|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"โฮมเดคคอเรตีฟฯ" ในกลุ่มโมเดอร์นฟอร์ม เล็งนำเข้าห้องน้ำระดับไฮเอ็น หวังดูดเงินเศรษฐีบ้าสินค้าแบรนด์เนม สนนราคาถูกสุด 4 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวก.พ.นี้ ระบุอสังหาฯยังโตต่อเนื่องเหตุทุนต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนในไทยเพียบ เตรียมโชว์สินค้าไฮเทคสกัดจีนก็อปปี้ในงาน "Furnitech Woodtech 2006 และ Asean Fitting"ในวันที่ 27-31 เม.ย.นี้ ระบุปัจจุบันสินค้าจีนแชร์ตลาด 30%
นายกู้เกียรติ โอฬารกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายโฮมเดคคอเรตีฟ โปรดักคส์ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "โฮมเดคคอเรตีฟฯ" ถือเป็นธุรกิจเริ่มต้นของโมเดอร์นฟอร์มเมื่อ 27 ปีที่ผ่านมา ด้วยการขายวัสดุ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ Fittings อาทิ บานพับ รางลิ้นชัก มือจับ กรประตู ฯลฯ ซึ่งหลังจากนั้นอีก 2 ปีได้เริ่มหันมาประกอบและผลิตเฟอร์นิเจอร์จำหน่ายในนามของโมเดอร์นฟอร์ม ส่วนโฮมเดคคอเรตีฟฯ ก็ได้พัฒนาและนำเข้าสินค้าใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 ผลิตภัณฑ์ต่อปี ปัจจุบันมีสินค้าอยู่ในสต๊อกกว่า 3,000 รายการ
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมที่จะนำเข้าห้องน้ำแบรนด์ดังระดับไฮเอ็น จากประเทศเยอรมนี ที่มีการเปิดตัวในงานแสดงสินค้าที่ ปูดาเปส ประเทศฮังกาลี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งห้องน้ำดังกล่าวจะเป็นการออกแบบเฉพาะตัวของแบนด์สินเค้า ระดับราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป
"เราจะนำมาเปิดตัวในไทยได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะสร้างความฮือฮาอย่างมากในวงการ เพราะแบรนด์นี้ดังมาก ในต่างประเทศและแบบห้องน้ำแต่ละห้องไม่ซ้ำแบบกันหรือเรียกได้ว่ามีเพียงชิ้นเดียวในโลก แต่ตอนนี้ขออุบยี่ห้อไว้ก่อน" นายกู้เกียรติกล่าว
นายกู้เกียรติกล่าวต่อว่า นอกจากห้องน้ำ แล้วยังมีแผนที่จะลงทุนระบบ พื้น อาทิ ไม้จริง กระเบื้องยาง ลามิเนต พรมวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีสินค้าหลายประเภทที่น่าสนใจและในไทยยังไม่มีการแข่งขันมากนัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของตลาด โดยอาจเป็นทั้งการร่วมทุนหรือการนำเข้ามาจำหน่าย โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะลงทุนซื้อเครื่องจักร ที่เกี่ยวกับระบบติดตั้งหิน ซึ่งจะทำให้การติดตั้งมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจจะต้องมีการศึกษาหาความรู้และดูเทคโนโลยความก้าวหน้า เทรนด์สินค้าใหม่ๆของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยในเดือนมีนาคม จะไปดูงานที่เครื่องจักรที่เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ "The Solid Surface Tnternational Eepro" ที่ลาสเวกัส ประเทศอเมริกา
"เมื่อก่อนเราล้าหลังประเทศพัฒนาแล้วประมาณ 5 ปี แต่ปัจจุบันเราช้ากว่าเค้า 1 ปีเท่านั้นเพราะโลกแคบลงจากเทคโนโลยีและการสื่อสาร เราต้องเดินทางไปดูเทรนด์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ เมื่อเห็นแล้วก็เตรียมตัวศึกษาตลาดและลูกค้าปีต่อไปขายได้เลย" นายกู้เกียรติกล่าว
นอกจากนี้บริษัท ยังเตรียมที่จะนำสินค้าแบบใหม่อีกหลายชนิด ได้แก่ บานเลื่อน ชุดครัว ระบบซอฟต์โครส ไปแสดงในงาน "Furnitech Woodtech 2006 และ Asean Fitting" ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติจากทั้งในและต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ ในวันที่ 27-30 เมษายน 2549 ที่ไบเทค บางนา
ทั้งนี้สินค้าที่จะนำไปโชว์ในงาน จะต้องเป็นสินค้าที่อยู่ในเทรนด์ของตลาด ที่ปัจจุบันค่าใช้จ่ายเพิ่มคนซื้อบ้านได้หลังเล็กลง และเปลี่ยพฤติกรรมามาอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น ส่งผลให้การออกแบบสินค้าจะต้องเป็นสินค้าที่ประหยัดเนื้อที่ มีฟังก์ชันการใช้งานมากมาย นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จีนไม่สามารถก็อปปี้ได้
**สินค้าจีนเบียดแชร์ตลาดไทย30%
สำหรับการเข้ามาสู่ตลาดของสินค้าจากจีนนั้น นายกู้เกียรติกล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา ไทยถูกสินค้าจีนที่ทั้งมีคุณภาพและไม่มีคุณภาพเข้ามาตีตลาดจำนวนมาก ทั้งราคาถูกและแพง ซึ่งสินค้าจีนส่วนใหญ่ที่คนไทยซื้อ จะเน้นที่ราคาถูกมากกว่า ซึ่งสินค้าบางประเภทก่อให้เกิดอันตราย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมีการควบคุม แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ดังนั้นประชาชนจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันสินค้าจีนมีส่วนแบ่งตลาดในไทยแล้วกว่า 30% ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไทยไม่มีการปรับตัว เพราะกลุ่มทุนที่เข้าไปลงทุนในจีนเป็นของต่างชาติย่อมมีการพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง
นายกู้เกียรติกล่าวว่า สำหรับภาพรวมของธุรกิจเชื่อว่าในปีนี้ ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากเศรษฐกิจยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ เพราะมีทั้งการลงทุนทางภาครัฐ และในส่วนของการลงทุนภาคเอกชน ที่ปัจจุบันมีกลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งลงทุนเองและรวมทุนกับกลุ่มทุนไทย และเมื่อกลุ่มทุนนี้เข้ามาย่อมล็อคสเป็คสินค้าที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับประเทศของตน ในขณะที่สินค้าแต่ละประเภทจะมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ทำให้ตัวแทนในไทยขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง
" ตัวย่างที่ผ่านมาได้แก่ โครงการเดอะ เม็ท ของบริษัท โฮเต็ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากประเทศสิงคโปร์ ได้ใช้วัสดุทุกอย่างเป็นระดับไฮเอ็น เหมือนเช่นโครงการที่สิงคโปร์ ดังนั้นจะต้องสั่งซื้อสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายในไทย ซึ่งก็เป็นของโฮมเดคคอเรตีฟฯ นั้นเอง" นายกู้เกียรติกล่าว
สำหรับสินค้ากว่า 3,000 รายการดังกล่าว สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.เฟอร์นิเจอร์ Fittings คิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมดของโฮมเดคคอเรตีฟฯ 2.พรม 30% และ 3. สินค้าพิเศษ 20% โดยยอดขายของโฮมเดคคอเรตีฟฯ คิดเป็น 20% ของรายได้รวมของโมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป ทั้งนี้ที่ผ่านมาโฮมเดคคอเรตีฟฯ มีอัตราการเติบโต 15-20% ต่อปี โดยในปี 2548 มีอัตราการเติบโต 15% และในปี 2549 ตั้งเป้าโต 15% เช่นกัน
ในส่วนของสินค้าประเภทพรมนั้น บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท อินเตอร์เฟส จำกัด ก่อตั้งเป็นบริษัทอินเตอร์เฟส โมเดอร์นฟอร์ม จำกัด ผลิตพรมที่โรงงานอุตสาหกรรมบางประกง ซึ่งเป็นพรมขนาด 50 x 50 ซม. ราคาตั้งแต่ 800-1,500 บาทต่อตร.ม. ซึ่งพรมมีคุณสมบัติไม่ซึมซับของเหลวทำให้ไม่เกิดเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งไม่ต้องทากาวเวลาติดตั้งทำให้สามารถถอดเปลี่ยนในบางจัดได้ เหมาะสำหรับสำนักงานทั่วๆไป
นอกจากนี้บริษัทยังมีสินค้าประเภท หิน กระเบื้องยาง ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้นำเข้าหินจากประเทศอิตาลี ทั้งหินอ่อนและหินควอส เพื่อใช้ในการปูพื้นและพนัง ซึ่งบริษัทได้ขายให้กับโครงการขนาดใหญ่ระดับไฮเอ็น อาทิ บริษัทคริสตันพาร์ค กฤษดา ณุศาศิริ และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้นำเข้าหิน LG จากประเทศเกาหลี ซึ่งเมื่อติดตั้งและเชื่อมต่อกันแล้วไม่เกิดรอยต่อ ที่ผ่านมาติดตั้งเคานท์เตอร์บาร์ให้กับ เคเอฟซี และท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ทุกสาขา
|
|
|
|
|