|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 3.72 จุด เหตุมีปัจจัยลบกระหน่ำรอบด้านทั้งปัญหาการเมือง ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ไม่ดี และการที่ตลาดหลักทรัพย์ห้ามซื้อขายหุ้นไออีซี ส่งผลทำให้หุ้นเก็งกำไรหลายบริษัทราคาปรับตัวลดลง ก่อน ตลท.ฟันไออีซี ได้ส่งหนังสือเตือนโบรกฯระวังการซื้อขายนอมินี "เสี่ยสอง-พายัพ-กลุ่มปิคนิค" ขณะที่ลือสะพัดพบนักธุรกิจ นักการเมือง คนดังพัวพันไออีซี 2 เสี่ยอักษรนำ พ. คนแรกนักลงทุนและนักการเมือง คนที่สองนักธุรกิจอสังหาฯภาคตะวันออก และยังมีเสี่ย ส.นักอสังหาฯ
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (16 ม.ค.) มีแรงขายออก มาทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กประเภทเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่าพบการซื้อขายในหุ้น บมจ.ไออีซี (IEC) เคลื่อนไหวผิดปกติเข้าข่ายสร้างราคานำเรื่องส่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ดัชนีปิดที่ระดับ 752.00 จุดลดลง 3.72 จุด หรือ 0.49% มูลค่าการซื้อขาย 22,347.63 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 753.16 จุด และดัชนีปรับตัว ลดลงมาต่ำสุดที่ระดับ 744.53 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,869.52 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 966.28 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ 903.24 ล้านบาท
สำหรับหุ้นเก็งกำไรที่ราคาปรับตัวลดลงมามากประกอบด้วย หุ้นอกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ราคาปิด 5.90 บาท ลดลง 0.15 บาท หรือ 2.48% มูลค่าการซื้อขาย 122.38 ล้านบาทใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญอกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE-W1) ราคาปิด 3.16 บาทลดลง 0.26 บาท หรือ 7.60% มูลค่าการซื้อขาย 3.06 ล้านบาท
หุ้นอีสเทิร์นไวร์ จำกัด (EWC) ราคาปิด 17.50 บาทลดลง 1.40 บาท หรือ 7.41% มูลค่าการซื้อขาย 157.70 ล้านบาทใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นบริษัทอีส-เทิร์นไวร์ (EWC-W1) ราคาปิด 7.85 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 9.25% มูลค่าการซื้อขาย 8.19 ล้านบาท
หุ้นบีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (BNT) ราคาปิด 0.66 บาทลดลง 0.16 บาท หรือ 19.51% มูลค่าการซื้อขาย 1,162.17 ล้านบาท หุ้น บล.แอ๊ดคินซัน (ASL) ราคาปิด 13.80 บาทลดลง 1.70 บาทหรือ 10.97% มูลค่าการซื้อขาย 371.69 ล้านบาท
หุ้นบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (GENCO) ราคาปิด 0.75 บาท ลดลง 0.11 บาทหรือ 12.79% มูลค่าการซื้อขาย 74.76 ล้านบาท
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทีเอสอีซี จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นวันนี้มีการปรับฐานทั้งวัน การที่หุ้น บมจ.อินเตอร์เนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) ถูกสั่งห้ามซื้อขาย ส่งผลให้หุ้นเก็งกำไรมีการปรับตัวลดลงมาก จากนักลงทุนมีความกังวลจึงมีการขายหุ้นออกมากก่อน ส่งผลให้บรรยากาศภาวะวันนี้มีการชะลอตัว รวมถึงมีปัจจัยในเรื่องการเมืองและน้ำมัน
"การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการห้ามซื้อขายหุ้น IEC ส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าไปลงทุนในหุ้นเก็งกำไรจึงทำให้หุ้นเก็งกำไรตัวอื่นมีการปรับตัวลดลงมาก" นายเจริญ กล่าว
ส่วนหุ้นหลักทรัพย์ที่มีการปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดซึ่งเป็นแรงขายธรรมดา ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องติดตามนักลงทุนก็มีการติดตามว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังคงซื้อหุ้นไทยต่อหรือไม่ จากที่ผ่านมามีการซื้อเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งวันนี้หุ้นขนาดใหญ่ก็มีการทรงตัว และเรื่องการประชุมคณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) การพิจารณาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ เข้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้การซื้อขายจะยังคงซบเซาหากไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น โดยมองแนวรับที่ 730-740 จุด แนวต้านที่ระดับ 766 จุด
ปัจจัยต่างประเทศกดดัน
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบีเคย์ เฮียน ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ (16 ม.ค.) ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายเรื่อง คือ ตลาดหุ้นต่างประเทศมีการปรับตัวลดลง และมีความกังวลการเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึงการพิจารณาเรื่องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯของ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ หรือเบียร์ช้าง จะมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการปรับตัวเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ โดยธนาคารกสิกรไทย (KBANK)ก็ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ และเชื่อว่าธนาคารอื่นๆก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของแบงก์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/49
ส่วนเรื่องการที่หุ้น บมจ.บีเอ็นที เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ (BNT) ซึ่งเป็นหุ้นอีกบริษัทที่มีการเก็งกำไร โดยวานนี้ มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด เนื่องจากการที่นักลงทุนมีการเกรงว่าหุ้นที่ตนเองมีการลงทุนจะถูกตรวจสอบจึงมีการขายหุ้นออกมา การเมืองกดดัน
นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS กล่าวว่า ภาวะการลงทุนวานนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเรื่องการเมือง และเป็นการปรับตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และจากที่หุ้น บมจ.อินเตอร์เนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) ถูกสั่งห้ามซื้อขาย หรือ ขึ้นเครื่องหมาย SP ก็ส่งผลให้นักลงทุนมีการขายหุ้นเก็งกำไรออกมา ซึ่งจากภาวะตลาดไม่ค่อยดีก็ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากต้องติดตามการประชุมของคณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ที่มีการพิจารณา บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้เวลา 17.00 น. และกลุ่มผู้คัดค้าน (ม็อบ) จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร โดยมองแนวรับที่ 744-745 จุด แนวต้าน 766 จุด 2 เสี่ย พ.โยงใยไออีซี
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศพบการซื้อขายเข้าข่ายสร้างราคาหุ้นไออีซีมีกระแสข่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีหนังสือเตือนมายังโบรกเกอร์ให้ระมัดระวังการซื้อขายของนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มที่เข้ามาเก็งกำไรในหุ้น IEC โดยระบุว่าเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้รายชื่อที่ปรากฏมีชื่อเสี่ยสองอดีตนักลงทุนชื่อดังในอดีตเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นไออีซีด้วย แต่ไม่ได้ใช้ชื่อของตัวเอง แต่ใช้ชื่อผู้อื่นเข้ามาซื้อขายแทน (นอมินี), กลุ่มนอมินีนายพายัพ ชินวัตร นักการเมืองชื่อดัง และกลุ่มปิคนิค
เป็นเหตุให้ราคาหุ้นบีเอ็นที หุ้นบล.แอ๊ดคิน ซัน และหุ้นเจนโก้ วานนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเข้าลงทุนในหุ้นเหล่านี้ด้วย เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ปรากฏกระแสข่าวว่าพัวพันการซื้อขายหุ้นไออีซีจนระดับราคาหุ้นปรับตัวร้อนแรง ถูกระบุว่า ชื่อมีอักษรนำหน้า พ. 2 คน คนแรก เสี่ย พ. นักลงทุนรายใหญ่และนักการเมืองชื่อดัง แล้วยังมีเสี่ยพ.นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออกที่เกี่ยวข้องกลุ่มนักการเมือง และยังมีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในอดีตเสี่ย ส. ฯลฯ
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ส่วนนายวิชัย ทองแตง นักลงทุนรายใหญ่อีกราย ซึ่งถูกระบุว่าเข้าไปถือหุ้นไออีซีจำนวนหนึ่งนั้น ปรากฏว่า นายวิชัยไม่มีหุ้นไออีซี แต่เข้าไปเก็งกำไรและเทขายหุ้นออกไปก่อน
|
|
 |
|
|