|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
AMC ปีนี้เน้นการทำกำไร ผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูง ส่วนที่เป้าหมายของยอดขายเท่ากับปี 48 ที่ไม่เกิน 4 พันล้านบาท เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตร เพื่อร่วมธุรกิจกลางน้ำ คาดสรุปได้ปลายปีนี้ เพื่อดันขายโตต่อเนื่องในอนาคต
นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียเมทัล จำกัด(มหาชน) (AMC) เปิดเผยแผนงานดำเนินงานปีนี้ว่าจะเน้นการผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะเป็นสินค้าประเภทตลาดเฉพาะทาง เช่น เหล็กที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานการผลิตต่างๆ ธุรกิจก่อสร้าง และอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะมาร์จิ้นสินค้าสูงกว่าการผลิตที่ผลิตอยู่เดิม
"มาร์จิ้นสินค้าที่ผลิตให้แก่ภาค โรงงานอุตสาหกรรมและก่อสร้างจะดีมากในปีนี้ และเรามองว่าการเติบโตและความต้องการของลูกค้าในส่วนนี้ยังเติบโตได้ดีด้วยสินค้าพวกโฮลเซล"นายชูศักดิ์กล่าว
โดย AMC ต้องปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อให้ผลิตสินค้าได้มากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ เพื่อที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานของบริษัทลดลง ตามเป้าหมายของการทำกำไร แต่ไม่เน้นยอดขายในปีนี้ ซึ่งยังคงตั้งเป้ายอดขายไว้ไม่ต่างจากปี 48
เนื่องจากในไตรมาส 3 ปี 48 พบว่ากำไรสุทธิของบริษัทลดลง แม้ว่าหลายบริษัทผลการดำเนินงานจะขาดทุน อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิตเหล็กที่ขาดทุนจากการสต๊อกสินค้าในโกดังในช่วงดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงาน ของ AMC ในไตรมาสดังกล่าวลดลงจาก 33.91 ล้านบาทเหลือ 8.73 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปีก่อนมีกำไรสุทธิ 95.83 ล้านบาท เหลือเพียง 77.32 ล้านบาทในปี 48
ส่วนยอดขายของ AMC ในงวดดังกล่าว พบว่าบริษัทมีรายได้จาก การขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 1,527.78 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2547 โดยเก้าเดือนแรกของปี 2548 รายได้จาก การขายและบริการเพิ่มขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งศูนย์บริการและการจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทดังต่อไปนี้คือรายได้จากศูนย์บริการเหล็กเพิ่มขึ้น 1,058.37 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่าย เหล็กรูปพรรณ เพิ่มขึ้น 469.41 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่สูงขึ้น
"ปีนี้เราจะเน้นการทำกำไรให้เติบโตขึ้น แต่เราจะไม่ทำยอดขายให้สูง เราจะคงเป้ายอดขายไว้ที่ระดับไม่เกิน 4 พันล้านบาท อย่างปี 48 เราตั้งเป้าไว้ที่ 3,700 ล้านบาท แต่เราขายได้ 4,700 ล้านบาท และตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมาเราเติบโตเกินกว่า 50% มาตลอด ปีนี้เราจึงอยากหันมาเน้นมาร์จิ้นเพื่อทำกำไรให้เติบโตด้วย"นายชูศักดิ์กล่าว
นายชูศักดิ์กล่าวเพิ่มว่านอกจากขาดทุนจากสต๊อกสินค้าแล้ว ยังขาดทุนจากการปรับราคาขายให้ต่ำลงจากต้นปีถึงปลายปี 48 คิดเป็น กว่า 30% จึงส่งผลต่อการดำเนินงานในช่วงปลายปี อันเป็นผลจากความต้องการซื้อและความต้องการขายที่ไม่สมดุลกัน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทต้องหาทางออก ด้วยการลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน ด้วยการเข้าสู่การผลิตต้นน้ำ (UP STREAM) มากขึ้น แต่เนื่อง จากการลงทุนที่ใกล้กับต้นน้ำ จะใช้เงินลงทุนสูงมาก ดังนั้น AMC จึงหันมาสู่การผลิตแบบกลางน้ำ ที่ใช้เงินทุนเกือบ 1 พันล้านบาท
"เราคงไม่เข้าใกล้ต้นน้ำมาก อยู่ แค่กลางน้ำก็พอ และเงินทุนที่จะใช้ประมาณ 500 ล้านบาทถึง 1 พันล้าน บาท และเราต้องหาพันธมิตรเพื่อ ลดความเสี่ยงและเราจะได้ไปแบบมีเพื่อนร่วมทาง" นายชูศักดิ์กล่าว
โดยการผลิตท่อเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมนั้น จะต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งผู้บริหาร AMC แย้มว่าการลงทุน นี้เป็นโครงการที่คิดไว้มาระยะหนึ่งแล้ว และคาดว่าการเจรจาจะสรุปได้ ปลายปีนี้ เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร พร้อมกับยืนยันว่าการลงทุนดังกล่าว จะไม่เพิ่มทุน แต่จะหันไปใช้เงินกู้ยืมและเงินทุนจากการดำเนินงาน เพราะขนาดของโครงการนี้ไม่ได้ใหญ่มาก
|
|
|
|
|