ตลท.ตรวจนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นไออีซีกระจุกตัวอย่างมากผ่านโบรกเกอร์ 7 ราย ตั้งเป้าดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นภายใน 20 ม.ค.นี้ พร้อมระบุยังไม่มีนักลงทุนมาร้องเรียนกรณีการห้ามซื้อขายหุ้นไออีซีชี้ยังไม่พบหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นที่มีลักษณะเข้าข่ายถูกสั่งพักการซื้อขายเช่นเดียวกับหุ้นไออีซี

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้สั่งห้ามการซื้อ ขายหุ้นบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เป็นการชั่วคราว 5 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ 16-20 มกราคมนั้น จากการตรวจสอบพบว่านักลงทุนกว่า 30 คนที่เข้ามาซื้อขายในลักษณะเข้าข่ายการสร้างราคานั้นมีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์จำนวน 13 รายแต่พบว่าในจำนวนดังกล่าวมีจำนวน 7 รายที่มีลักษณะการส่งคำสั่งซื้อขายที่กระจุกตัวอย่างมาก

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯเคยส่งหนังสือไปยังโบรกเกอร์เพื่อเตือนให้ดูแลการซื้อขายหุ้นไออีซีของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และถือว่าโบรกเกอร์นั้นไม่ได้มีความผิดแม้พบว่าคำสั่งซื้อขายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างราคาหุ้นเนื่องจากถือ เป็นการบริการลูกค้าตามปกติ ตลาดหลักทรัพย์คาดว่าภายในวันที่ 20 มกราคมนี้จะตรวจสอบในเชิงลึกและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เสร็จสิ้น และสามารถส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ต่อไป

สำหรับกรณีที่นักลงทุนกังวลว่าตลาด หลักทรัพย์จะสั่งห้ามการซื้อขายในหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นๆ ด้วยนั้น นายสุทธิชัยกล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์จะสั่งห้ามการซื้อขายนั้นจะต้องเข้าข่ายว่ามีการซื้อขายอย่างรุนแรง,เกิดความเสียหายต่อผู้ลงทุน และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวมซึ่งจะต้องเข้าเกณฑ์ทั้งหมดจึงจะสามารถใช้อำนาจของกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามการซื้อขายได้ชั่วคราวและขณะนี้ยังไม่พบว่าหุ้นเก็งกำไรบริษัทอื่นเข้าข่ายในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด และการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์นั้นจะไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือใช้สองมาตรฐาน (ดับเบิล สแตนดาร์ด) ในการพิจารณาใช้มาตรการต่างๆ

รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวต่อว่าขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อนักลงทุนกว่า 30 รายที่เข้ามาสร้างราคาหุ้นบริษัทไออีซีได้และไม่สามารถบอกได้ว่าเข้ามาเกี่ยวพันกับหุ้นเก็งกำไรอื่นๆ ด้วยหรือไม่ รวมถึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือไม่บทบาทหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ที่กฎหมายกำหนดนั้นจะมีหน้าที่กำกับดูแล 3 ส่วนคือการสร้างราคา, การใช้ข้อมูลภายในและการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไปตรวจพบนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวมีลักษณะของการเข้ามาสร้างราคาในหุ้นไออีซี

"กลุ่มบุคคลนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป เพราะที่ผ่านมานักลงทุนมีพฤติกรรมการซื้อขายที่เปลี่ยนไปยุคหนึ่งนักลงทุนรายใหญ่จะมีการเปิดเผยชื่อจริง เพราะเมื่อเปิดเผยจะทำให้นักลงทุนกลัวได้และสื่อเข้ามาช่วยกระจายข่าว แต่ต่อมาพฤติกรรมได้เปลี่ยนไปโดยมีการใช้ชื่อของคนอื่นมาแทน ดังนั้นจึงถือได้ว่าชื่อที่ปรากฏนั้นไม่รู้ว่าตัวจริงหรือไม่" นายสุทธิชัยกล่าว

หากมีนักลงทุนฟ้องร้องตลาดหลักทรัพย์กรณี ที่ได้รับความเสียหายจากการที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งระงับการซื้อขายหุ้น IEC ชั่วคราว ทางตลาดฯก็พร้อม ชี้แจงรายละเอียดว่าเพราะสาเหตุอะไร

"ยังไม่มีนักลงทุนร้องเรียนเข้ามากรณีที่ตลาด หลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมายเอสพีหุ้นไออีซี วานนี้ (16 ม.ค.) มีนักลงทุนเพียง 1 รายติดต่อสอบถามเข้ามายัง Call Center ของตลาดหลักทรัพย์สอบถามว่าจะขึ้นเครื่องหมาย SP ถึงวันไหน สำหรับกรณีการขายหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ที่มีข่าวลือออกมาเป็นระยะแต่ไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนจากกลุ่มชินวัตรในฐานะผู้ถือหุ้น ใหญ่นายสุทธิชัยกล่าวในเรื่องนี้ว่า ตลาดหลักทรัพย์จะไม่เข้าไปกำกับ หรือดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการชี้แจงและตลาดหลักทรัพย์ได้มีการติดตามข่าวสารของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่นโดยตลอด นักข่าวตามข่าวชินฯอย่างไรฝ่ายบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ก็ติดตามข่าวอย่างนั้นโดยตลอด เรามีการติดตามโดยตลอดแต่ขณะนี้ไม่ต้องไปกำกับอะไร"นายสุทธิชัยกล่าว

นายชัยพันธ์ พงศ์ธนากร ประธานกรรมการบริหารบริษัท ฟาร์อีสท์ แอสเซทส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ กล่าวว่าลูกค้าของ บล.ฟาร์อีสท์ก็ได้เข้ามาเก็งกำไรในหุ้นไออีซี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่หุ้นเก็งกำไรนักลงทุนจะเข้ามาซื้อขายอยู่แล้ว และบล.ฟาร์อีสท์ปล่อยมาร์จิ้นให้กับหุ้นไออีซีไม่มากนัก ขณะนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขอข้อมูลการซื้อขายของหุ้นไออีซีจากบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งและทางบล.ฟาร์อีสท์ได้ส่งข้อมูลที่มีอยู่ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้วและไม่สามารถระบุได้ว่ารายชื่อผู้ลงทุน 30 รายที่ตลาดหลักทรัพย์ฯให้ข่าวนั้นเป็นลูกค้าของบริษัทหรือไม่ เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้เปิดเผยรายชื่อให้ทราบ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขอข้อมูลกับบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งเพราะลูกค้าทั่วเกือบทุกแห่งก็เข้ามาซื้อขาย เพราะเป็นหุ้นเก็งกำไร