พรานทะเลเผยแผนการ ตลาดปีจอเล็งเข้าช่องทางระดับรากหญ้า ทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาทตั้งเป้าวางตู้แช่ครบ 1,000 จุดในปีนี้ หวังผลสร้างแบรนด์ เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม เผยปีนี้เตรียม เปิดตัวสินค้ากว่า 100 รายการ ล่าสุดส่ง "ดูโอ แดลิเชียส เมนู" บุกตลาดอาหารทะเลพร้อมปรุง ส่วนตลาดส่งออกขยาย ตลาดเพิ่ม 3 ประเทศ ตั้งเป้าโกยรายได้รวมปีนี้ 1,000 ล้านบาท

นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในเครือบริษัทยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์การตลาดของ บริษัทฯปีนี้จะให้ความสำคัญทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ โดยปีนี้มีแผนรุกช่องทางการขายในระดับรากหญ้า หมู่บ้าน และร้านค้าเล็กๆ หรือโชวห่วยทั่วไปมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันช่องทางการขายของพรานทะเลมีกว่า 900 จุด ทั้งโมเดิร์นเทรด, คอนวีเนียนสโตร์ ซึ่งถือว่าเกือบครอบคลุม ทุกจุดแล้วในกลุ่มกลางถึงบน ขาดแต่เพียง ช่องทางระดับล่างเท่านั้น

ดังนั้น บริษัทฯจึงต้องการสร้าง แบรนด์พรานทะลให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นผ่านช่องทางนี้ เบื้องต้นเมื่อช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯได้ทดลองวางตู้แช่ในร้านค้าทั่วไปแล้ว 100 จุดในเขตกทม. โดยการทำตลาดใน กทม.จะแบ่งออกเป็น 8 โซนผ่านทีมเซลส์ที่มีอยู่ 8 คน ในการเป็นตัวแทนเจรจาผ่านร้านค้า จากนั้น จะเริ่มรุกไปยังภาคต่างๆ เช่น ภาคเหนือ, ใต้, อีสาน ภายใต้การทำตลาดของทีม เซลส์ ประมาณ 6 คน

ทั้งนี้ บริษัทฯจะเป็นผู้ลงทุนตู้แช่ให้แก่ร้านค้าที่สนใจ คาดว่าจะต้องใช้งบลงทุน ประมาณ 20 ล้านบาทในการขยายจุดขาย ในช่องทางนี้ให้ครบ 1,000 แห่งภายในปีนี้ ในส่วนของสินค้าพรานทะเลที่จะนำไปวางขาย จะมีหลากหลาย ทั้งอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน ระดับราคา ขายอยู่ที่ 32 บาทถือว่าคุณภาพ สมราคา โดยบริษัทฯเร่งให้ความรู้ด้านโภชนาการ แก่ลูกค้ากลุ่มนี้ก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯยังตั้งเป้าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะสามารถกระจายจุดขายไปยังกลุ่มรากหญ้า ทั่วประเทศได้ 3-4 พันจุด และตั้งเป้ายอดรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท

แผนการทำตลาดปีนี้บริษัทฯจะเน้นการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในตลาด อาหารแช่แข็งพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเปิดตัวอีก 100 รายการ ภายใต้งบทางการทำตลาดในปีนี้ประมาณ 50 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุง "ดูโอ แดลิเชียส เมนู" 4 รายการ ได้แก่ เนื้อปลากะพงขาว-ซอสผัดกะเพรา และเนื้อปลาเก๋า-ซอสโป๊ะแตก เป็นต้น

"เราต้องการผลักดันให้บริษัทฯก้าวสู่คอร์ปอเรตแบรนด์ทางด้านอาหารแบบครบวงจร โดยอีก 1-2 เดือนจะเปิดตัวซับแบรนด์ใหม่ในกลุ่มขนมหวาน และแตกไลน์เปิดอาหารสุนัข ภายใต้แบรนด์ "ด็อก ฟู้ดส์"กำลังอยู่ในช่วงทดลองตลาดอยู่ หรือน้ำผลไม้พรานไพรที่กำลังติดต่อไปวางขายในแฟมิลี่มาร์ท อีกทั้งใน ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีอินโนเวทีฟและคาดว่าจะสร้างสีสันให้ตลาดได้อย่างแน่นอน โดยปีนี้บริษัทเตรียมบุกนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนกว่า 40 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักรเพิ่ม เช่น เครื่องจักรผลิตข้าว, ขนมจีบ และไส้กรอกซีฟูด เป็นต้น โดย เราจะเน้นใช้เครื่องจักรแทนคนมากขึ้น"

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ร่วมทุนกับ บริษัทเคียวคุโย จากญี่ปุ่นในการผลิต และจำหน่ายอาหารญี่ปุ่นกลุ่มซูชิ ขณะที่ธุรกิจอื่นของพรานทะเล อาทิ ร้านพรานทะเล ฟู้ดส์ คอร์ท ที่จำหน่ายอาหาร ทะเลที่ปรุง สดๆ พร้อมรับประทาน ขณะนี้อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า 8 แห่ง ได้แก่ ที่เซ็นทรัล 7 สาขา และสยามพารากอนในปีนี้มีแผน เพิ่มช่องทางขายอีก 10 แห่งตามห้างฯ รวม ถึงยังมีช่องทางขายในคอนวีเนียนสโตร์ ที่บริษัทฯเพิ่งเข้าไปวางขายสินค้าในแฟมิลี่ มาร์ท 540 สาขาทั่วประเทศ เป็นต้น

เล็งเพิ่มส่งออกอีก 3 ประเทศ

นายอนุรัตน์กล่าวด้วยว่า ในส่วนการ ทำตลาดในต่างประเทศของแบรนด์พรานทะเล ปัจจุบันบริษัทฯได้นำสินค้าไปวางขาย ในห้างแฟร์ไพรซ์ของสิงคโปร์ 20 จุดแล้วเมื่อช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นประตูทางการค้า ของเอเชียในการทำให้แบรนด์พรานทะเลไปได้ครอบคลุมในเอเชียมากขึ้น สำหรับ ปีนี้มีแผนขยายตลาดเพิ่มอีก 2-3 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง, ออสเตรีย และอังกฤษ โดยในส่วนยอดรายได้ตลาดส่งออกบริษัทฯ คาดว่าจะมีประมาณ 10-20 ล้านบาท

ขณะที่ ยอดรายได้รวมปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอด รายได้มากกว่า 950 ล้านบาท หรือมีอัตรา การเติบโต 100% จากปี 2548 ที่มียอดรายได้ 600 ล้านบาท ปัจจุบันพรานทะเล มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุง 90% อาหารทะเลแช่แข็งพร้อม รับประทานมี 20-30% และอาหารทะเลพร้อมรับประทานแบบเทกโฮมมี 20%