|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ประกอบการน้ำเมาระบุ มาตรการลดเวลาโฆษณา-ห้ามโฆษณา 24 ชั่งโมงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ยันหากผุดมาตรการห้ามโชว์เหมือนบุหรี่สินค้าหนีภาษีทะลัก ส่วนอุตสาหกรรมโฆษณาเจ็บหนักคาดสูญเสียเม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี "เมเจอร์ฯ" เชื่อไม่กระทบรายได้โฆษณาน้ำเมาโรงหนัง ด้าน "ไอทีวี" ชี้โฆษณา
น้ำเมาทางทีวีน้อยติดอันดับรั้งท้าย
นายสมชัย สิทธิกุลพาณิช รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจมาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง เปิดเผยว่า หลังจากที่ภาครัฐมีแนวทางห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณา 24 ชั่วโมง ซึ่งมาตรการนี้ช่วยลดปริมาณการดื่มได้จริงหรือ จริงๆ แล้วมีวิธีการลดปริมาณการดื่มลงหลากหลายวิธี แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมให้ แก่กลุ่มผู้ดื่มมากกว่าการที่ใช้มาตรการคุมเข้มอย่างเดียว
ส่วนแนวคิดของภาครัฐที่จะห้ามโฆษณาผ่านสื่อทางวิทยุโทรทัศน์เหลือเพียง 3 ชั่งโมง ตั้งแต่เวลา 02.00-05.00 น. จากเดิมสามารถโฆษณาได้ 7 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 22.00-05.00 น. ก็เท่ากับว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้โฆษณาอยู่แล้ว เพราะช่วงเวลาดังกล่าวก็แทบไม่มีใครดู ก็สู้ไม่ต้องให้โฆษณาเลยจะดีกว่า
"เราอยากให้ภาครัฐหันมารณรงค์ด้วยการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคที่ถูกต้องมากกว่าการออกมาประกาศมาตรการบังคับใช้ ส่วนเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามสถานที่ราชการ สถานศึกษา และวัดนั้นบริษัทเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว"
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจฯ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐออกมา แต่เชื่อว่ามาตรการ ที่ออกมานอกจากจะกระทบต่อภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ขณะเดียวกันยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมโฆษณาทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้โฆษณาผ่านสื่อในแต่ละปีประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า หากภาครัฐมีมาตรการห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งโชว์เหมือนกับบุหรี่ เชื่อว่าจะมีเหล้าหนีภาษีเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน ชาวบ้านระดับรากหญ้าก็อาจจะมีการต้มเหล้าเถื่อนกลับมาขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว การที่สินค้าขายไม่ต้องตั้งโชว์ทำให้เหล้า ที่ขายอยู่ในตลาดไม่มีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าได้จากมาตรการห้ามตั้งโชว์สินค้าของรัฐบาล
บุญรอดฯ-ริชมอนเด้จุกปาก
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอเบียร์ และไทเบียร์ กล่าวว่า รัฐไม่จำเป็นต้องออกมาตรการใหม่เข้ามามากมายหากมีการควบคุมกันอย่างจริงจัง เพราะมาตรการของภาครัฐที่ออกมาควบคุมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีปริมาณมากพออยู่แล้วที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการดื่มได้ตามวัตถุประสงค์
ขณะเดียวกัน นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด เปิดเผยจากการที่ภาครัฐมีแนวคิดที่จะไม่ให้มีการตั้งโชว์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะอาจทำให้สินค้าหนีภาษีเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้แม้ว่าภาครัฐยังไม่มีมาตรการห้ามตั้งโชว์สินค้า แต่บริษัทก็ได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าวบ้าง เช่น จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ เรด เลเบิ้ล มีสินค้าลักลอบเข้ามาตามชายแดนภาคใต้ ทำให้ยอดขายหายไป 50% เพราะสินค้าหนีภาษีมีราคา 400 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าถูกต้องตามกฎหมายราคา 580 บาท
"ปัจจุบันมาตรการในการควบคุมการจำหน่ายและโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีอยู่มากพอแล้ว ทั้งนี้ ถ้าหากภาครัฐมีการนำมาตรการบังคับใช้ที่เคยประกาศออกไป ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดเวลาจำหน่าย หรือการห้ามจำหน่ายให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี นำมาปรับบังคับใช้อย่างจริงจัง น่าจะสามารถช่วยแก้ปัญญาได้ดีกว่าการห้ามตั้งโชว์สินค้า"
เมเจอร์ฯยัน AD โรงหนังไม่กระทบ
ด้าน นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุป จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวว่า คงจะไม่กระทบต่อรายได้โฆษณาในโรงหนังของเมเจอร์ฯเท่าใด เพราะสื่อโฆษณาในโรงหนังในตลาดรวมแล้วมีเพียง 2% เท่านั้นจากมูลค่าตลาดโฆษณามากกว่า 80,000 ล้านบาท ส่วนสัดส่วนรายได้โฆษณาจากสื่อในโรงหนังของเมเจอร์ฯ จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีเพียง 2%
นอกจากนี้ผู้ประกอบการบางรายก็ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยที่ไม่ได้โฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่หันมาเน้นการโฆษณาตัวแบรนด์หรือสินค้าอื่น เช่น น้ำดื่มเป็นหลัก เช่น สิงห์ ที่เป็นพันธมิตรกับบริษัท ส่วนไฮเนเก้นนั้นเป็นเพียงการทำเช็กเสียง ไม่ใช้เป็นการโฆษณา ส่วนมาตรการนี้จะออกมาใช้อย่างไรนั้นไม่ขอออกความเห็นมากกว่านี้ ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการที่ดีก็ต้องทำตามกฎระเบียบของสังคมที่ถูกต้องอยู่แล้ว
ไอทีวีชี้เม็ดเงิน AD น้ำเมาไม่ติดฝุ่น
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นว่า มาตรการที่ภาครัฐออกมากระทบต่อไอทีวีบ้างแต่ไม่มาก เพราะปัจจุบันโฆษณาที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีน้อยอยู่แล้ว หลังจากที่ภาครัฐเคยประกาศห้ามโฆษณาก่อน 22.00 น. ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ในสินค้ากลุ่มนี้มีน้อยลงและอยู่อันดับท้ายๆ โดยเม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่ลูกค้าจะใช้ไปในกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ โปรดักต์เป็นอันดับ 1 รองมาเป็นกลุ่มอาหาร โทรคมนาคมและงานราชการ เป็นต้น
|
|
|
|
|