|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องกันไม่จบไม่สิ้น สำหรับกรณีของสนามกอล์ฟ บลู แคนยอน คันทรี่คลับ จ.ภูเก็ต สนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม 2 สนาม บนพื้นที่กว่า 1,800 ไร่ ที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย มูลค่า 8,000 ล้านบาท และมีนักกอล์ฟจากทั่วโลก มาออกรอบกันจนสนามแน่นเกือบทุกวัน
ปัจจุบันปัญหาต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้แล้วเสร็จ ในทางตรงกันข้ามกลับลุกลามใหญ่โต กับคดีการฟ้องร้องระหว่างผู้บริหารชุดเดิมที่มีหัวเรือใหญ่คือ เรวัต จินดาพลผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด เจ้าของสนามกอล์ฟ บลูแคนยอน คันทรี่ คลับ ภูเก็ต กับผู้บริหารชุดใหม่ นำโดยเซีย เลง เยิน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานและประธานกรรมการบริหาร ยังไม่จบสิ้น
อยู่ๆ ดอยซ์แบงก์ธนาคารสัญชาติเยอรมัน โดยมอร์แกน เอ.ลอแลงก์ กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายภูมิภาคเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น ดีบี เรียลเอสเตท-เอเชีย ในส่วนธุรกิจบริหารเงินทุนสำหรับอสังหาริมทรัพย์ของดอยช์แบงก์ ก็ออกมาประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะลงทุนร่วมกับเซีย เลง เยิน ซึ่งจะนำเงินมาลงทุนรวม 2,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้ให้กับรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.) เจ้าหนี้รายใหญ่
อีกส่วนหนึ่งจะลงทุนพัฒนาสนามกอล์ฟ ปรับปรุงคลับเฮ้าส์ สปา พื้นที่ส่วนกลาง และวิลล่าหรูหรา ริมสนามกอล์ฟบลู แคนยอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะสรปุผลได้ใน 2-3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ หลังจากที่ดอยช์แบงก์ใส่เม็ดเงินเข้าไปในสนามกอล์ฟ จะทำให้ดอยช์แบงก์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที ขณะที่กลุ่มเซีย เลง เยิน จะเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2 เท่านั้น
"ก่อนหน้านี้ดอยช์แบงก์ได้เจรจากับกลุ่มเซีย เลง เยินมาตลอดในช่วง 2 -3 ปีก่อน และก็สรุปผลการเจรจาลงตัวที่ดอยช์แบงก์จะนำเงินมาร่วมลงทุน 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ดอยช์แบงก์เคยมาลงทุนในเอวาซอล ผ่านอาร์อาร์อีอีเอฟ โกลบอล ออพพอทูนิตี้ส์ ฟัน ทู แล้ว โดยดอยช์แบงก์ถือหุ้น 60% นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนในเอวาซอล หัวหิน ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 49%"
คดียังไม่สิ้นสุด
สำหรับความคืบหน้าของการฟ้องร้องเรื่องดังกล่าว เรวัต จินดพล ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร บริษัท มิวเร็กซ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด อยู่ในกระบวนการของศาลรวม 8 คดี โดยอยู่ที่ศาลภูเก็ต 3 คดี ได้แก่
1.ฟ้องเซีย เลง เยิน เป็นจำเลย ข้อหา กระทำความผิดพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
2. ฟ้องเซีย เลง เยิน ,บริษัท บี ซี กอฟล์ รีสอร์ท เมเนจเมนท์ กับพวก ข้อหา สนับสนุนปลอมเอกสารราชการ ยักยอก และผู้บริหารแผนปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ 3 ฟ้องเซีย เลง เยิน บริษัท บลูแคนยอน โฮลดิ้งส์ (ไทยแลนด์) ข้อหา เพิกถอนหุ้นในบริษัทจำกัด และมอบหุ้นคืน ซึ่งศาลได้รับฟ้อง เพราะคดีมีมูล คาดว่าจะเริ่มพิจารณาคดีได้ในปี 2550 เนื่องจากมีคดีในศาลจ.ภูเก็ตจำนวนมาก ทำให้การตัดสินใจต้องเลื่อนออกไป จากเดิมที่จะพิจารณาในปีนี้
ส่วนคดีที่อยู่ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มี 2 คดี ได้แก่ 1. ฟ้องบริษัท บี ซี กอฟล์ รีสอร์ท เมเนจเมนท์ จำกัด เซีย เลง เยิน กับพวก ข้อหาผู้บริหารแผนปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และยักยอกทรัพย์ และ2.ฟ้องบริษัท มิวเร็กซ์ กับพวก ข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ,ใช้เอกสารปลอม กระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน ซึ่งคาดว่าคดีที่ 2 จะจบในเดือนม.ค. นี้
นอกจากนี้ยังมีคดีอยู่ที่ศาลล้มละลายกลางอีก 2 คดี ได้แก่ 1.โฮ แรม แฮค ลุง ผู้บริหาร บลูแคนยอน พร็อพเพอร์ที่ จำกัด อุทธรณ์คำสั่งชั้น พิพากษาขอให้บริษัทบี ซี กอฟล์ รีสอร์ท เมเนจเมนท์ พ้นจากตำแหน่งผู้บริหารแผน 2 .ขออนุญาติอุทธรณ์ คำสั่ง ชั้นพิจารณา ขอให้ผู้บริหารแผนพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งศาล ได้ตัดสินยกฟ้องเมื่อประมาณเดือนส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม จึงได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาอีกครั้งเมื่อประมาณเดือนพ.ย.48 และ 3.คดีการแก้ไขแผนฟื้นฟู
เตือนนักลงทุนเสียเงินฟรี
ดังนั้น เรวัต จึงเกรงว่ากลุ่มผู้ร่วมทุนรายใหม่ และรายที่กำลังจะเข้ามา รวมถึงผู้ที่จะเข้ามาซื้อวิลล่า และอาจจะไม่รู้ว่า ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่ และหากกลุ่มเรวัต ชนะคดี นิติกรรมทุกอย่างที่เกิดในช่วงที่มีการฟ้องร้องเป็นโมฆะ ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนไม่มีสิทธิ์ตามที่เข้ามาลงทุน
สำหรับเรวัต ในอดีตเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 65% แต่หลังจากที่มีการเพิ่มทุน ทำให้มีสัดส่วนลดลงเหลือเพียง 4% ขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องเพื่อทวงสิทธิ์การกลับเข้าไปเป็นผู้บริหารเหมือนเดิม เพราะมีหลักฐานว่าการเพิ่มทุนครั้งที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มทุนปลอม
ส่วนความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการนั้น เซีย เลง เยิน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผน คาดว่าในราวไตรมาสแรกปี 2549 จะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้
ด้านไฮ แรม แฮค ฮุง กรรมการ บริษัท เซ้าท์ อีเกิ้ล โฮลดิ้ง จำกัด และผู้บริหารบริษัท บลู แคนยอน พร็อพเพอร์ที่ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากเกาหลีที่เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัท มิวเร็กซ์ ในช่วงก่อนเพิ่มทุน กล่าวว่า เซีย เลง เยิน ไม่ได้ทำหน้าที่ผู้บริหารแผนที่แท้จริง เพราะไม่มีการดูแลผลประโยชน์ให้กับเจ้าหนี้ ทางตรงกันข้างกับทำให้ผลประโยชน์ของเจ้าหนี้หายไป และสร้างผลประโยชน์ให้กับเซีย เลง เยิน เอง
ทั้งนี้จากการกระทำดังกล่าวของเซีย เลง เยิน หากไม่มีการเมืองเข้าแทรก เชื่อว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะชนะคดีแน่นอน และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะส่งหนังสือชี้แจงข้อมูลเตือนไปยังกลุ่มผู้ร่วมทุนใหม่ คือ ดอยซ์แบงก์ให้ทราบถึงการเพิ่มทุนที่เป็นเท็จ และคดีต่างๆ ที่พัวพันกับบริษัทที่ดอยซ์แบงก์กำลังจะเข้ามาลงทุนด้วย
|
|
|
|
|