|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ก.ล.ต.ตรวจสอบพบ บล.ทีเอสอีซีมีการบริหารความเสี่ยงในระดับที่สูง ทั้งในแง่ของการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเป็นผล ทำให้ไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่าเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาได้เปิดเผยถึงข้อมูลการตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งจากการตรวจสอบ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2548 พบว่า บริษัทหลักทรัพย์ ทีเอสอีซี จำกัด มีความเสี่ยงโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ทั้งนี้มีหลายประเด็นที่มีความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย บริษัทคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) ที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในส่วนที่ค้างชำระไม่ถูกต้อง นอกจากนี้บริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีจากเดิมที่เคยบันทึกรายการดังกล่าวเป็นหนี้สินเป็นการไม่รับรู้รายการดังกล่าว มีผลให้การบันทึกบัญชีและการคำนวณ NCในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้สินรวมไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ จากการที่คำนวณไม่ถูกต้องเป็นผลให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ(NCR)ในบางวันต่ำกว่า 8% ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องยื่นแบบรายการคำนวณ NC ต่อสำนักงานเป็นรายวัน แต่บริษัทมิได้ยื่นแบบรายงานดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมาตรา 109
นอกจากนี้จากการที่บริษัทคำนวณ NCไม่ถูกต้องข้างต้นเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด อย่างไรก็ตามบล.ทีเอสอีซีได้ดำเนินการแก้ไข โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวโดยหากมีข้อสงสัยในการบันทึกบัญชี การจัดทำและคำนวณ NC ให้หารือกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานก.ล.ต.ก่อน
บล.ทีเอสอีซีได้พิจารณาวงเงินเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าใหม่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.ได้สั่งการให้บริษัทพิจารณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดรวมทั้งจะต้องบันทึกเหตุผลของการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าด้วยซึ่งจากการติดตามผลการแก้ไข พบว่าบริษัทได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของบริษัทอย่างเคร่งครัดและสั่งการให้หน่วยงานบริหารความเสี่ยงดำเนินการพิจารณาทบทวนวงเงินของลูกค้ารายดังกล่าวให้เป็นไปตามฐานะที่แท้จริงของลูกค้า
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของสำนักงานก.ล.ต.พบว่าหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบล.ทีเอสอีซี ได้รายงานผลการปฏิบัติงานทุกเรื่องให้ผู้บริหารรับทราบก่อนคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบอาจพิจารณาได้ว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้หน่วยงานดังกล่าวมิได้จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานในเรื่องที่สำคัญอาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมาตรา 113 วรรคหนึ่ง บล.ทีเอสอีซีมิได้บันทึกและจัดเก็บหลักฐานการให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยอยู่ระหว่างการร่างระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของนักวิเคราะห์ในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าทางโทรศัพท์แล้วเพื่อใช้บังคับต่อไป
ผู้บริหารบล.ทีเอสอีซีมิได้ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในของบริษัทโดยพบว่าผู้บริหารของบริษัทมิได้แจ้งการมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องที่บริษัทหลักทรัพย์อื่นและดำเนินการปิดบัญชีดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดซึ่งสำนักงานก.ล.ต.ได้กำชับให้ผู้บริหารจะต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและควรเสริมสร้างวัฒนธรรมในการกำกับดูแลปฏิบัติงานที่ดีให้เกิดขึ้นภายในบริษัท
ทั้งนี้ผู้บริหารได้ปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เปิดไว้กับบริษัทหลักทรัพย์อื่นแล้วนอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทได้กำหนดให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลดำเนินการให้พนักงานใหม่ที่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จะต้องรายงานข้อมูลดังกล่าวทันที มาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบล.ทีเอสอีซียังไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าหลักเกณฑ์การห้ามพนักงานเกี่ยวข้องซื้อขายหลักทรัพย์ที่อยู่ใน watch list และ restricted list ไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้บริหารซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการวาณิชธนกิจที่ทำหน้าที่อนุมัติการทำธุรกรรมดังกล่าวรวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรับจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยบริษัทได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยกำหนดให้ครอบคลุมถึงบุคคลใดๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับทำธุรกรรมของฝ่ายวาณิชธนกิจด้วย
บล.ทีเอสอีซียังมีความเสี่ยงสูงในกรณีระบบการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ายังไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ของบริษัททำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของลูกค้า โดยที่ลูกค้ามิได้ลงนามในคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลรวมทั้งมิได้ทำการสอบยังรายการดังกล่าวกับลูกค้าตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการปฏิบัติงานของบริษัทซึ่งบริษัทได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ให้ดำเนินการให้ลูกค้าลงนามในคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลทุกครั้ง
|
|
 |
|
|