ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล เดินหน้าส่งชิ้นส่วนให้ MANDO เพื่อทดลองใช้กับรถยนต์ หากพอใจจะสรุปผลราคาซื้อขายได้อีกไม่ช้านี้ เผยเตรียมเจรจากับลูกค้าจากญี่ปุ่นและฟินแลนด์เดือนหน้า เชื่อได้ออเดอร์เพิ่มแน่ ขณะที่ยูชอนไพพ์ (ประเทศไทย) เดินเครื่องผลิตลดต้นทุนปีนี้ ฟุ้งรายได้โตไม่ต่ำกว่า 15%

นายนพดล วณิชวิศิษฎ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จำกัด(มหาชน) (CPR) เปิดเผยว่าดีลการตกลงในการผลิตสินค้าให้กับ MANDO ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตโช้กอัปรายใหญ่ของเกาหลีและอยู่ในเครือฮุนไดนั้น ขณะนี้บริษัทได้ส่งสินค้าให้กับ MANDO ที่เกาหลีแล้ว เพื่อให้นำสินค้าใช้ทดลอง กับรถยนต์ ก่อนที่จะตกลงตัดสินใจ ว่าให้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้หรือไม่ และอาจมีการต่อรองเรื่องราคาสินค้าด้วย เนื่องจากในเกาหลีก็มีผู้ผลิต หลายราย หากราคาต่อรองแม้จะถูกลง แต่ต้องมีกำไรบ้าง CPR ก็ยินดีที่จะขายสินค้าตามออเดอร์ แต่หากราคาถูกจนไม่เห็นกำไรก็คงไม่เป็นไปตามที่หวัง

"ขณะนี้เรารอการสรุปราคาซื้อขายเราต้องมีกำไรบ้าง หากไม่มีกำไร เราก็คงไม่ขาย เพราะเราไม่ต้องการมีกำไรจากการประหยัดภาษีหรือกำไรจากการได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอเท่านั้น แต่ดีลนี้จะสรุปได้ปีนี้แน่นอน" นายนพดลกล่าว

การที่ MANDO หันมาซื้อสินค้าจาก CPR เนื่องจากความสูญเสียจากการผลิตของ CPR จะน้อยกว่าเท่าตัว ทำให้ลูกค้าหันมาไทยมากขึ้น โดยแต่ละปี MANDO จะสั่งซื้อสินค้า ประมาณ 20 ล้านบาท จะเป็นเม็ดเงินที่ได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง

นายนพดลกล่าวว่า นอกจาก MANDO แล้ว ยังมีลูกค้าจากประเทศฟินแลนด์และญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาเจรจากับ CPR เพื่อให้ผลิตชิ้นส่วนให้ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะฟินแลนด์ถือเป็นการเปิดตลาดยุโรปแห่งแรก แต่ก็ต้องรอผลการเจรจาก่อน เช่นกัน เพราะลูกค้าต้องเสนอราคามา ก่อนว่าต้องการที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งจะมีการเจรจากันในเดือนกุมภาพันธ์นี้ การมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นการได้ผ่านทาง พันธมิตรที่รู้จักกับบริษัทและแนะนำให้มาเจรจาเพื่อตกลงในรายละเอียด

สำหรับผลงานไตรมาส 4 ที่ผ่านมานั้นผลงานเป็นที่พอใจ ซึ่ง CPR จะส่งงบการ เงินปลายเดือนหน้า และ รายได้ของงวดปี 48 เป็นไปตามเป้าหมายคือทำได้ประมาณ 270 ล้านบาท ส่วนปี 49 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 320 ล้านบาท หรือเติบโตจาก ปีก่อน 15% ขณะที่การจ่ายปันผลก็ยังคงมีต่อเนื่อง แต่ต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลังจากแจ้งงบการเงินงวดสิ้นปี 48 ก่อน

โดยปีนี้ CPR ยังได้รับผลดีจากการที่บริษัทร่วมทุนกับเกาหลีอย่าง ยูชอนไพพ์ (ประเทศไทย) ที่ขณะนี้ทดลองผลิตและคาดว่าจะผลิตสินค้าได้ไตรมาส 2 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลงด้วย เพราะบริษัทร่วมทุนนี้จะผลิตท่อเหล็กป้อนให้กับ CPR อีกต่อหนึ่ง แทนนำเข้าจากเกาหลี ซึ่งบริษัทต้องนำเข้ามาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์ หลังจากที่มี MO-SHOP และ PART- MATCHINE SHOP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริษัท อีกทั้งการที่ CPR มีบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ซีจีไอ เมททัล อินดัสเตรียล จำกัด ซึ่งปั๊มเหล็กให้บริษัทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

นายนพดล กล่าวถึงกรณีที่ราคา หุ้นปรับลดลง เพราะมองว่านักลงทุนจะได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น หลังจากที่เมื่อ ราคาสูงขึ้นนักลงทุนก็จะขายหุ้นออกมา แต่ยืนยันว่าช่วงที่หุ้นมีการซื้อขายกันหนาแน่นนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารที่จะให้ข่าวอินไซด์แต่อย่างใด

สำหรับราคาหุ้น CPR วานนี้ พบว่าเปิดตลาดมาที่ 2.10 บาท และปรับลดและบวกเพิ่มเป็นระยะๆ และช่วงบ่ายราคาค่อยๆ ปรับเพิ่ม ก่อนปิดตลาดที่ 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท คิดเป็น 1.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.77 ล้านบาท