Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์23 มกราคม 2549
เปิดยุทธศาสตร์"แสนสิริ" ลุยลงทุนบ้านทุกเซกเมนท์             
 


   
www resources

โฮมเพจ แสนสิริ

   
search resources

แสนสิริ, บมจ.
เศรษฐา ทวีสิน
Real Estate




"แสนสิริ" ส่งบริษัทลูกชิงแชร์ตลาดบ้านระดับกลางราคา 1-3 ล้านบาท หลังพบว่าความต้องการสูง แต่ไม่กล้าลงทุนเอง หวั่นกระทบภาพลักษณ์บ้านไฮเอนด์ พร้อมเปิดศึกทุกตลาด ลุยลงทุนบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียมทุกเซกเมนท์ ปีนี้เปิดโครงการใหม่ 16 แห่ง มูลค่า 16,400 ล้านบาท ตั้งเป้าโกยยอดขาย 14,000 ล้านบาท

แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ราคาเฉลี่ยที่ 1-3 ล้านบาท ยังมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ที่ดี ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต่างโดดเข้ามาเล่นในสนามนี้ ทั้งรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ ที่ไม่จดทะเบียน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้ อาจจะทำให้บริษัทที่เคยทำตลาดบ้านราคาแพงมาก่อน เสียภาพลักษณ์องค์กร ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด คือการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมารองรับการทำตลาดใหม่ หรือ จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาทำตลาดบ้านระดับกลางเลย เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรมากนัก ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถสร้างรายได้จากทั้งสินค้าในเซกเมนท์เดิมที่มีความเชี่ยวชาญ และเซกเมนท์ใหม่ที่หามืออาชีพเข้ามาร่วมงาน

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประกอบการที่ทำบ้านระดับหรู ราคาแพงมาตลอด พบว่า ตลาดบ้านราคาแพงเริ่มอิ่มตัว ขณะที่บ้านระดับกลางมีความต้องการมาก จึงได้เตรียมขยายตลาดมาสู่บ้านราคากลางอย่างเต็มตัว แต่เกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของแสนสิริที่มีภาพเป็นผู้ประกอบการระดับไฮเอนด์ ดังนั้น จึงได้ให้บริษัทในเครือลงทุนพัฒนาบ้านระดับกลาง ส่วนแสนสิริยังคงเดินหน้าทำบ้านราคาแพงต่อไป

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2549 กลุ่มบริษัทแสนสิริ มีแผนจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อีกประมาณ 16 แห่ง คิดเป็นมูลค่าขายรวม 16,400 ล้านบาท โดยตั้งเป้าสร้างรายรับรวมจากการดำเนินงานในปีนี้เป็นมูลค่าราว 14,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โครงการทั้งหมดที่จะลงทุนจะเป็นที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ รวมถึงที่พักอาศัยเพื่อตากอากาศในทำเลท่องเที่ยว ซึ่งจะเน้นการทำตลาดระดับกลาง ราคาเฉลี่ยที่ 1-3 ล้านบาท เป็นหลัก แต่ยังคงลงทุนบ้านราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปด้วย

" ปัจจุบันแสนสิริพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ ปีนี้มีแผนที่จะขยายฐานการพัฒนาที่อยู่อาศัยเกือบทุกประเภท ตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงมีแผนที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูง โดยจะลงทุนผ่านบริษัทในเครือ อาทิ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด , บริษัท พร้อมพัฒนา จำกัด , บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เวนเจอร์ จำกัด ที่ส่วนใหญ่แสนสิริถือหุ้นอยู่เกือบ 100% เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า"

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น จะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 4 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณถนนสนามบินน้ำ ถนนประชาชื่น ถนนราชพฤกษ์ และรามอินทรา คิดเป็นมูลค่าขายรวมราว 10,000 ล้านบาท และจะมีเปิดตัวคอนโดมิเนียมในเขตซีบีดีและทำเลที่มีการคมนาคมสะดวกอีก 6-8 แห่ง มูลค่าขายประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนโครงการทาวน์เฮาส์จะมีการพัฒนาโครงการใหม่อีก 3-4 แห่ง มูลค่าขายประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาที่พักตากอากาศในแหล่งท่องเที่ยวอีก 1-2 แห่ง

ส่วนผลประกอบการของกลุ่มบริษัทแสนสิริในปี 2548 ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากสามารถสร้างยอดรายรับรวมจากการดำเนินงานประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นรายรับรวมที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนในปี 2548 บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมเป็นมูลค่าประมาณ 9,100 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายบ้านจัดสรร 5,620 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1,330 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2,140 ล้านบาท

เศรษฐา กล่าวว่า ในปีนี้กลุ่มแสนสิริจะมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานรวม 30 แห่ง มีจำนวนยูนิตพร้อมขาย 5,300 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 27,400 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการขายได้ 2-3 ปี โดยในปีก่อนได้เปิดตัวบ้านจัดสรรราคา 10-60 ล้านบาท 4 แห่ง ได้แก่ บ้านแสนสิริสุขุมวิท 67 ,นาราสิริ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ,นาราสิริ สาทร-วงแหวน และโครงการ The Emperor

บ้านจัดสรรระดับพรีเมี่ยม ราคาขาย 5-10 ล้านบาท 4 แห่ง ได้แก่ เศรษฐสิริ สนามบินน้ำ ,เศรษฐสิริ รามอินทรา , เศรษฐสิริ วงแหวน-สุขาภิบาล ,และ The Gallery ถนนพุทธมณฑลสาย 1 และบ้านจัดสรร ราคาขาย 3-5 ล้านบาท ได้แก่ สราญสิริ รามอินทรา และโครงการ Las Tortugas (ลาส ตอตูกัส) คอนโดมิเนียมตากอากาศที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และลงทุนผ่านบริษัทในเครือได้แก่ สาทรพลัส และเดอะ โฟว์ตี้ไนน์พลัส 2

ส่วนบริษัทพลัสฯ ลงทุนโครงการ 5 แห่ง ได้แก่ พลัสซิตี้พาร์ค เกษตร-นวมินทร์ ,พลัสซิตี้พาร์ค ลาดพร้าว 71 ,พสัสซิตี้พาร์ค พระราม 9 - หัวหมาก , พลัสซิตี้พาร์ค เอกมัย-รามอินทรา และพลัสซิตี้พาร์ค สุขุมวิท 101/1   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us