"คอตโต้"เผยรายได้ปี 48 พลาดเป้า 10% อ้างตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง-เศรษฐกิจชะลอตัว คาดปี49 ตลาดรวมในประเทศโต 45% พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% หรือประมาณ 7,800 ล้านบาท เน้นเพิ่มการส่งออกขายตลาดใหม่ คุยสร้างแบรนด์ "คอตโต้" เทียบแบรนด์ดังอิตาลี-สเปน ในปี 2553 หลังทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เปิดตัว Cotto Tiles Studio บริการที่ครบวงจรหวังเพิ่มยอดขายตลาดใหม่
นายปริญญา สายน้ำทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะการชะลอตัวของภาพรวมอุตสาหกรรมการก่อสร้างและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้ตลาดกระเบื้องมีการชะลอตัวลงไปด้วย ทำให้ในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย 6,400 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายทั้งปีไว้ 7,000 ล้านบาท หรือมียอดขายต่ำกว่าเป้าประมาณ 10% โดยในปี 48 บริษัทมีกำไรจากการขาย 600 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เดิม 1,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2547 บริษัทฯมียอดขายรวม 6,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 700 ล้านบาท
สำหรับทิศทางบริษัทฯในปี 2549 ได้ตั้งเป้า ยอดขายไว้ 7,800 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% ในขณะที่คาดว่าตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตที่ 45% ส่วนตลาดรวมคาดว่าจะมียอดการ ใช้กระเบื้องรวม 129 ล้านตารางเมตร คิดเป็นมูลค่า 15,500 ล้านบาท ซึ่งจำนวนดังกล่าว ยังไม่รวมสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดย คอตโต้ มีมาร์เกตแชร์อยู่ 24% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดจะมีการชะลอตัว บริษัทยังมีรายได้จากการส่งออกเข้ามาช่วยเสริมยอดขาย ซึ่งปี 2548 บริษัทมียอดส่งออกถึง 2,040 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมดในปี 48 โดยเน้น การส่งออกไปในประเทศ อินเดีย, ดูไบ ศรีลังกา, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้ และมาเลเซีย
ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ บริษัทยังคงเน้น การส่งออกเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าการส่งออกโต 20% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท อีกทั้งจะเน้นสร้างชื่อ คอตโต้ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกเทียบเท่าแบรนด์สินค้าจากประเทศอิตาลีและสเปน โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี คอตโต้ จะเป็น One of The World Reder โดยคาดว่า ณ เวลานั้น บริษัทจะมียอดขายรวมทั้งในประเทศ และส่งออกรวม 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตยอดขายของบริษัทในปี 2549 ที่ตั้งเป้าไว้ 20% ในขณะที่ตลาดรวมจะมีอัตราเติบโต 45% นั้น จะมาจากการเน้นการทำตลาดแบบเข้าถึงลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเน้นการทำตลาดบ้านปรับปรุงใหม่ ซึ่งคาดว่า ทั้งตลาดจะมีจำนวนการปรับปรุงบ้านใหม่รวม 4,000,000 หน่วย โดยจำนวนบ้านที่มีการปรับปรุง ดังกล่าว จะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยจะใช้งบประมาณในการทำตลาดประมาณ 5% ของยอดขายหรือประมาณ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง อีกประมาณ 5% หรือประมาณ 100 ล้านบาท โดยการลดต้นทุนดังกล่าว บริษัทจะปรับลดในส่วนของการใช้แก๊ส, พลังงาน และใช้หลัก 3 รี ประกอบด้วย Reues, Rebuil และ Recycle
เปิด Cotto Tiles Studio เน้นเข้าถึงลูกค้าโดยตรง
ด้านนายพิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย จำกัด และผู้บริหารระดับสูงของกระเบื้องคอตโต้ กล่าวว่า เพื่อเป็นเพิ่มช่องทางตลาดและการเข้าถึงกลุ่ม ลูกค้าให้มากขึ้นนั้น บริษัทจึงได้เปิดตัว Cotto Tiles Studio ซึ่งจะช่วยให้เกิดรูปแบบใหม่ของการบริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้า ทั้งในด้านการให้ข้อมูลเรื่องกระเบื้อง ให้คำปรึกษาแนะนำและบริการออกแบบการใช้กระเบื้อง รวมไปถึงบริการ เช็กสต๊อกออนไลน์ ณ จุดขาย และเพื่อช่วยวางแผนและตัดสินใจซื้อ
สำหรับรูปแบบของ Cotto Tiles Studio จะมีลักษณะเป็น Shop in Shop คือเป็นเหมือนร้านหรือโชว์รูม Exclusive เฉพาะของกระเบื้องคอตโต้ อยู่ภายในร้านตัวแทนจำหน่าย โดยได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นรูปแบบเฉพาะเหมือนกันทุกๆ แห่ง เช่น จุดบริการหรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส รูปแบบการจัดวาง การตกแต่ง โทนสี แสงสว่าง การจัดดิสเพลย์กระเบื้อง รวมไปถึงบุคลากรที่เป็น DC หรือ Design Consultant ที่จะให้คำปรึกษา แนะนำในทุกๆ เรื่องเกี่ยวกับกระเบื้อง ซึ่งผ่านการอบรมมาโดยเฉพาะ ทั้งนี้ ทุกๆ องค์ประกอบ จะถูกจัดวางให้ผสมกลมกลืนกันภายใต้รูปแบบที่ครบครัน สะดวก ทันสมัย และสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ซึ่งจะสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของกระเบื้องคอตโต้
นอกจากลูกค้าที่มาใช้บริการที่ Cotto Tiles Studio จะได้รับการบริการให้คำปรึกษา แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับกระเบื้อง ข้อมูลทางเทคนิค การติดตั้งและการดูแลรักษาแล้ว Design Consultant (DC) ยังให้คำปรึกษาในเรื่องการใช้งานกระเบื้องจากดิสเพลย์ที่อยู่ในร้าน และให้บริการ ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า 3D - Web Design Service ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพการปูกระเบื้องก่อนการตัดสินใจซื้อ รวมทั้งบริการเช็กสต๊อกกระเบื้องผ่านระบบออนไลน์ด้วย
นายพิชิตกล่าวว่า ความแตกต่างของ Cotto Tiles Studio กับ Cotto Tiles Library โชว์รูมห้องสมุดกระเบื้อง ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ว่า ทั้ง Cotto Tiles Studio และ Cotto Tiles Library มีวัตถุประสงค์ที่เหมือนกัน ตรงที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า แต่แตกต่างกันที่ Cotto Tiles Library เน้นให้บริการทางด้านข้อมูลในภาพกว้างแก่ลูกค้า เป็นศูนย์รวมที่โชว์กระเบื้องคอตโต้ที่ครบครันที่สุด ส่วน Cotto Tiles Studio จะเน้นในเรื่องของการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ณ จุดขาย โดยมีเจ้าหน้าที่ หรือ DC คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระเบื้องคอตโต้ที่โชว์ในร้าน ทั้งนี้ กระเบื้องคอตโต้ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะทยอยเปิด Cotto Tiles Studio ให้ครบ 60 ร้าน ภายในปี 2549
|