บลจ.ทหารไทย เปิดขาย "โกลด์ ฟันด์" รอบใหม่ 23 ม.ค.นี้ พร้อมชูผลตอบแทนล่อใจ หลังลงทุนได้เพียง 1 เดือนรับผลตอบแทนไปแล้ว 5.2% จากราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุน เปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ (TMB Gold Fund) รอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมนี้เป็นต้นไป โดยกองทุนนี้ มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศโดยเน้นลงทุนในกองทุน StreetTracks Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำชั้นนำของโลกสำหรับการลงทุนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังจากได้มีการเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน- 1 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ ฟันด์ ได้ผลตอบแทน 5.20 % เปรียบเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งในประเทศไทยที่ให้ผลตอบแทน ประมาณ 5.03% (ราคาทองคำในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 9,800 บาท เป็น 10,450 บาท)

นางโชติกา กล่าวว่า ทั้งนี้ผลตอบแทนของกอง ทุนเกิดขึ้นจากการที่ราคาทองคำตลาดโลกเพิ่มขึ้นจาก 503 เหรียญสหรัฐ เป็นประมาณ 554 เหรียญสหรัฐ ทำให้กองทุนมีกำไรจากการลงทุน ในทองคำประมาณ 10% ในขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นจาก 41.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็นประมาณ 39-40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้กองทุนมีการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5% ทำให้ผลตอบแทนโดยรวม ของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 5% ซึ่งใกล้เคียงกับการลงทุนในทองคำแท่งในประเทศ

"โดยปกติทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เคยด้อย ค่า แม้ว่าราคาทองคำจะมีโอกาสผันผวนได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะพบว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ จะช่วยเรื่องการกระจายความเสี่ยงซึ่งอาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตราสารประเภทต่างๆในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรได้เมื่อภาวะตลาดเอื้ออำนวย" นางโชติกากล่าว

ขณะนี้กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 360 ล้านบาท โดยมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.5277 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มกราคม 2549) โดยผู้ถือหน่วยจะได้รับความสะดวกจากการซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ แต่เนื่องจากเวลาประเทศไทยต่างจากสหรัฐอเมริกา 12 ชั่วโมง ทำให้การคำนวณมูลค่าสิน ทรัพย์สุทธิ ราคาขาย ราคารับซื้อคืนต้องทำในสิ้นวันทำการถัดจากวันทำการซื้อขาย

สำหรับจุดเด่นของกองทุนทหารไทย โกลด์ ฟันด์ จะอยู่ที่การลงทุนในทองแท่งที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.99% แตกต่างจากทองคำในประเทศไทยที่มีความบริสุทธิ์เพียง 96.5% และยังใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ต่ำกว่าการลงทุนในทองคำแท่งที่ต้องซื้อน้ำหนักขั้นต่ำ 5 บาท อีกทั้งผู้ลงทุนยังลดความเสี่ยงจากการเก็บรักษาทองคำด้วยตนเองเนื่องจากมีธนาคาร HSBC Bank USA สำนักงานกรุงลอนดอนเป็นผู้รักษาทรัพย์สิน

ขณะที่ในประเทศไทยหากเก็บทองจำนวนมาก อาจต้องรับความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมหรือต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทองไว้ที่ธนาคาร และหากต้องการขายก็จะต้องไปที่ร้านเดิมที่ซื้อมาเนื่องจากมีร้านทองเพียง 71 ร้าน จากกว่า 6,000 ร้านทั่วประเทศที่ได้มาตรฐานด้านความบริสุทธิ์จากสำนักงาน คุ้มครองผู้บริโภค