Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มกราคม 2549
"จีเอ็ม"ยึดเอเชีย-ไทย ตีโต้กลับค่ายรถญี่ปุ่น             
 


   
www resources

โฮมเพจ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย)

   
search resources

เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย), บจก.
Automotive




ซีอีโอ "จีเอ็ม"เชื่อวิกฤตในอเมริกาเหนือ ไม่ส่งผลต่อ ตลาดภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย ยันยังจะเดินหน้าสร้างแบรนด์ ให้แข็งแกร่งต่อไป โดยมีไทยเป็นหัวหอกสำคัญผลักดันบทบาทจีเอ็ม ในตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น หวังชิงแชร์จากค่ายรถญี่ปุ่นที่ครองมานาน หลังจากในปีที่ผ่านมาทำยอดขายในไทยพุ่งเกือบเท่าตัว เผยแผน ป้องตลาดในบ้านตัวเองด้วยโปรดักต์ ใหม่รองรับทุกความต้องการลูกค้า พร้อมปลอบใจปีนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

นายริค แวกอนเนอร์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ "จีเอ็ม" ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า จากการประสบปัญหาขาดทุนของจีเอ็มในตลาดอเมริกาเหนือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดขายตกต่ำ ทั้งยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายการดูแลสุขภาพพนักงาน ส่งผลให้ต้องมีการปรับลดคนงานครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน

"ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะกระทบกับภาพลักษณ์ของจีเอ็ม แต่ผลประกอบการในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ยังสร้างผลกำไรอยู่ ที่สำคัญเรามีแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ในประเทศไทย และอาเซียน ซึ่งถือ ว่ามีการเจริญเติบโตอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์หรือปัญหาใดๆ จีเอ็มจะยังคงต้องเดินหน้าสร้างแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียให้แข็งแกร่งต่อไป"
สำหรับจีเอ็มในประเทศไทย ที่สามารถทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ โดยมีการเจริญเติบโตถึง 96% ทำให้จีเอ็มมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดภูมิภาคนี้ ทั้งยังสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด จากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ที่ทำตลาดในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน จึงถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

โดยผลการดำเนินงานสิ้นสุด ปี 2005 รถยนต์ในเครือของจีเอ็มมียอดขายทั่วโลกถึง 9.2 ล้านคัน ซึ่งมากกว่า 50% เป็นยอดขายนอก สหรัฐอเมริกา โดยแบ่งเป็นตลาดเอเชียแปซิฟิกขายได้มากกว่า 1 ล้านคัน ส่วนตลาดละตินอเมริกาทำยอดได้เกือบ 1 ล้านคัน ขณะที่ประเทศจีนสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 650,000 คัน

นายแวกอนเนอร์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในรอบปี 2004-2005 ที่ผ่านมา มีปัญหาตรงที่ยอดขายของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ หรือเอสยูวี มียอดขายลดลง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยหันมาใช้รถยนต์ที่มีขนาดเล็กลง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากภาวะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีส่วนต่างกำไรน้อยลง เพราะรถเอสยูวีถือเป็นโปรดักต์ที่สามารถสร้างยอดขายและทำกำไรให้กับจีเอ็มตลอดหลายปีที่ผ่านมา

"ปัญหาหลักของจีเอ็มอีกประการ คือ เรื่องของสวัสดิการพนักงาน ซึ่งเป็นปัญหาภายในที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างองค์กร โดยในปีนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ด้วยการพยายามตกลง กับสหภาพแรงงานในสหรัฐอเมริกา เรื่องที่จะขอลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการประกันสุขภาพของพนักงานลง โดยในปีแรกจะสามารลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นในปีต่อๆไปจะสามารถลดได้ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีเลยทีเดียว"

ทั้งหมดถือเป็นการปรับปรุงองค์กรเพื่อก้าว ไปข้างหน้า ขณะเดียวกันต้องทำให้ตลาดอื่นๆทั่วโลกประสบความสำเร็จด้วย จึงทำให้จีเอ็ม โกลบอลมากขึ้น คือจะมีการใช้โปรดักต์ หรือชิ้นส่วนในแต่ละภูมิภาคร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ทั้งยังต้องเพิ่มความสามารถในการผลิตให้สามารถแข่งขันในตลาดที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยในปีนี้เรามองภาพในเชิงบวกว่าทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

สำหรับกลยุทธ์ในการเข้าไปถือหุ้น หรือซื้อ แบรนด์อื่นๆ นั้น ยังไม่มีแผนในตอนนี้ แต่สิ่งสำคัญกว่าจะต้องทำให้แบรนด์ที่มีอยู่ในมือแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีโตโยต้าเป็นคู่แข่งที่สำคัญ รวมถึงค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่พยามยามเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในอเมริกา ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันอย่างหนักหน่วง ทำให้เราต้องมีรถยนต์ที่มีคุณภาพ รวมถึงความคุ้มค่าราคา และการที่จะต้องมีโปรดักต์หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us