TRUE แจ้ง เค.ไอ.เอ็น (ประเทศไทย) ให้ บล.ภัทร ตั้งโต๊ะซื้อ หุ้น UBC ที่ราคาหุ้นละ 26.50 บาท ระหว่าง 12 มกราคมถึงวันที่ 16 มีนาคม 2549 พร้อมเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน มั่นใจได้ประโยชน์จากศักยภาพของธุรกิจที่เกื้อกูลกันหรือ Synergies ที่เกิดจากการรวมธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคมและบริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก สู่การเสนอบริการใหม่ๆ ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานและการบริหารลด เสริมโครงสร้าง ทุนที่ดีขึ้นต่อผู้เสนอซื้อ
นายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) แจ้งว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2549 บริษัท เค.ไอ.เอ็น (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้ทำคำเสนอซื้อ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TRUE ได้นำส่งแบบ ประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ต่อสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
พร้อมกำหนดราคาเสนอซื้อหุ้นของ บริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (UBC) ไว้ที่หุ้นละ 26.50 บาท โดยผู้ที่เสนอ ขายจะมีภาระค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหุ้นดังกล่าว ให้แก่ตัวแทนรับซื้อหลักทรัพย์ (บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)) ในอัตราร้อยละ 0.25 ของราคาเสนอซื้อและค่าภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 ของค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหุ้น ดังนั้นราคาสุทธิที่ผู้เสนอขายจะได้รับคือ 26.4291 บาทต่อหุ้น
โดย บริษัท เค.ไอ.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งวัตถุประสงค์ของการซื้อหลักทรัพย์ว่า ต้องการเพิกถอนหุ้น สามัญของ UBC ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากกิจการและผู้ทำคำเสนอซื้อซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TRUE สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของธุรกิจที่เกื้อกูลกันหรือ Synergies ที่เกิดจาก การรวมธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคมและบริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก ในการวางแผนกลยุทธ์ หรือการดำเนินการ หลังจากการทำ การ เสนอซื้อผู้ทำคำเสนอซื้อและกิจการสามารถขยายฐานลูกค้าและนำเสนอบริการใหม่ๆ แก่ลูกค้าได้ และยังสามารถลดต้นทุนในการดำเนินการและการบริหาร ธุรกิจในขอบเขตงานที่ซ้ำซ้อน และจะทำให้กิจการของทั้งสองบริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ การเพิกถอนหุ้นดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 13 ธันวาคม 48 และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติ โดย มีเงื่อนไขให้กิจการจัดให้ผู้ทำคำเสนอซื้อทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ จากผู้ถือหุ้นทั่วไป โดยมีระยะเวลารับซื้อ 45 วันทำการก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะกำหนดวันซื้อขายวันสุดท้าย
สำหรับหุ้นที่ บริษัท เค.ไอ.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด จะซื้อนั้นเป็นหุ้น สามัญของ TRUE 205,055,929 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.14 ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการและมีจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของหุ้นสามัญที่เสนอซื้อเท่ากับ 205,055,929 เสียง คิดเป็นร้อยละ 27.14 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการที่ราคา 26.50 บาท เริ่มตั้งโต๊ะตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2549 ถึง วันที่ 16 มีนาคม 2549 ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว เป็นจะไม่มีการขยายเวลา รับซื้ออีกแล้ว
โดยแหล่งเงินทุนในการเสนอซื้อ หุ้นครั้งนี้จะมาจากเงินกู้ยืมจาก Deutsche Bank AG สาขา ฮ่องกง และ กลุ่มธนาคารอื่น (กลุ่มเจ้าหนี้) ซึ่ง ผู้ทำคำเสนอซื้อได้เข้าทำ สัญญากู้ยืมเงินกับกลุ่มเจ้าหนี้เรียบร้อยแล้วในวันที่ 7 ธันวาคม 2548 ภายใต้สัญญากู้ยืมเงินกับกลุ่มเจ้าหนี้ ผู้ทำคำเสนอซื้อได้แจ้งความประสงค์ที่จะกู้ยืมเงินจำนวนไม่เกิน 291.1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อทำการซื้อหุ้นของกิจการจาก MIH (UBC) HOLDINGS B.V. (MIH) และผู้ถือหุ้นทั่วไปในครั้งนี้รวม 436,177,370 หุ้น
โดยภายใต้สัญญากู้ยืมเงินได้แบ่งเงินกู้เป็น 2 ส่วนคือ เงินกู้ส่วนที่ 1 (Tranche A) ไม่เกิน 138.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับซื้อหุ้นของกิจการ จาก MIH รวม 231,121,441 หุ้น และเงินกู้ส่วนที่ 2 (Tranche B) ไม่เกิน 152.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับซื้อหุ้นของกิจการจากผู้ถือหุ้นทั่วไป รวม 205,055,929 หุ้น และเพื่อซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกโดย UBC ให้แก่พนักงานและเพื่อชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินตามสัญญา
ทั้งนี้ เงินกู้สุทธิของส่วนที่ 2 ที่ ใช้สำหรับการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไปตามคำเสนอซื้อนี้ เท่ากับ 134.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้สัญญากู้ยืมเงิน ผู้ทำคำเสนอซื้อได้ตกลงจะจำนำหุ้นของกิจการที่ได้จาก MIH และจาก การทำคำเสนอซื้อ เป็นหลักประกัน เงินกู้ โดยในกรณีที่เงินกู้ยืมข้างต้นสำหรับการทำคำเสนอซื้อหุ้นนั้นไม่เพียงพอต่อ การทำการเสนอซื้อของผู้ทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ แหล่งเงินทุน เพิ่มเติมจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของ TRUE และบริษัทย่อย ทั้งนี้ในส่วนของการซื้อหุ้นของกิจการจาก MIH นั้นได้มีการซื้อขายและจดจำนำหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2549
|