Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มกราคม 2549
ลูกเขย"ชัย"ลุยอสังหาฯ             
 


   
search resources

Real Estate
สุเมธ สุขพันธ์โพธาราม




ลูกเขย ชัย โสภณพนิช "สุเมธ สุขพันธ์โพธาราม" โดดลงแข่งธุรกิจอสังหาฯ หลังประสบความสำเร็จโครงการแรกพหล เมทโทร คอนโดมิเนียม ขายหมดภายใน 3 เดือน ล่าสุดร่วมทุนกลุ่มปราณีภัณฑ์ ผุดคอนโดฯ สูง 28 ชั้นย่านลาดพร้าว ซ.12 ขาย 50,000 บาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท พร้อมร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่นปราณบุรีพัฒนาบ้านเดี่ยว-แฝด 45 หลัง พร้อมเล็งหาที่ดินพัฒนาโครงการต่อเนื่อง

ในยุคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นได้ยากในภาวะเช่นนี้ ซึ่งคนที่จะเกิดใหม่ได้จริงๆจะต้องมีความสามารถมาก รวมไปถึงมีเงินทุนในการพัฒนา จึงจะประสบความสำเร็จได้

โดยผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่าง นายสุเมธ สุขพันธ์โพธาราม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภราช กรุ๊ป เปิดเผยถึงการเข้ามาดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า จากความเป็นสถาปนิกและได้ทำงานในอเมริกา มากว่า 5 ปี ซึ่งเกี่ยวกับการออกแบบอาคารสูงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นได้เข้ามาเปิดบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายใน ภายใต้ชื่อ ทีเอ็ม ดีไซน์ จำกัด ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับวงการอสังหาฯอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หากมองอีกด้านหนึ่งแล้วสุเมธ สุขพันธ์โพธาราม ผู้นี้มีศักดิ์เป็นลูกเขยของนายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันภัยจำกัด (มหาชน) ซึ่งการันตีได้ว่าบริษัทนี้มีฐานะมั่นคงเพียงใด อย่างไรก็ตามต้อง ความสำเร็จของโครงการจะเป็นเครื่องมือวัดความสามารถของผู้บริหารหนุ่มคนนี้

ทั้งนี้ในช่วงปี 2546 ได้เห็นทิศทางของตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มที่ดี จึงได้เริ่มดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เมื่อปี 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท พัฒนาโครงการแรกเมื่อปี 2546 ภายใต้ชื่อ "พหล เมทโทร คอนโดมิเนียม" ในนามบริษัท ศุภราช สวีท เพลส จำกัด ที่ตั้งโครงการใน ซ.พหลโยธิน 14 บนพื้นที่ 1 ไร่ จำนวน 164 ยูนิต ราคาขาย 30,000 บาท/ตร.ม. เริ่มต้นที่ 1.2 ล้านบาท ขายหมดภายใน 3 เดือน

โครงการดังลก่าวถือว่าเป็นโครงการคอนโดฯระดับกลางโครงการแรกๆในย่านนั้น ซึ่งมีความต้องการมากทำให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นก็มีผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปพัฒนา ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 99% เหลือเพียงตกแต่งภายในและขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยส่งมอบ

สำหรับแผนการพัฒนาของบริษัทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการโครงการคอนโดฯแห่งใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท อินสไตส์ เอทเตท พาร์ค จำกัด ของนายพีระศักดิ์ กลิ่นสุนทร กลุ่ม "ปราณีภัณฑ์" ในนามบริษัท "ศุภราช อินสไตส์ เวนเจอร์ จำกัด" ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยศุภราชถือหุ้น 70% ส่วนที่เหลือเป็นของอินสไตส์ฯ โดยจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ในลาดพร้าว ซ.12 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่

ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบโครงการ โดยในเบื้องต้นจะพัฒนาเป็นตึกสูง 27-28 ชั้น ขนาดห้อง 33-90 ตร.ม. ราคาขายตร.ม.ละประมาณ 50,000 บาท หรือเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ประมาณไตรมาส 2 ของปีนี้

นายสุเมธกล่าวว่า การร่วมทุนดังกล่าว เนื่องจากเป็นเพื่อนกับนายพีรศักดิ์ อีกทั้งยังมีความสนใจในที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยกัน ทำให้ตัดสินใจร่วมลงทุน นอกจากนี้ยังต้องการความชำนาญของอินสไตส์ฯ ที่มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมมาหลายโครงการ

นอกจากนี้ จากการที่บริษัทมีความยืดหยุ่นด้านการลงทุน ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งการเติบโต ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในทุกรูปแบบทั้งลงทุนเองและการร่วมทุน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยงต่ำ ความเป็นไปได้ของโครงการ โดยการลงทุนในกรุงเทพฯ จะยึดการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในเขตเมืองเป็นหลัก ส่วนแนวราบนั้นยังไม่มีความสนใจในขณะนี้

ส่วนการลงทุนในกรุงเทพฯ บริษัทจะเน้นเฉพาะตึกหรือคอนโดมิเนียมระดับกลาง เนื่องจากมองว่าตลาดนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อีกทั้งเป็นฐานกลุ่มลูกค้าที่ให้ที่สุดของตลาด แต่การพัฒนาจะต้องอิงไปกับแนวรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเป็นที่ต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการต่อไปแต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะลงทุนเองหรือใช้วิธีร่วมทุน

"สมัยนี้การทำธุรกิจต้องฉลาด หมดยุคเก่าที่ขายกระดาษไปแล้ว คนที่เข้ามาใหม่ต้องมีการศึกษาตลาด พัฒนาสินค้าคุณภาพ และต้องมีแบล็คอัพที่ดี มีความพร้อม ลูกค้าเค้าฉลาดเค้าจะเป็นคนเลือกเองว่าต้องการบ้านแบบไหน ดังนั้นต้องพัฒนาสินค้าที่ตรงใจลูกค้าจึงจะประสบความสำเร็จ" นายสุเมธกล่าว

สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาฯ เชื่อว่าน่าจะกระเตื้องกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งนักพัฒนาที่พัฒนาสินค้าขนาดห้องที่เหมาะสม ราคา โลเคชั่นที่ดีย่อมประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามปัญหาในการพัฒนาของผู้ประกอบการคือ กฎหมายสีของผังเมือง ที่บางพื้นที่ไม่สามารถก่อสร้างตึกสูงได้ทำให้สัดส่วนในการก่อสร้างลดลง ในขณะที่ต้นทุนด้านที่ดินสูง ทำให้ก่อสร้างไม่ได้

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมทุนกับนักลงทุนที่อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในนามบริษัท เพลินบุรี จำกัด ทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท ศุภราชถือหุ้น 60% ในการพัฒนาบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยมีพื้นที่ติดหาด ใกล้กับโครงการเอวาซอน บนเนื้อที่ 9 ไร่ จำนวน 45 ยูนิต ราคาประมาณ 6-9 ล้านบาท โดยจะมีบ้านบางส่วนที่เห็นวิวทะเล ขนาดบ้านเริ่มตั้งแต่ 50 ตร.ว.

"การหาที่ดินที่ปราณบุรี หรือหัวหินแทบจะไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นการขยายการพัฒนาจึงเริ่มออกไปทางเขาเต่า หรือไม่มีพื้นที่ติดทะเล และการที่ซื้อบ้านติดทะเลราคาจะแพงมาก ถูกสุดก็ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนที่เราได้ที่ดินมาทำเพราะหุ้นส่วนเป็นนักพัฒนาในย่านนั้นอยู่แล้วทำให้หาที่ดินเข้ามาได้ และขายบ้านได้ในราคาไม่เกิน 9 ล้านบาท" นายสุเมธกล่าว

สำหรับบริษัท ที่เอ็ม ดีไซน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท รับออกแบบและตกแต่งภายใน ที่ผ่านมาได้ออกแบบให้กับหลายโครงการ อาทิ โครงการ ปิยาลัย รีสอร์ท ป่าตอง โดยเป็นโครงการ บ้านเดี่ยว วิลล่า คอนโดมิเนียม ซึ่งบริษัทรับออกแบบในส่วนของคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ ไตรตรัง เวเคชั่น คลับ ก่อสร้างเป็นแบบคอนโดมิเนียม 2 ชั้นเล่นระดับ แบบโมเดิร์น และวิลล่า ภายใต้ชื่อปิยาลัย รีสอร์ท จำนวน 40 หลัง บริษัทออกแบบในส่วนของหลังพิเศษ 1 หลัง ราคาขายกว่า 5-6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ ของโครงการและของภูเก็ตเลยก็ว่าได้ โดยโครงการนี้ได้ชะลอไปชั่วคราวหลังเกิดสึนามิ และคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ยังได้ออกแบบและตกแต่งภายในให้กับโครงการ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จำนวน 70 ยูนิต ของกลุ่มซิตี้ รีสอร์ท ในซ.สุขุมวิท 39 โครงการนี้เจาะกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น ดังนั้นการตกแต่งภายในจึงเป็นสไตล์ญี่ปุ่นทั้งหมด ซึ่งลูกค้าจะไม่เน้นห้องขนาดใหญ่ แต่จะต้องมีการจัดวางที่เป็นสัดส่วนลงตัว นอกจากนี้ยังตกแต่งภายในสำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us