|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กระแสโครงการอสังหาฯเกาะแนวรถไฟฟ้ายังไม่จางหาย "ไนท์แฟรงค์ฯ" ชี้จะเห็นคอนโดฯราคาระดับกลาง-ล่างยึดแนวรถไฟฟ้าผุดโครงการอีก ส่วนค่าเช่าตลาดอาคารสำนักงานยังขยับ คาดเพิ่มขึ้นกว่า 15% ขณะที่ตลาดบ้านมือสอง ยังไม่ตก โดยเฉพาะพื้นที่หัวหิน-พัทยา
แม้ว่าบรรยากาศของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเดือนแรกของปี 2549 ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี"หมาดุ"จะขยายตัวหรือเติบโตลดลงมากน้อยแค่ไหน แต่ในมุมมองของไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทบริหารการขายระดับมืออาชีพ ได้ประมวลแนวโน้มตลาดอสังหาฯปี49 ในหลากหลายตลาดที่ยังมีช่องเติบโตได้อีก
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมานับเป็น “ปีแห่งการปรับตัว” ของธุรกิจอสังหาฯของประเทศไทย จากรายงานพบว่า การเติบโตของตลาดที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ ลดลงจากการเติบโตในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลดลงของอุปสงค์ ไม่ได้มีผลกระทบต่อการพัฒนาอสังหาฯมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัจจัยด้านอุปทานมีการปรับตัวตามอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน
ตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ปรับตัวลดลงทั้งอุปสงค์และอุปทาน มีเพียงโครงการระดับHigh – end และคอนโดฯราคาถูกเท่านั้น ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดฯราคาถูก ที่มีทำเลใกล้กับเส้นทางรถไฟใต้ดิน (MRT) และรถไฟฟ้า (BTS) กำลังมีผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เป็นผลจากความสำเร็จของโครงการที่เปิดไปก่อนหน้านี้
" มองว่าตลาดที่พักอาศัยจะยังทรงตัวเหมือนกับปี48 ตลาดคอนโดฯย่านCBDยังคงขายได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาคอนโดฯระดับhigh – end แต่ก็ยังมีช่องว่างสำหรับตลาดคอนโดฯระดับกลาง – ล่างอยู่มาก โดยเฉพาะโครงการที่มีที่ตั้งเกาะแนวเส้นทางของรถไฟใต้และโครงการที่รัฐบาลกำลังจะผลักดันออกมาอีก " นายพนม กล่าว
ค่าเช่าพื้นที่สนง.ขยับขึ้น 15%
ในส่วนของตลาดอาคารสำนักงานในปีนี้ นายมาร์คัส เบอร์เทนชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนนายหน้าบริษัทฯ ระบุว่า จากรายงานผลการสำรวจผู้เช่าพื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตรของอาคารสำนักงานพรีเมียม (Premium) เกรด A พบว่า ค่าเช่าสูงที่สุดอยู่ที่ 850 บาทต่อตร.ม. ในขณะที่การแสวงหาพื้นที่เช่าขนาดใหญ่ ที่ตรงกับความต้องการของผู้เช่าจะกระทำได้ยากขึ้น เนื่องจากพื้นที่สำนักงานเกรด A มีอัตราว่างต่ำกว่า 6 % ขณะที่อาคารสำนักงานใหม่ที่สร้างเสร็จเข้ามาในช่วงปีนี้ก็มีน้อยมาก
ทั้งนี้ คาดว่าอุปทานของพื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงเทพฯโดยรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางเมตร และคาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 5 % ในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า สำหรับโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการสร้างมีประมาณ 250,000 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์พบว่า ระดับของอุปสงค์ของพื้นที่อาคารสำนักงานในช่วงเวลาที่ผ่านมาอยู่ที่ 300,000 ตารางเมตรต่อปี และคาดว่าอัตราการเช่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึง 15% ต่อปี
สำหรับอัตราการเช่าอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ได้ขยายตัวอย่างช้าๆ นับตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา ขณะที่ในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยอุปสงค์ในปัจจุบันที่มากกว่าอุปทาน ส่งผลให้ระดับการเติบโตของการเช่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรด B ที่ผู้เช่าพิจารณาแล้วว่า มีมูลค่าที่ดีสำหรับการลงทุน โดยสามารถแยกแยะค่าเช่าแต่ละประเภท คือ สำนักงานเกรด A - 583 บาท/ตารางเมตร/เดือน ในไตรมาสที่ 2 – 3 ของปี 2548 สูงขึ้น 16.43% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 – 2548 , ค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานเกรด B - 468 บาท/ตารางเมตร/เดือน ในไตรมาสที่ 2 – 3 ของปี 2548 สูงขึ้น 19.96% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 – 2548 และค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานเกรด C- 327 บาท/ตารางเมตร/เดือน ในไตรมาสที่ 2 – 3 ของปี 2548 สูงขึ้น 8.64% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 – 2548
บ้านหลังที่สองยังโตต่อเนื่อง
นายพนม กล่าวถึงโครงการประเภท “บ้านหลังที่สอง” รูปแบบรีสอร์ต จะกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ ทำให้บริเวณหัวหิน พัทยา และสมุย ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ กลายเป็นทำเลทองดึงดูดความสนใจของผู้ประกอบการรายใหม่ ในส่วนของตลาดโครงการประเภท Resort home ในหัวหินและพัทยานั้น จากผลการวิจัยฯพบว่า อัตราการขายในตลาดกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ว่าจะมีแนวโน้มการแข่งขันในด้านราคากันค่อนข้างสูง รวมถึงเกาะสมุยเป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมในการพักตากอากาศ โดยหลังจากผ่านเหตุการณ์สึนามิ การพัฒนาโครงการได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาที่ดิน ซึ่งเกิดจากการเก็งกำไร อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อศักยภาพการพัฒนาได้
นายสตีเฟ่น โอ ไบรอัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมในปี 2549 คาดว่าตลาดการลงทุนจะยังคงสถานการณ์เดิม จนกว่าจะมีการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จากตัวเลขล่าสุด ของผู้เดินทางเข้ามาที่สนามบิน พบว่าสถิติของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เข้ามาภูเก็ตลดลง 38% จากปีที่แล้ว ในขณะที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงเพียง 22% และจำนวนเที่ยวบินของสายการบินลดลง 41% เมื่อเปรียบกับปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จะมียอดนักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น
นอกจากนั้น เรายังพบว่าแม้อุปทานของตลาดอพาร์ตเมนต์จะล้นตลาด แต่ยอดการทำสัญญาซื้อขายยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ดูจากยอดขายปัจจุบัน จนถึงอีก 4 – 5 ปีข้างหน้า สำหรับตลาดของวิลล่า อุปสงค์และอุปทานยังมีความสมดุลกัน ทั้งนี้ดูจากโครงการวิลล่าที่ขายไปแล้ว และที่กำลังก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อชาวฮ่องกงจะเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาด
อย่างไรก็ตาม เรากำลังพยายามเจาะตลาดกลุ่มผู้ซื้อจากประเทศอังกฤษ และประเทศสำคัญๆ ในยุโรป ที่กำลังมองหาอสังหาฯที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ตนเองในระดับราคาตั้งแต่ 20 – 40 ล้านบาท ในขณะที่ชาวสิงคโปร์จะยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2
|
|
|
|
|