|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บลจ.เอ็มเอฟซีประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุน MGE หลังโชว์ผลการดำเนินงานออกมาโดดเด่น ย้อนหลัง 1 ปีกว่า 14.09% ขณะที่กองทุนรวมเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) จ่อคิวจ่ายปันผลอีกกองทุน
นางประไพศรี นันทิยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ (MGE) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการลงทุน ได้อนุมัติ จ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดเอ็มเอฟ ซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ สำหรับรอบ ระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548ในอัตรา 0.43 บาทต่อหน่วย และได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในเงิน ปันผลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 มกราคม 2549 โดยจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2549
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนเอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ฟันด์ (MGE) ณ วันที่ 6 มกราคม 2549 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,187.12 ล้านบาท จำนวนหน่วยลงทุน 147,277,327.87 หน่วย มูลค่าหน่วย 12.5496 บาทต่อหน่วย
ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน MGE ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548 มูลค่าหน่วยลงทุน 12.3098 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนิน งานย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 2.02% ย้อนหลัง 6 เดือน 8.24% ย้อนหลัง 9 เดือน 17.06% ย้อนหลัง 1 ปี 14.09% ย้อนหลัง 2 ปี 26.87% และย้อนหลัง 3 ปี 46.68% ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกอง ทุนอยู่ที่ 30.12% ขณะที่เกณฑ์มาตร-ฐานอ้างอิงอยู่ที่ 29.03%
กองทุน MGE จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 เป็น กองทุนเปิด มีนโยบายลงทุนในตรา สารแห่งทุนในต่างประเทศ
สำหรับสัดส่วนหลักทรัพย์ที่กอง ทุนลงทุน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ลงทุนในหุ้น 97.68% เงินฝากธนาคาร P/N และ B/E 5.98%
หลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่กองทุนลงทุน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ประกอบด้วย 1. CITIBANK NA 5.95% 2. CITI GROUP INC 2.91% 3. ALTRIA GROUP INC 2.64% 4. BANK OF AMERICA CORP 2.52% 5. ASTRAZENECA PLC 2.27% 6. E.ON AG 2.18% 7. HARTFORD FINL SVCS 2.07% 8. MCKESSON CORPORATION 2.06% 9. ST PAUL COMPANIES 2.04% และ 10. MICROSOFT CORP 2.03%
นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศหยุดขายหน่วยลงทุน กองทุนเปิดเอ็ม เอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) เป็นการชั่วคราว เพื่อจ่ายเงินปันผล สำหรับรอบระยะเวลา วันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 - 31 ธันวาคม 2548 โดยปิดสมุดทะเบียนและเริ่มทำการขายหน่วยลงทุนอีกครั้งวันที่ 16 มกราคม 2549
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548 มูลค่าหน่วยลงทุน 11.1634 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนิน งานย้อนหลัง 3 เดือน -1.28% ย้อนหลัง 6.02% ย้อนหลัง 9 เดือน 5.71% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 7.75% และผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 11.63% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอ้างอิงอยู่ที่ 13.62%
กองทุน MV-LTF ณ วันที่ 11 มกราคม 2549 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 239.83 ล้านบาท จำนวนหน่วย 20,066,871.28 หน่วย มูลค่าหน่วย 11.9517 บาท ราคาขาย 11.9518 บาท และราคารับซื้อคืน 11.9218 บาท
ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ลงทุนในหุ้น 86.85% เงินฝากธนาคาร P/N และ B/E 13.31% หลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่กองทุนลงทุน (เรียงจากมูลค่ามากไปหาน้อย) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) 12.7% 2. UNITED OVERSEAS BANK (THAI)PLC. 10.45% 3. หุ้นสามัญ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) 8.81% 4. หุ้นสามัญ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) (SCC) 8.73% 5. หุ้นสามัญ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) 8.27% 6. หุ้นสามัญ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) 6.9% 7. หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) 6.04% 8. หุ้นสามัญ บ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) 4.8% 9. หุ้นสามัญ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) 3.83% 10. หุ้นสามัญ(TOP)
|
|
|
|
|