บอดี้เชพปรับยุทธศาสตร์และรูปแบบการตลาดใหม่รับมือตลาดปีจอ ภายใต้งบตลาดกว่า 50 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวสาขาใหม่ที่สยามพารากอนเดือนก.พ.นี้ และพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ที่เจาะกลุ่มลูกค้าวัย 25-35 ปีในช่วงกลางปี ด้าน “ฟิลิป เวน” ชี้เทรนด์ธุรกิจสุขภาพความงามปีนี้ยังแข่งขันสูง ระบุบริษัทที่มีสายป่านแข็งแรงจะอยู่รอดในตลาด ส่วนรายย่อยจะลำบาก
นางปราณี สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงการแข่งขันของสถาบันลดและกระชับสัดส่วนในปีนี้มองว่า ตลาดยังมีการแข่งขันที่ดุเดือดอยู่ ทั้งจากผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ ในส่วนของของบอดี้เชพปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 13 ปี บริษัทฯได้มีการแผนปรับยุทธศาสตร์และรูปแบบการตลาดใหม่ที่มีความลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งวิธีการเล่น, การนำเสนอ,การเน้นที่ผลลัพธ์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ภายใต้งบการตลาดที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรือประมาณกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งการที่บริษัทฯใช้งบตลาดไม่มากเพราะต้องการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่ให้สูงเกินไป เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้
“ปีนี้บริษัทฯต้องการต่อยอดแบรนด์และความเชื่อถือของแบรนด์บอดี้เชพด้วยการปรับรูปแบบการตลาดใหม่ ซึ่งถือว่าแตกต่างจากปีที่แล้วที่เน้นการจัดกิจกรรมบีโลว์ เดอะ ไลน์และเน้นไปที่การสร้างแบรนด์บอดี้เชพ ซึ่งตรงนี้ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคในการจดจำแบรนด์”
นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสาขาใหม่ “บอดี้เชพ เอกซ์คลูซีฟ" ที่สยามพารากอนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ด้วยขนาดพื้นที่ 200 ตร.ม. ภายใต้งบลงทุนกว่า 45 ล้านบาท รวมถึงบริษัทฯเตรียมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายหลักของบอดี้เชพ คือ ผู้หญิงที่อายุ 25- 35 ปีในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและห่วงใยรูปร่างของตัวเอง โดยผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดรายได้โตกว่า 20% จากปีที่แล้ว
“ฟิลิป เวน”เชื่อรายใหญ่ได้เปรียบในตลาด
นางกุลธิดา จันทรจำนง ผู้จัดการคลับ ฟิลิป เวน สาขาลาดพร้าว ผู้บริหารสถานเสริมความงามและสุขภาพ "ฟิลิป เวน" เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจความงามและออกกำลังกายหรือสินค้าบริการที่เกาะกระแสสุขภาพจะยังคงไปได้เรื่อยๆ ซึ่งในปี2549นี้มองว่าตลาดจะมีการแข่งขันสูงกว่าปีที่แล้ว และหากบริษัทใดมีสายป่านยาวหรือมีบริการแบบครบวงจรก็จะได้เปรียบในเรื่องการลงทุนที่มีงบลงทุนมาก ขณะที่รายย่อยในตลาดจะลำบาก เพราะเม็ดเงินที่ใช้ลงทุนมีน้อย
ธุรกิจด้านสุขภาพความงามยังคงมีแนวโน้มโตและคาดว่ายังจะมีผู้ประกอบการรายใหม่สนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง โดยตลาดรวมของสถาบันความงามหรือสลิมมิ่งจุดขายที่สำคัญ คือ การบริการที่ใช้แล้วได้ผล ส่วนตลาดออกกำลังกายจุดขายที่แข่งกัน คือ ห้องเต้นแอโรบิคหรืออุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการบริการแบบต่อต่อตัว เป็นต้น”
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ของฟิลิป เวนจะเน้นการให้บริการแบบครบวงจรทั้งบริการฟิตเนส,ทรีตเมนท์,ลดสัดส่วน,การวิเคราะห์คุณค่าอาหาร ,บริการทำผมและเล็บ ฯลฯ โดยปีนี้จะมีการทำตลาดด้วยการหาโปรแกรมหรือโปรโมชั่นใหม่ๆเข้ามาให้บริการลูกค้าที่ปัจจุบันมีกว่า 4-5 พันราย และส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแอคทีฟทั้งนั้น ซึ่งการทำตลาดจะไม่เน้นการเพิ่มปริมาณลูกค้าแต่จะเน้นที่การให้บริการเป็นหลัก โดยปัจจุบันฟิลิป เวนสามารถรองรับลูกค้าได้วันละ 150 คนต่อสาขา และสามารถรับเพิ่มได้อีกวันละ 150 คนต่อสาขา
ปัจจุบันฟิลิป เวนเปิดให้บริการ 2 สาขา ได้แก่ สาขาสุขุมวิทและสาขาลาดพร้าว บริษัทฯมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบเกือบ 100 ล้านบาท บนขนาดพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ซึ่งขณะนี้กำลังดูทำเลที่ตั้งอยู่
|