Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มกราคม 2549
สธ.จ้องเชือดโฆษณาเหล้า ห้ามเผยแพร่ในสื่อทุกชนิด             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงสาธารณสุข

   
search resources

พินิจ จารุสมบัติ
กระทรวงสาธารณสุข
Alcohol




คกก.ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เตรียมบังคับใช้กฎหมาย ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในสื่อทุกแขนง หรืออาจขยับเวลาการอนุญาตโฆษณาจาก 7 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมงในช่วงที่คนนอนแล้ว คาดมีผลใช้กลางปีนี้ ผลวิจัยล่าสุดพบว่าประเทศที่มีการห้ามโฆษณาเหล้า สามารถลดนักดื่มลง 16% ลดอุบัติเหตุได้ 23% พร้อมทั้งจับมือ 29 หน่วยงานราชการ ประกาศเป็นเขตปลอดควันบุหรี่ ห้ามขายบุหรี่ในสถานที่ราชการ

วานนี้(16 ม.ค.) ที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ กทม. นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมคณะกรรมการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ (คบอช.) เพื่อพิจารณามาตรการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายพินิจกล่าวว่า คณะกรรมการควบคุม การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้เตรียมวางมาตรการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 2549 ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น มี 2 แนวทาง คือการเตรียมออกกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อต่างๆ อย่างเด็ดขาด

หรือแนวทางที่ 2 อาจใช้วิธีจำกัดการโฆษณาเพิ่มเติม โดยลดเวลาอนุญาตให้โฆษณา เหล้าทางวิทยุ โทรทัศน์จากเดิม ตั้งแต่ 22.00 -05.00 น. รวม 7 ชั่วโมง แต่เวลาโฆษณาใหม่นี้จะลดเหลือเพียง 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 02.00 น. - 05.00 น. และจะมีการตัดข้อความโฆษณาแอบแฝงที่บริษัทสุรามักใช้เลี่ยงนำมาโฆษณาแฝงในลักษณะต่างๆ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดการดื่มสุราลงได้อีกทางหนึ่ง

การศึกษาขององค์การอนามัยโลก พบว่า การห้ามโฆษณาเหล้ามีผลต่อนักดื่มหน้าใหม่ โดยปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มประเทศที่มีการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่มีการห้ามหรือจำกัดการโฆษณา ถึง 16% และที่สำคัญคือ อัตราการตายจากอุบัติเหตุจราจร ในกลุ่มประเทศที่มีการห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำกว่าประเทศที่ไม่มีการห้ามหรือจำกัดการโฆษณาถึง 23%Ž

นายพินิจกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการระยะยาว จะผลักดันพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้ยังเป็นร่างกฎหมายอยู่ มี สาระสำคัญทั้งเรื่องการควบคุมผลิต และนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรฐานผลิต-ภัณฑ์อุตสาหกรรม การออกใบอนุญาตขายและการจำกัดพื้นที่ในการดื่มเครื่องดื่ม จะไม่ให้ออกใบอนุญาตขายและดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ 10 ประเภท ได้แก่ วัดและศาสนสถาน สถานพยาบาล ร้านขายยา สโมสรเยาวชน สถานศึกษา ยานพาหนะขนส่งมวลชน ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าที่เปิดบริการทั้งวันหรือเกินกว่า 16 ชั่วโมง สวนสาธารณะและทางสาธารณะ โดยเฉพาะห้ามขายในหอพัก และห้ามดื่มในขณะขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด

นอกจากนี้ ยังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี ซึ่งเดิมห้ามขายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมา จนแสดงพฤติกรรมวุ่นวาย ห้ามขายเหล้าเบียร์โดยเครื่องอัตโนมัติ การเร่ขาย การแจกแถม หรือแจกจ่ายรางวัล การควบคุมการโฆษณาทางสื่อต่างๆ

ทั้งนี้ คาดว่าร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนก.พ. 2549 และใช้เวลาในการทำประชาพิจารณ์กับประชาชน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วประเทศอีกประมาณ 2 เดือน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ขณะเดียวกันในการดำเนินการควบคุมลดปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการควบคุม ลด และเลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากขณะนี้ขาดแคลนงบประมาณในการดำเนินการ เช่น อาจใช้ 2% ของภาษีสรรพสามิตสุรา หรือใช้ 5-10% ของงบประมาณสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.

วันเดียวกัน นายพินิจยังได้เป็นประธานพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดเขตปลอดบุหรี่ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ 2535 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นสถานที่ที่ให้มีการคุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยมีปลัดกระทรวงและผู้แทนจาก 29 หน่วยงาน ร่วมลงนาม เพื่อให้สถานที่ทำงานจัดเขตปลอดบุหรี่ โดยเฉพาะสำนักงานส่วนกลาง เป็นแบบอย่างที่ดีของสถานที่สาธารณะอื่นๆในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us