Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 มกราคม 2549
แบงก์แข่งเดือดแย่งเงินฝาก SCB ขึ้น0.5%HSBCจ่าย4%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
Interest Rate




ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ส่วนฝากประจำปรับขึ้น 0.25-0.5% มีผลวานนี้ ขณะที่เอชเอสบีซี สร้าง นวัตกรรมเงินฝากรูปแบบใหม่ในไทย ภายใต้ชื่อ "บัญชีเงินสดทันใจ" รับดอกเบี้ยเงินสดทันทีที่ครบกำหนด ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 4% หวังสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น มั่นใจลูกค้าแห่ฝากเงินมากกว่า 3 พันล้านบาท แย้มเตรียมออกผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร ต่อเนื่อง ทั้งบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่แท้จริง และปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน ธนาคารจึงได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ขึ้น 0.25-0.50 ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2549 เป็นต้นไป

โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่นั้น ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน และ 24 เดือน เพิ่มขึ้น 0.50% ต่อปี และเงินฝากประจำ 36 เดือน ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี ขณะเดียวกันได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินให้ กู้ยืมทุกประเภท 0.25% ต่อปี ซึ่ง การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน อยู่ที่ 2.50-3.25% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน อยู่ที่ 2.75-3.50% ต่อปี เงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 3.00-3.75 ต่อปี เงินฝากประจำ 24 เดือน อยู่ที่ 3.75% และเงินฝากประจำ 36 เดือน อยู่ที่ 4.00% ต่อปี ส่วนอัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MLR 6.75% ต่อปี MOR 7.00% ต่อปี MRR 7.25% ต่อปี

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2549 ธนาคารยังคงนโยบายการสร้างแบรนด์ และ มอบบริการที่ครบวงจร โดยปีนี้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้เข้าถึง กลุ่มลูกค้ารายย่อยมากที่สุด จาก ปีที่ผ่านมาธนาคารจะเน้นผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต และในปีนี้ผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ "บัญชีเงินฝาก ทันใจ" ซึ่งมอบข้อเสนอให้เงินสดที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับดอกเบี้ยเงิน ฝากระยะเวลาที่ลูกค้ากำหนดได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนด การฝาก

บัญชีเงินฝากทันใจ ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินการธนาคาร ที่ยังไม่มีธนาคารใดทำมาก่อนในประเทศไทย โดยลูกค้านำเงินมาเปิดบัญชีเงินฝากประจำใหม่กับธนาคาร ตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป ระยะเวลา 3 เดือนถึง 24 เดือน ระหว่างวันที่ 9 มกราคม ถึง 31 มีนาคม จะได้รับอัตราดอกเบี้ย สูงสุดถึง 4% ต่อปี ขึ้นอยู่กับ เงินฝากและจำนวนเงิน

โดยธนาคารมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมากเหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ธนาคารได้ออกมาแล้ว ซึ่งในช่วงเดียวกันปีก่อน ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก สามารถระดมเงินฝากได้กว่า 3,000 ล้านบาท และในครั้งนี้น่าจะได้ตามเป้าหมาย

"ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้กว้างมากยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างชื่อในการให้บริการที่ครบวงจรของธนาคาร ไม่ใช่ขาดสภาพคล่อง โดยปัจจุบันมีโครงสร้างเงินฝากประจำมากกว่า 60% ของสัดส่วนเงินฝากทั้งหมด"

การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารที่ผ่านมา สามารถระดมเงินฝากประมาณ 15,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนลูกค้า 1 หมื่นบัญชี แสดงให้เห็นว่าลูกค้าของธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้า ระดับสูง ที่มียอดเงินฝากเฉลี่ย 10 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้น การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระดับ 300,000 บาท ถือว่าเป็นการขยายฐานลูกค้า รายย่อย เข้าสู่ระดับกลางมากยิ่งขึ้น และเป็นการตอบสนองนโยบาย ที่จะเป็นธนาคารรายย่อยที่ดีที่สุดในประเทศไทยในปี 2549 นี้ ธนาคารยังคงมีผลิตภัณฑ์อื่นๆออกมาอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้ง ได้ขยายฐานลูกค้า รายย่อยไปยังทุกๆกลุ่ม ทุกๆผลิตภัณฑ์ ทั้งลูกค้าบัตรเครดิต ที่จะมีลูกเล่นหรือเพิ่มสิทธิประโยชน์ ที่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ รวมทั้งสินเชื่อบุคคล ล่าสุดจะออกผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบ อื่นๆมาอีกต่อเนื่อง เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ขยายฐานรายย่อยได้มากที่สุด ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ในประเทศไทย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us