กระทรวงการคลังเปิดเกมรุกตลาดบ้านมือสอง เตรียมให้ค่านายหน้าเจ้าหน้าที่อปท. ดึงคนซื้อและขายบ้านผ่านเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูล อสังหาฯ คาดค่านายหน้าไม่ต่ำกว่า 1% จากราคาซื้อขาย ด้านศูนย์ข้อมูลใส่เกียร์ เต็มที่พัฒนาโปรแกรม-เพิ่มค่าเวลาใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอินเทอร์เน็ตตำบลโครงการของรัฐ ชี้ข้อมูลในเชิงลึกของตลาดบ้านทั่วประเทศจะสมบูรณ์ขึ้น "ไชยยศ" กำชับคณะทำงานเร่งสรุปร่าง กฎหมายคุมตัวแทนนายหน้าซื้อขายบ้านให้เสร็จภายใน 3 เดือน

นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภาย หลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "มหกรรม บ้านมือสอง 4 มุมเมือง" ครั้งแรก ณ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ว่า การจัดมหกรรมบ้านมือสองฯในครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำบ้าน มือสองที่อยู่ในแหล่งใกล้เคียงฝั่งธนบุรี มาให้ผู้ต้องการซื้อบ้านได้เลือกซื้อและเป็นช่องทางให้ผู้ซื้อกับผู้ขายมาพบกัน พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ธนาคารอาคาร สงเคราะห์(ธอส.)จัดงานมหกรรมบ้านมือ สอง ไปตามถนนสายหลักที่มีบ้านมือสอง เป็นจำนวนมาก เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี รวมถึงการออกไปจัดยังภูมิภาค ด้วย เพื่อให้ตลาดบ้านมือสองที่มีอยู่ในประเทศ 200,000 หน่วยขยายตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จัดงานมหกรรมบ้านมือสองในภูมิภาคด้วย โดย จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ช่วยในการจัดงานและการซื้อขายบ้าน โดยให้ อปท. มีรายได้จากค่าธรรมเนียม (ค่านายหน้า)จากการทำนิติกรรมในการซื้อขายบ้านด้วย เพื่อให้ตลาดบ้านมือสอง ในภูมิภาค มีการขยายตัวมากขึ้นด้วย และเพื่อสร้างความเชื่อถือของตลาดบ้านมือสอง จึงได้ให้คณะทำงานเร่งสรุปร่างกฎหมายในการควบคุมดูแลตัวแทนนายหน้าในการซื้อขายบ้าน เพื่อให้มีองค์กรขึ้นมาดูแลให้ผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และไม่เป็นการขูดรีดจากลูกค้ามากเกินไป คาดว่าคณะทำงานจะสรุปกฎหมายได้เสร็จภายใน 3 เดือน

นายพงษ์ศักดิ์ ชิวรัตน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ และเลขาธิการสภาที่อยู่อาศัย กล่าวเสริมว่า ทางศูนย์ฯกำลังเร่งพัฒนาโปรแกรมเกี่ยวกับตลาดบ้านมือสองเสริมทั้งหมดเข้าไปอินเทอร์เน็ตของอปท. ซึ่งอปท.ทุกแห่งจะมีอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นส่วนของโครงการอินเทอร์เน็ตตำบลตามนโยบายของรัฐบาล โดยเป็นการเชื่อมข้อมูลเกี่ยว กับตลาดที่อยู่อาศัยทั้งหมดในอปท.ซึ่งในเบื้องต้นจะเข้าไปพัฒนาใน 5 จังหวัดปริมณฑล คือ จ.นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, ปทุมธานี และนนทบุรี และเฉพาะอปท.ใน 5 จังหวัดก็มีหน่วยงานเทศบาลกระจายรวมกันถึง 311 เทศบาล ทำให้ทางศูนย์ฯจะได้รับข้อมูลทุกๆ ด้านเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยทุกประเภท มีรายละเอียด มีรูปภาพของตัวทรัพย์สินดังกล่าวมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเป็นข้อมูล ต้นทางในต่างจังหวัด ทำให้ทางศูนย์ฯไม่ต้องรอคอยข้อมูลจากหน่วยงานอื่น หรือจากสมาชิกที่ข้อมูลเข้ามาไม่ครบถ้วน

"การเชื่อมเครือข่ายกับอปท.จะทำให้สังคมของศูนย์ข้อมูลกว้างขึ้น และขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังภูมิภาคต่างๆ 11 แห่ง เพื่อวางระบบให้แก่อปท.นั้นๆ ทำ ให้คาดว่าภายในสิ้นปี ศูนย์ฯจะมีเครือข่ายถึง 1,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งก็เป็นระดับจะช่วยให้รู้ถึงข้อมูลในตลาดได้เป็นอย่างดี" นายพงษ์ศักดิ์กล่าวและว่า

ทางกระทรวงการคลังยังได้มอบหมายให้ศูนย์ฯสร้างโปรแกรมเกี่ยวกับการซื้อและขายบ้านมือสองขึ้น โดยให้ทาง เจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของอปท.ใส่ข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขาย และเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น ทางอปท.จะได้ค่านายหน้าสำหรับรายการนั้นๆ ซึ่งในเบื้องต้นจะอยู่ ที่ 0.5% หรือมากกว่า 1% ของมูลค่าการ ซื้อขาย ทำให้ตลาดบ้านมือสองในต่างจังหวัดมีสภาพคล่องมากขึ้น ขายได้ไวขึ้น เนื่องจากพบว่า เวลามีการซื้อขายภายในแต่ละตำบล ทางอปท.จะรับรู้ข้อมูลได้ก่อน เพราะมีความใกล้ชิดกัน อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือที่เกิดขึ้น ก็ได้รับความ ช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมโยธาธิการและผังเมืองด้วยดี ขณะเดียวกันเตรียมที่จะออกใบอนุญาต(ไลเซนส์)ตัวแทนนายหน้า ให้แก่ข้าราชการใน อปท. โดยจะมีการ ระบุไว้ในกฎหมายที่กระทรวงฯกำลังยกร่างขึ้นใหม่

ปัจจุบัน ตามข้อมูลของอปท. ณ 21 มิ.ย.2547 ระบุว่า บุคลากรในอปท. ซึ่ง รวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.), องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)และเทศบาล มีพนักงานข้าราชการ 48,634 คน ลูกจ้างประจำและชั่วคราวรวม 98,610 คน รวมบุคลากรอปท.ทั้งหมด 147,252 คน