-แม้จะเข้ามาทีหลังแต่ชูยอดขายทั่วโลกทะลุ 400,000 คันแน่ เฉพาะไทย 3 เดือนแรกหวังโกยเฉียดหมื่น
-จับตา 5 วันแรกหลังเปิดตัวจะทุบสถิติแจ๊สที่ทำยอดราว 2,000 คันได้หรือไม่
ยอมปล่อยให้ฮอนด้าส่ง แจ๊ส คอมแพ็กค์คาร์ขนาดเล็ก 5 ประตู โกยตลาดมาเสียเกือบ 2 ปี โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย ก็ได้ฤกษ์ส่งรถยนต์คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง ยาริส ลงตลาดเข้าประกบเสียที แม้ว่านักวิเคราะห์บางสำนักจะมองว่า ยาริส เข้ามาค่อนข้างช้า เพราะปัจจุบันฮอนด้า แจ๊ส จากค่าย ฮอนด้า ออโตโมบิล สามารถทำยอดขายได้เดือนละกว่า 3,500 คัน โดยในปี 2547 ฮอนด้าแจ็สสามารถกวดยอดขายได้เกือบ 30,000 คัน แม้ว่าในปีที่ผ่านมายอดขายจะลดลง แต่ก็เป็นไปตามกระแสความต้องการรถยนต์นั่งของตลาดรวมลดลงด้วย
ทั้งนี้ โตโยต้า ยาริส น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของการทำตลาดรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ของโตโยต้าอีกครั้งหนึ่ง โดยวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้อยู่สูงกว่ารถยนต์นั่งอย่าง โซลูน่า วีออสเล็กน้อย และเป็นระดับเดียวกับฮอนด้า แจ๊ส โดยดูได้จากระดับราคาที่อยู่ในช่วงตั้งแต่ 500,00-700,000 บาท เช่นเดียวกับฮอนด้าแจ๊ส
คาซูโอะ โอคาโมโต้ รองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “โตโยต้าแนะนำยาริส เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี พ.ศ.2542 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดยุโรป จนกระทั่งได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งทวีปยุโรป ในปี พ.ศ.2543 และขยายความนิยมไปยังตลาดอเมริกาเหนือ รวมทั้งในประเทศญี่ปุ่น จากความสำเร็จของยาริส เราได้วางแผนการขาย ยาริสใหม่ในปีนี้มากกว่า 400,000 คันทั่วโลก”
ขณะที่เรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ยาริสใหม่ จะเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่
“โตโยต้า ยาริส จะผลิตที่โรงงานประกอบรถยนต์เกตเวย์ โดยตั้งเป้าหมายการขายในประเทศใน 3 เดือนแรก จำนวน 9,000 คัน และส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน จำนวน 7,350 คันในช่วง 3 เดือนแรก” เรียวอิจิ กล่าว
สำหรับ ยาริส นั้นจะใช้เครื่องยนต์ 1 NZ-FE บล็อกเดียวกับโตโยต้า วีออส VVT-i ขนาด 1500 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า หรือ 80 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS วงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร
ยาริส ที่เปิดตัวในเมืองไทยมีด้วยกัน 3 รุ่นได้แก่ รุ่นมาตรฐาน E ที่มีทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาให้เลือก รุ่นพรีเมี่ยม เกียร์อัตโนมัติ S Limited และรุ่นสูงสุดคือ G Limited
โตโยต้าบอกว่า ยาริสถูกการออกแบบ “Vibrant Clarity” ภายใต้องค์ประกอบหลัก 4 ประการ “PASS” ในการสร้างสรรค์ ได้แก่ P หมายถึง “Proportion” การออกแบบเพื่อความสดใหม่ ในแต่ละมุมมองของตัวรถ A คือ “Architecture”การออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ล้ำสมัย S “Surface”เป็นการออกแบบที่แฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง และ S หมายถึง “Something special” การออกแบบโดยรวม ที่สะท้อนความพิเศษของรถคันนี้
สิ่งที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับรถยนต์ระดับคอมแพ็กต์สำหรับ ยาริส คือ ปุ่มสตาร์ทแบบใหม่ จุดระเบิดความแรงได้เพียง ปลายนิ้ว และสามารถเปิดล็อคประตูรถอัตโนมัติเพียงแค่อยู่ใกล้ ในรัศมีสัญญาณ ซึ่งเป็นระบบที่อยู่ในรถยนต์ขนาดใหญ่
เมื่อผนวกความสด ใหม่ และอุปกรณ์ต่างๆ ของยาริส คาดว่าจะทำให้โตโยต้า สามารถสร้างกระแสได้สบายๆ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่า ความร้อนแรงของยาริส หลังเปิดตัวน่าจะทำให้ยอดขายฮอนด้าแจ๊ส สะดุดได้ระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดีคงการวัดกระแสของยาริส อาจต้องดูยอดขายในช่วงแรกของการเปิดตัวด้วย ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน ฮอนด้า สามารถทำยอดขายแจ๊ส ช่วงเปิดตัวด้วยยอดกว่า 2,000 คัน และคงต้องดูว่าสถิติของแจ๊สจะถูกยาริสลบได้หรือไม่
ขณะที่ฮอนด้า แจ๊ส นั้นปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นราว 500,000 บาท ไปจนถึงกว่า 700,000 บาท ในรุ่นที่มีการตกแต่งพิเศษ ซึ่งข้อได้เปรียบหนึ่งของแจ๊ส คือ ความหลากหลายของรุ่นที่มากกว่าทั้งรุ่นปกติ และรุ่นตกแต่งพิเศษ รวมถึงเครื่องยนต์ที่มีให้เลือก 2 แบบคือ IDS-i และ V-TEC ขนาด 1500 ซีซี.เช่นกัน นอกจากนี้การที่แจ๊ส เข้ามาอยู่ในตลาดค่อนข้างนานกว่า ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องอุปกรณ์ตกแต่งที่มีหลายแบบ และหลายราคา
ทั้งนี้ ยาริส อาจต้องใช้เวลาในการสร้างยอดขายระยะหนึ่ง และเมื่อมียอดขายในจำนวนที่มากเพียงพอ การเพิ่มในเรื่องอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งความหลาก หลายและราคา ก็น่าจะสามารถไล่ฮอนด้าแจ๊สทัน
อย่างไรก็ดี ไพบูลย์ ไวความดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้าฯ ก็มั่นใจว่า ยาริส จะได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเป็นรถยนต์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าอีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้าหลังจากนี้
|