Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มกราคม 2549
เมเจอร์ฯวางเป้าแสนที่นั่งในอีก3ปี ดึงคนเอไอเอสเสริมทัพไอทีรองรับ             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์

   
search resources

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
Theatre




เมเจอร์ซี นีเพล็กซ์ เสริมทัพด้านไอที ดึงมือดีจากเอไอเอสร่วมวงเพียบ พ่วงด้วยลูกหม้อเก่าแมคโดนัลด์หวังพัฒนาระบบ ไอทีด้านการขายตั๋วหนัง รองรับการ ขยายตัวที่จะเพิ่มเป็น 1 แสนที่นั่งภายใน 3 ปีนี้ คาดรายได้ปีจอเติบโต 20%

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายจากนี้ไปของ เมเจอร์ฯจะยึดหลัก 4 แนวทาง คือ 1. การขยายธุรกิจด้วยการหาทำเลใหม่ๆ เนื่องจากธุรกิจนี้ยังเติบโตได้ อีกมาก 2. การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาบริการผู้บริโภคตลอดเวลา 3. การทำงานแบบทีมเวิร์กด้วย การเปิดโอกาสให้แก่ผู้บริหารมืออาชีพใหม่ๆ 4. การพัฒนาระบบทางด้านไอที บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะพัฒนาระบบไอทีให้กับธุรกิจโรงภาพยนตร์เพื่อความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคในการชมภาพยนตร์ เช่น การซื้อตั๋วหนังที่สะดวก การจองตั๋วล่วงหน้าโดย พึ่งพาระบบเทคโนโลยี ซึ่งเดิมรูปแบบการซื้อตั๋วเหล่านี้มีประมาณ 4-5% จากยอดขายตั๋วทั้งหมดของปีที่แล้วที่มีประมาณ 20 กว่าล้านบาท

อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นระบไอทีจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีความพร้อมเพื่อรองรับการขยายงานด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนที่นั่งให้ได้ครบ 100,000 ที่นั่ง จากปัจจุบันที่คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 75,000 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขา 30 แห่ง แบ่งเป็นเมเจอร์ฯ 19 แห่ง จำนวน 162 โรง และอีจีวี 11 แห่ง จำนวน 96 โรง และภายในปีนี้จะเพิ่ม จำนวนโรงอีกมากกว่า 45 โรง ซึ่งระบบบุ๊กกิ้งซิสเต็มต้องมีความแข็ง แกร่งและพร้อมในการรองรับการขยายตัว ด้วยสาเหตุนี้ทำให้บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการรุกธุรกิจจากนี้ไป โดยเฉพาะในเรื่องของระบบไอทีต่างๆ ที่จะมีความ จำเป็นอย่างยิ่งในโลกธุรกิจ

ทั้งนี้ ทีมผู้บริหารใหม่ประกอบ ด้วย 1. นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเดิมทำงานอยู่ที่เอไอเอสแต่ลาออกมาประมาณปีกว่าแล้ว 2. นางอรวรรณ กอวัฒนา ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ ดูแลรับผิดชอบในส่วนงานให้บริการ ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ ซึ่งล่าสุดลาออกมาจากแมคโดนัลด์ประเทศไทย 3. นายอาทร เตชะตันติวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวย- การ ดูแลรับผิดชอบโบว์ลิ่งทั้งหมด ซึ่งล่าสุดลาออกมาจากเอไอเอส 4. นายจิรเดช นุตสถิตย์ ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ ล่าสุดลาออกมาจากเอไอเอสเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นแล้ว ก่อนหน้านี้ ทางเมเจอร์ฯยังได้ร่วมกับนาย กฤษณัน เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท เอ็ม โอ แอล จำกัด โดยฝ่าย เมเจอร์ฯถือหุ้น 40% และฝ่ายนาย กฤษณันถือหุ้น 40% เพื่อทำเป็นซอฟต์แวร์เฮาส์ให้กับกลุ่มเมเจอร์ฯ

"ในอเมริกา ยอดการขายตั๋วมา จากระบบการจองล่วงหน้ามากกว่า 40% เมืองไทยไม่ต้องมากเท่านั้นก็ได้ ขอแค่ 10% ก็พอแล้ว ซึ่งถ้าหากเพิ่ม ความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคได้มากเท่าใด โอกาสในการที่จะเข้ามา ดูหนังก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น"

นายกฤษณันกล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้เมเจอร์ฯได้ทุ่มทุนประมาณ 30 ล้านบาทเพื่อลงทุนทางด้านไอทีและเทคโนโลยีต่างๆ และจะยังมีการ ลงทุนต่อเนื่อง "เป้าหมายของผมที่เข้ามาบริหารที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์คือ จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้ไอที เข้ามาเป็นส่วนเสริม ตัวอย่างเช่น สาขาสยามพารากอน ที่กำลังจะเปิดบริการจะมีพริตตี้ที่เดินขายตั๋วหนังในสยามพารากอนจำนวน 5 คน เข้ามาเสริมจุดขายตั๋วที่บ็อกซ์ ออฟฟิศที่มีประมาณ 12 ช่อง และจะยังมีระบบบริการใหม่ๆ ที่จะ เกิดขึ้นอีกมาก เช่น ดีไอวายทิคเก็ต จากเดิมที่มีหลายระบบแล้ว เช่น โมบายทิคเก็ต ออนไลน์ เว็บ ซึ่งก็จะมีการพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น เช่น พรินต์ตั๋วหนังจากที่บ้านได้เลย หรือเลือกที่นั่งจากที่บ้านได้เลย หรือจองตั๋วหนังล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ได้"

นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะแบ่งเซกเมนต์กลุ่มเป้าหมายของ โรงหนังด้วย เช่น มีแผนที่จะทำ โรงหนังที่ฉายหนังคุณภาพที่ไม่ได้เป็นหนังตลาด เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ ผู้ที่สนใจหนังคุณภาพไม่สามารถหาดูได้ หรือแม้แต่หนังฮอลลีวูด ที่ผู้บริโภคไม่สามารถดูได้ทันในช่วงโปรแกรมปกติก็สามารถดูได้ที่โรงหนังเฉพาะนี้ คาดว่าจะเลือกทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองมาทำในเซกเมนต์นี้

นายวิชากล่าวด้วยว่า การขยายธุรกิจต่อเนื่องของเมเจอร์ฯคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ไม่น้อยกว่า 20-25% จากเดิมปีที่แล้วมีรายได้รวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็น รายได้จากการขายตั๋วหนังกว่า 60% รายได้จากโบว์ลิ่ง 15% รายได้จากสื่อโฆษณาในโรงหนัง 10-15% และรายได้ จากพื้นที่ค้าปลีก 10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us