Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 มกราคม 2549
จับตาวัลลีย์นอมินีขาใหญ่เล่นสั้นหุ้นเก็งกำไร             
 


   
search resources

Stock Exchange




สะกดรอย"วัลลีย์ พิทักษ์" นักลงทุนรายใหญ่เทรดหุ้นสนั่น 2 พันล้านบาทต่อเดือน พบช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรหุ้นจอง 12 บริษัทคิดเป็นเม็ดเงินลงทุน 30.59 ล้านบาท วงการมองเป็นนอมินีให้กับนักลงทุนรายใหญ่ หลังเทขายหุ้นบีเอ็นทีเกลี้ยงพอร์ตจาก

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนรายใหญ่ใช้นอมินี(ตัวแทน)เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น ซึ่งนักลงทุนรายหนึ่งที่กำลังถูกจับตามองว่าเป็นนอมินีนักลงทุนรายใหญ่ ก็คือ นางวัลลีย์ พิทักษ์ ซึ่งจากการเปิดบัญชี(พอร์ต)ซื้อขายกับโบรกเกอร์หลายแห่งและมีการซื้อขายหุ้นในมูลค่าสูงอย่างมาก จนถูกมองว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่ง

โดยที่ผ่านมาพบว่าพอร์ตการซื้อขายของนางวัลลีย์ เคยมีการซื้อขายสูงสุดประมาณ 2 พันล้านบาทต่อเดือน และมีการซื้อขายในหุ้นหลายบริษัท ที่น่าสังเกตุคือพฤติกรรมการลงทุนจะนิยมการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีข่าวลือในด้านต่างๆ บางครั้งก็จะอาศัยการซื้อขายตามผู้ลงทุนรายใหญ่รายอื่น เมื่อมีกำไรเพียงเล็กน้อยก็จะขายออกมา

สำหรับหุ้นที่พบว่านางวัลลีย์ นิยมเข้าไปเก็งกำไร ได้แก่ หุ้น บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI), บมจ.บีเอ็นทีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (BNT) และ บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) เป็นต้น

จากลักษณะการลงทุนทำให้ที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาโดยตลอด ว่า นางวัลลีย์น่าจะเป็นนอมินีให้กับนักลงทุนรายใหญ่คนดังที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อให้กับสาธารณะชนได้รับรู้ เพราะเกรงว่าจะถูกจับตามอง โดยเฉพาะถูกจับตามองจากตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้

นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลที่เปิดเผยของสำนักงานก.ล.ต.เกี่ยวกับการกระจายหุ้นของหุ้ที่เสนอขายแก่ประชาชนครั้งแรก(IPO)ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547-2548 พบว่าชื่อของนางวัลลีย์ติดอยู่ในบุคคลที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจองสูงสุด 1 ใน 20 อันดับแรก โดยได้รับการจัดสรรจำนวน 12 บริษัทคิดเป็นเงินลงทุนรวมทั้งหมด 30.59 ล้านบาท

สำหรับหุ้นจอง 12 บริษัทที่ได้รับการจัดสรร ประกอบด้วย บมจ. ไทยฮา(KASET) จำนวน 4.5 แสนหุ้นหรือ 0.82% คิดเป็นเงินลงทุน 540,000 บาท, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) (UOBKH) จำนวน 1.3 ล้านหุ้นหรือ 1.73% คิดเป็นจำนวนเงินลงทุน 8.06 ล้านบาท, บมจ. ซุปเปอร์บล๊อก(SUPER) จำนวน 4.27 แสนหุ้นหรือ 0.41% คิดเป็นเงินลงทุน 2.09 ล้านบาท, บมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป(CIG) จำนวน 5.96 แสนหุ้นหรือ1.32%คิดเป็นเงินลงทุน 1.63 ล้านบาท

บมจ.พรพรหม เม็ททอล (PPM) จำนวน 3.97 แสนหุ้น 1.21ล้านบาท คิดเป็น 0.99% บริษัท เชอร์วู๊ด(SWC) จำนวน 1.47 แสนหุ้นหรือ 2.54% คิดเป็นเงินลงทุน 2.94 ล้านบาท, บมจ.กรุ๊ปลีส(GL) จำนวน 5 แสนหุ้นหรือ 5% คิดเป็นเงินลงทุน 6 ล้านบาท, บมจ.โฟคัส แอนด์ คอนสตรัคชั่น(FOCUS) จำนวน 9.09 แสนหุ้นหรือ 3.64% คิดเป็นเงินลงทุน 4.09 ล้านบาท

บมจ.ทีกรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT) จำนวน 2.86 แสนหุ้นคิดเป็น 0.72%คิดเป็นเงินลงทุน 1.17 ล้านบาท,บมจ. สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) จำนวน 1.46 แสนหุ้นหรือ 0.49%คิดเป็นเงินลงทุน 1.46 ล้านบาท,บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) จำนวน 6.86 หมื่นหุ้นหรือ 1.11% คิดเป็นเงินลงทุน 8.23 แสนบาทและ บมจ. บิซิเนสออนไลน์(BOL) จำนวน 1.52 แสนหุ้น 5.79 แสนบาท หรือ 0.64%

ก่อนหน้านี้ นางวัลลีย์ ได้เคยแจ้งต่อสำนักงานก.ล.ต.ว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2549 ได้บมจ.บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.97% ทำให้ภายหลังการได้มา นางวัลลีย์ ถือหุ้นอยู่จำนวน 5.29% อย่างไรก็ตาม 3 วันต่อมา คือ ในวันที่ 16 มกราคม 2549 นางวัลลีย์ ได้ขายหุ้นบมจ.บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ถืออยู่ในพอร์ตทั้งหมดจำนวน 5.29%

ทั้งนี้การขายหุ้นดังกล่าวเป็นช่วงเดียวกับที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งห้ามการซื้อขาย บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)หรือ IEC ตั้งแต่วันที่ 16-20 มกราคม 2549เพราะตรวจพบว่ามีลักษณะการซื้อ ขายเข้าข่ายการสร้างราคาหุ้น ทำให้มีกระแสข่าวว่านางวัลลีย์เกรงว่าหุ้นบีเอ็นทีเอ็นเตอร์เทนเมนท์จะถูกสั่งห้ามซื้อขายเช่นกัน จึงได้ขายหุ้นออกมา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us