู้ 3 หมื่นล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าแก่งคอย บริษัทในเครือ"กัลฟ์อิเล็คตริก" สุดยอด ดิวใหญ่หลังวิกฤต

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 24 มกราคม บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจะจัดงานฉลองความสำเร็จทางด้านการเงิน "Financial Closing Ceremony" สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 โดย มีตัวแทนจากสถาบันทางด้าน การเงินทั้งในประเทศและต่าง-ประเทศที่ให้การสนับสนุนทาง การเงินจำนวน 12 สถาบัน ร่วมแสดงความยินดี

"โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ใช้เงิน ลงทุน 36,000 ล้านบาท โดยมีส่วน ของเงินกู้ต่อเงินลงทุนทั้งหมดคิดเป็นอัตรา 3 ต่อ 1 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถาบันทางการเงินทั้งในและต่างประเทศ"

กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างกว่า 60% และมั่นใจโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 จะสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ทันตามกำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาโครงการโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ได้ดำเนินโครงการโดยให้ภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในทุกๆขั้นตอน

สำหรับสัญญาเงินกู้ (Financing Documents) มีวงเงินกู้รวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสถาบันการเงินในประเทศ ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน จำนวน 17,000 ล้านบาท

ส่วนวงเงินกู้ที่เหลือจำนวน 13,000 ล้านบาท (320 ล้านเหรียญ) ทางบริษัทได้ทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินต่าง-ประเทศ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ Mizuho Corporate Bank, Bank of Tokyo Mitsubishi UJF, DZ Bank, Fortis Bank, และ ING Bank รวมทั้ง Japan Bank for International Cooperation (J-Bic)

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่นฯ เป็นโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งมีก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในกระบวนการผลิต ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตำบลบ้านป่า อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1,468 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของกฟผ. (COD) ในวันที่ 1 มีนาคม 2550 จำนวน 734 เมกะวัตต์ และอีก 734 เมกะวัตต์ ในวันที่ 1 มีนาคม 2551