Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 มกราคม 2549
'ตราเพชร'ยกชั้นร้านค้าสู่โมเดิร์นเทรดเสริมจุดขายสินค้าดันยอดขายโต20%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด

   
search resources

กระเบื้องหลังคาตราเพชร, บมจ.
Tools and Equipment




"กระเบื้องตราเพชร" ทุ่ม 500 ล้านบาท ขยาย 3ไลน์การผลิตอีก 50,000 กว่าตันต่อปี หลังกำลังการผลิตเต็มไม่สามารถรองรับความต้องการในตลาดได้เพียงพอ ตั้งเป้าปี49 ยอดขายพุ่ง 2,600 ล้านบาท โตกว่า 20% จากปี 47 พร้อมเตรียมขยายตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 10% อีก3-5ปี รับมือลูกค้าในประเทศลดการใช้กระเบื้องกลุ่มไฟเบอร์ซิเมนต์

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในตลาด ประกอบด้วย กลุ่มกระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนต์ ,กลุ่มกระเบื้องคอนกรีต ,กลุ่มไม้ฝา และกลุ่มสินค้าเจียระไน โดยมีกำลังการผลิตสินค้าทั้ง4 กลุ่มรวม 450,000 ตันต่อปี ซึ่งในปีที่ผ่านมา ตลาดกระเบื้องมีอัตราการขยายตัวที่สูง ทำให้สินค้าในตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดรวมมีอัตราการขยายตัวประมาณ 15% และในปี2549 นี้ คาดว่าอัตราการเติบโตของตลาดรวมจะอยู่10-15% ในขณะที่บริษัทใช้กำลังการผลิตเต็มแล้ว

ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก3ไลน์การผลิต โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้งบลงทุนในการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 500 ล้านบาท เพื่อขยายไลน์การผลิตในส่วนของกลุ่มกระเบื้องเจียระไน ไลน์ที่ 7 ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 18,000 ตัน และไลน์การผลิตที่ 8 โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 42,000 ตัน ส่วนไลน์ที่3 เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของกระเบื้องคอนกรีต ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 12,000 ตันต่อปี การเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ครบทั้ง 3 ไลน์ในไตรมาสที่ 3 ของปี49 นี้

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เดินเครื่องการผลิตในส่วนของไลน์ที่ 7 ไปแล้ว ทำให้ขณะนี้ กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในบางส่วน ทั้งนี้ หากสามารถเดินเครื่องผลิตได้ครบทั้ง 3 ไลน์จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 กว่าตันต่อปี โดยงบลงทุนในการขยายกำลังการผลิต มีวงเงิน 500 ล้านบาท แยกเป็น กระแสเงินสดของบริษัทจำนวน200ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินอีก 300 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัท หนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง 0.3 เท่า

สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายรวมเท่ากับปี 2547 ที่ทำได้ 2,000 กว่าล้านบาท เนื่องมาจาก บริษัทได้ใช้กำลังการผลิตไปเต็มที่แล้ว ทำให้ไม่สามารถขยายตลาดเพิ่มได้ แต่หลังจากที่เพิ่มกำลังการผลิตใน3 ไลน์ดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นรวม 2,600 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 20% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของสินค้าที่ทำการตลาดอยู่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แยกเป็น กลุ่มกระเบื้องคอนกรีตเพิ่มขึ้น 5-10% จากปัจจุบัน 25% ,กลุ่มไม้ฝาคาดเพิ่มขึ้นอีก 15% โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มสินค้าเจียระไนหลังจากที่เดินเครื่องแล้ว คาดว่าทั้งปีจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 100% หรือมียอดขายเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา มียอดขายอยู่100ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตตลาดในกลุ่มนี้จะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนกลุ่มสินค้ากระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนต์ มีส่วนแบ่ง 60%

" กลุ่มกระเบื้องเจียระไน เป็นกลุ่มสินค้าใหม่ ซึ่งเดิมเป็นสินค้าในกลุ่มไม้ฝา แต่หลังจากที่ได้ศึกษาความต้องการของลูกค้าในตลาด พบว่าตลาดมีความต้องการสินค้าชนิดใหม่ ดังนั้นจึงพัฒนากลุ่มเจียระไน ซึ่งมีส่วนประกอบไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมออกมา และกำลังได้รับความนิยมมาก และคาดในอนาคตตลาดนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก " นายสาธิตกล่าว

สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น นายสาธิต กล่าวว่า จะเน้นการกระจายสินค้าในตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายให้มากขึ้น โดยขณะนี้บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศรวม 600 ราย ซึ่งได้เริ่มส่งเสริมให้ตัวแทนจำหน่ายมีการพัฒนารูปแบบร้านค้าเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้คัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มียอดขายใน20 อันดับแรก ประมาณ 30% หรือประมาณ 200 ราย จากตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด เพื่อส่งเสริมให้พัฒนารูปแบบร้านค้าเป็นโมเดิร์นเทรด ให้สามรถแข่งขันกับคู่แข่งได้ โดยบริษัทจะเข้าไปส่งเสริมและช่วยเหลือ ในส่วนของการส่งเสริมการขายและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ จัดรูปแบบร้านค้า และการให้ส่วนลดราคาขายแก่ตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น

วางเป้า3-5% เพิ่มพอร์ตส่งออก

นายสาธิตกล่าวถึงตลาดการส่งออกว่า การทำตลาดในส่วนนี้ยังมีอัตราส่วนที่ไม่มาก โดยมีรายได้จากการส่งออกเพียง 5% ที่เหลือจะเป็นรายได้หลักจากในประเทศ 95% แยกเป็น การขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ประมาณ90% และขายตรงให้แก่โครงการบ้านจัดสรร10% อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้เป็น 10% ในระยะ3-5 ปี โดยให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ประเทศลาว, เขมร ,พม่า และมาเลเซีย รวมไปถึงการเพิ่มตลาดในส่วนของประเทศจีน ,เกาหลี และไต้หวันให้มากขึ้น

" ที่ต้องขยายตลาดส่งออก เพื่อรองรับสินค้าในกลุ่มไฟเบอร์ซิเมนต์ ซึ่งในอนาคตความต้องการใช้ในประเทศจะเริ่มลดลง เนื่องจากลูกค้าหันมาใช้สินค้าในกลุ่ม เจียระไนเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต้องหาตลาดใหม่เพื่อรองรับสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน" นายสาธิตกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us