"บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ดัชนีชี้วัดกำลังซื้อปีจอไม่แตกต่างจากปีไก่ หลังพบตลาดบะหมี่ฯโตพรวด 2 ปีซ้อน เผยปี 49 โต 10% ส่งตัวเลขมูลค่าตลาดแตะ 10,000 ล้านบาท คนไทยรัดเข็มขัด กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซอง 5 บาท ทดแทน อาหารหลัก พร้อมเปลี่ยนพฤติกรรมตัด สินใจซื้อสินค้า คำนึงเชิงปริมาณเพิ่มขึ้น สินค้าขนาด ไจัมโบ้"ดาวรุ่งพุ่งแรง "มาม่า-ไวไว"ยิ้มรับยอดขายสิ้นปีพุ่ง
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ปีนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคไทยไม่ดีมากนัก และเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยลบจากปีที่แล้ว ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากภาครัฐ ประกอบ ด้วย ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ปัญหาความ ไม่สงบทางภาคใต้ อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อแม้ว่าจะลดลงจาก 6% เหลือเป็น 5% ก็ยังเป็นตัวเลขที่สูง ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคปีนี้มีความประหยัดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยตัวเลขจากสภาหอการค้าไทย พบว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ผู้บริโภคซื้อของขวัญราคาถูกลง เป็นต้น
จากแนวโน้มผู้บริโภคในปีนี้ที่มีพฤติกรรมรัดเข็มขัดเพิ่มมากขึ้น "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ดัชนีชี้วัดถึงสภาพเศรษฐกิจไทย อย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี คนจะหันมากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้น เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่มีราคาถูก คือ ซองละ 5 บาท และเป็นสินค้าที่กินแล้วอิ่มทดแทนอาหารหลักได้ โดยพบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดัชนีชี้วัดในปีนี้ เติบโตถึง 10% หรือมีมูลค่าเพิ่ม ขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมามูลค่าตลาด 9,500 ล้านบาท นับเป็นเวลา 2 ปีซ้อน (2548-2549)ที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในภาวะขาขึ้น จากปกติตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโตเพียง 4-5% เท่านั้น
สำหรับปีนี้ทิศทางของบะหมี่กึ่งสำเร็จ รูปขนาดจัมโบ้ มีแนวโน้มว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปกติโต 10% เพิ่มเป็น 20% ในปีนี้ ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะคำนึงถึงเรื่องปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปกติการ ตัดสินใจซื้อจะมาจากรสชาติเป็นอันดับแรก ตามด้วยปริมาณ แคมเปญโปรโมชัน และความน่าเชื่อถือของตราสินค้า
"ไวไว"อินเด็กซ์ชี้กำลังซื้อคนอืด
ด้านนายสุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว กล่าวถึงสภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในทิศทางเดียวกับไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ว่า แนวโน้มตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้มีอัตราการเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา คือ 7-8% เมื่อเทียบกับปี 2547 ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีอัตราการเติบโต เพียง 5% เท่านั้น
ทั้งนี้ 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโต ประการแรก มาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มีผลทำให้ผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัดมากขึ้น จึงเพิ่มความถี่ในการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากปัจจุบันพฤติกรรมการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยประมาณ 35-37 ซอง ต่อคนต่อปี ประการสอง คือ กิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ และประการสุดท้าย ความมีรสชาติที่หลากหลายเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคใหม่อย่างต่อเนื่อง
ภาวะตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้การ แข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น โดยกลยุทธ์ ที่ผู้ประกอบการจะงัดขึ้นมา คือ การงัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้นในช่องทาง โมเดิร์นเทรด กลยุทธ์ราคา และการจัดกิจกรรมชิงโชคเฉพาะพื้นที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ในแนวเพื่อสุขภาพ ซึ่งปีนี้จะเห็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพิ่มขึ้น และประมาณการว่าใน อีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ เซกเมนต์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพจะมีสัดส่วน 2-3% ของ ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกว่า 10,000 ล้านบาท
มาม่า-ไวไวเฮโลปีจอยอดขายพุ่ง
ด้วยสภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 รายใหญ่ อย่าง "มาม่า" หรือ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าผลประกอบการ ปีนี้มีอัตราการเติบโต 10% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 4,930 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 9.25% และสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากกว่า 50% เป็น 55% ส่วนด้าน "ไวไว" หรือ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 3% หรือมีรายได้ 3,400 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมีรายได้ 3,160 ล้านบาท
|