บิ๊กบอส "อควาเรียสฯ" ปักธงเกาะสมุยผุด โปรเจกต์แรกรับปีใหม่ รูปแบบวิลลาคอนโดมิเนียมระดับเอ็กซ์- คลูซีฟ ภายใต้ชื่อ "คาซ่าเวล่า"กว่า 400 ล้านบาท โดยมีแบงก์ไทยพาณิชย์ซัปพอร์ตเงินกู้ ชี้ช่องว่างราคาระดับกลาง 10-20 ล้านบาทยังไปได้ ดึงกลยุทธ์บริหารบริการปล่อยเช่าสร้างผลตอบแทนสุทธิขั้นต่ำ 8% พลิกความคาดหมายเศรษฐีคนไทยซื้อแซงหน้าคนต่างชาติ มอง ผลตอบแทนระยะยาวดี เล็งกลางปีผุดวิลลาหรูบนภูเขา เน้นทำตลาดราคาขายไม่เกิน 20 ล้าน บาท
นายยงยุทธ ชัยพรหม-ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปี 2549 ว่า บริษัทได้ตัดสินใจเปิดตัวโครงการแรกภายใต้ชื่อ คาซ่าเวล่า (CASAVELA) รูปแบบ วิลลา คอนโดมิเนียมระดับเอ็กซ์คลูซีฟ บนแหลมเส็ด เกาะสมุย มูลค่าโครงการกว่า 400 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สนับสนุนสินเชื่อในการพัฒนาโครงการ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับเอทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงอนาคตการเติบโตของวงการอสังหาฯในเมือง ท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะเกาะสมุย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของอสังหาฯสูงมากในปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีโครงการ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้สามารถปิดการขายไปได้เกือบ 100% ส่วน โครงการที่กำลังเปิดขาย(Active) จำนวน 12 โครงการ ยอดขายเฉลี่ยทุกโครงการสูงถึง 40% บางโครงการมียอดขายไปถึง 80% และมีโครงการที่เตรียมเปิดใหม่รวมถึงโครงการของบริษัทอีก 4 โครงการ
ขณะที่ตามข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาเกาะสมุยในปี 2548 จะสูงถึง 1 ล้านคน หรือโตขึ้น 23% เมื่อเทียบ กับปีก่อนหน้านี้ โดยจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศเยอรมนี, อังกฤษ, ไทย, ออสเตรเลีย และแนวโน้มจากประเทศสวีเดนเริ่มขยับขึ้นมาอยู่ที่ 50% อัตราการ ใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคน ต่อวันประมาณ 3,000 บาท และระดับราคาห้องพักจะเปลี่ยนแปลง ตามฤดูท่องเที่ยวระหว่าง 4,500-10,000 บาทต่อคืน ซึ่งในบางช่วงอัตราการเข้าพักสูงถึง 80%
"สมุยกำลังมีการเจริญเติบโต ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลก ราคาที่ดินบนเกาะยังไม่สูงจนเกินไป และคาดว่าปี 2550 ราคาน่าจะขยับขึ้นไปอีก และจากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ให้เช่าระยะ ยาว ขนาดของโครงการไม่ใหญ่ประมาณ 30 ยูนิต ขณะที่คุณภาพ ของโครงการยังมีน้อย" นายยงยุทธ กล่าวเช่นนั้น
สำหรับโครงการคาซ่าเวล่ามี พื้นที่โครงการรวม 6 ไร่ ประกอบ ด้วยอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 3 อาคาร จำนวนห้องพักเพียง 32 ยูนิต มีทั้งรูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 150 ตร.ม.และ 3 ห้องนอน ขนาด 250 ตร.ม.ซึ่งที่ตั้งโครงการ ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้ทุกห้องเห็น ธรรมชาติได้อย่างชัดเจน ขณะที่ในเรื่องของราคาที่นำเสนอจะพุ่งเป้าทำตลาดกลุ่มระดับ A ราคาประมาณ 10-20 ล้านบาท ซึ่งยังมีช่องทางเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก ขณะที่โครงการของผู้ประกอบการรายอื่น ระดับราคาที่เสนอจะสูงกว่า บางแห่งเสนอราคา 1 ล้าน เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 40 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะยังไม่เปิดการขายอย่างเป็นทางการ แต่ปรากฏว่ามียอดขายได้แล้ว 40% และเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีฐานะเข้ามาซื้อ จากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการคือชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการผสานความต้องการ และสร้างมูลค่าให้แก่ห้องพักของลูกค้าในรูปแบบบริการปล่อยเช่า ซึ่งจะมีส่วนสร้างผลตอบแทนให้แก่เจ้าของห้องพักสุทธิ 8% ต่อปี
คาดว่าไม่เกิน 6 เดือนจะสามารถปิดการขายได้ โดยในใจผมถ้าทำยอดขายได้ 80% ก็ถือ ว่าปิดการขายแล้ว ส่วนห้องชุดที่เหลืออาจจะรองรับเพื่อการปล่อยเช่า เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่องค์กร และถือเป็นทรัพย์สินของ บริษัทฯ คาดว่าโครงการจะพัฒนา แล้วเสร็จปี 2550
นายยงยุทธกล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ในกลางปีนี้ บริษัทมีแผน ที่จะพัฒนาโครงการวิลลา(บ้านเป็นหลังมี 2-3 ห้อง) บนเนื้อที่ 10 ไร่ซึ่งตั้งอยู่บนเขาเช่นกัน โดยจะเน้นทำตลาดในกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 20 ล้านบาท ซึ่งพิจารณาเห็นว่าราคาขายดังกล่าวเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ตั้งเป้าแผนปี 49 ที่จะมีการพัฒนาโครงการและบริหารโครงการรวมมูลค่า กว่า 2,600 ล้านบาท แยกเป็น โครงการที่เกาะสมุยมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท และการรับบริหารโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง (ไพรม์แอเรีย) มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าไม่เกิน 3 อาทิตย์ จากนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
|