Habitat เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์เกิดขึ้นครั้งแรกในกรุงลอนดอน เมื่อปี
ค.ศ.1963 หรือประมาณ 39 ปีมาแล้ว โดยผู้ชายชาวอังกฤษ คนหนึ่ง ชื่อ Terence
Conran ซึ่งได้รวบรวม ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัย แตกต่างไปจากร้านอื่นๆ
ในอังกฤษในสมัยนั้น
ต่อมา Conran ผู้นี้ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็น Sir Terence Conran
เมื่อ 40 ปีก่อนร้านค้าขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในประเทศอังกฤษ
มักจะเป็นสไตล์เลียนแบบเครื่องเรือนยุคเก่าที่หรูหรา ในขณะที่วิถีชีวิตของผู้คนและสิ่งแวดล้อมในสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ผู้คนเริ่มรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ได้มากยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับการให้ความสนใจในเรื่องคุณภาพชีวิต
และสิ่งของเครื่องใช้ ที่มีดีไซน์สวยงามแปลกใหม่ไปจากเดิม
ร้านของ Conran จึงเกิดขึ้นจากแนวความคิดหลักที่ว่า 1. ต้องเป็นสินค้าที่มีดีไซน์
ทันสมัย 2. ต้องเป็นของมีคุณภาพ และใช้สอยได้จริง และ 3. ราคาต้องไม่สูงเกินไปนัก
กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง คือ กลุ่มเป้าหมายหลัก
Habitat ร้านแรก มีพื้นที่กว้างขวางถึง 1,000 ตารางเมตร เพราะต้องการให้เป็นที่รวมสินค้าให้ได้มากที่สุด
โดยไปเสาะแสวงหาสินค้าซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มาจากทั่วโลก ส่วนพนักงานขายก็เป็นหนุ่มสาววัยรุ่น
หน้าตาสดใส เป็นการเปิดตลาดแนวใหม่ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นชัดเจน และเขาก็ได้ยึดหลักการนี้มาโดยตลอด
จนประสบความสำเร็จ และแฮบิแทต ก็ได้ขยายสาขาไป อีกหลายแห่ง กลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศอังกฤษ
หลังจากนั้น Conran ก็เริ่มเปิดตลาดเข้าไปยัง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ในช่วงเวลาประมาณ 30 ปี เขาสามารถขยายสาขาใน 2 ประเทศนี้ได้ถึง 80 สาขา
Habitat เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อได้ไปรวมกับกลุ่มเสื้อผ้า
เน็กซ์ และมาเตอร์แคร์ กลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น โดยที่ Conran เจ้าของเดิมได้ลดบทบาทลง
และในที่สุดก็ถอนตัวออกไปไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานบริหารโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้น กลุ่ม Ingvar Kamprad เจ้าของ ไอเคีย (Ikea) ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายขายเฟอร์นิเจอร์
และของตกแต่งบ้าน รายใหญ่ของโลกจากประเทศสวีเดน ได้มาซื้อแฮบิแทตไปบริหารเอง
สำหรับ ไอเคียนั้น ปัจจุบันมีสาขาทั่วโลกประมาณ 150 สาขา แต่ละสาขามีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ
15,000 ตารางเมตร หรือขนาดเท่าๆ กับห้างโลตัส คอนเซ็ปต์ของไอเคียก็คือ เป็นร้านขนาดใหญ่
เน้นการขายของเป็นจำนวนมากๆ โดยมีกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่างเป็นกลุ่มเป้าหมาย
ผู้บริหารของกลุ่มนี้จึงเห็นว่าแฮบิแทตจะเป็นตัวช่วยเพิ่มฐานลูกค้าของผู้มีรายได้กลางถึงสูงให้กับกลุ่มของเขาได้
และที่สำคัญชื่อเสียงของแฮบิแทต ที่มีจุดเด่นเรื่องการดีไซน์ที่ทันสมัยจะสามารถทำให้เป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็ว
โดยผ่านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบของไอเคีย
ผู้บริหารกลุ่มใหม่ภายใต้การนำของ Mr.Kamprad (เจ้าของ Ikea) ได้ใช้ช่วงเวลา
7-8 ปีที่ผ่านมา ปรับปรุง ในเรื่องระบบการจัดซื้อ การจัดจำหน่าย และปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกลับมายอมรับแนวคิดหลัก 3 ข้อของ Conran ว่าถูกต้อง
และ มีเหตุผลที่สุด หลังจากเคยเกิดเหตุการณ์ทผู้บริหารกลุ่มเดิม มองการตลาดไม่ออกไปทำการตลาดแข่งกับไอเคียลดราคาและคุณภาพของแฮบิแทตลง
จนทำให้สินค้าของแฮบิแทต หลงทางไปพักใหญ่และยอดขายลดลงจนเห็นได้ชัด
ถึงแม้วันนี้ไอเคียกับแฮบิแทต เป็นเสมือนบริษัทพี่บริษัทน้อง แต่มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน
และแยกการบริหารออกจากกันชัดเจน สินค้าของไอเคียจะเน้นในเรื่องการขายจำนวนมาก
ราคาไม่แพง โดยที่ลูกค้าสามารถ เอาไปประกอบเอง แต่สินค้าของแฮบิแทตจะประกอบไว้
ให้สมบูรณ์แบบและจับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงกว่าไอเคีย
การวางตำแหน่งของสินค้าที่ชัดเจน และการจัดการเรื่องระบบของการบริหารแฟรนไชส์อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้แฮบิแทตมีแนวโน้มในการเติบโตเพิ่มขึ้นมาตลอด ในระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา