|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โบรกเกอร์ แนะถือหุ้น "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" คาดการณ์ ผลประกอบการปี 2549 นี้กระเตื้องขึ้น เล็กน้อย เหตุยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลดเดิมๆ ทั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ และยอดอัลบั้มลด รวมถึงเม็ดเงินโฆษณาทรงตัว
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ประเมินฐานะการดำเนิน งานบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำประมาณการฐานะการดำเนินงาน GRAMMY ในปี 2549 โดยเบื้องต้นคาดว่ากำไรน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2548 เล็กน้อย แต่คงไม่ใช่แบบก้าวกระโดด เนื่องจาก ยังต้องประสบปัญหาจากปัจจัยลบเดิมๆ อาทิ การละเมิดลิขสิทธิ์ของเทป ซีดีเพลง รวมถึงจำนวนอัลบั้มที่มียอด จำหน่ายได้ระดับล้านแผ่นมีจำนวนน้อยลง
ด้านรายได้อื่นๆ ทั้งเม็ดเงินโฆษณาในสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ยังมีแนวโน้มทรงตัว แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะดูดีขึ้น แต่คาดว่าอัตราการเติบโตของเม็ดเงินอุตสาหกรรมยังอยู่ที่ระดับ 5-7% ใกล้เคียงกับปี 2548 จากเดิมที่อัตราการเติบโตดังกล่าวอยู่ในระดับ 10-20% รวมถึงสภาพการแข่งขันที่ยังสูงมาก ทำให้เม็ดเงินโฆษณา ถูกดึงไปมาในสื่อหลายๆ ประเภท
สำหรับธุรกิจการบริหารคลื่น วิทยุ ของ GRAMMY ภายใต้บริษัทย่อย บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (GMMM) ขณะนี้เบื้องต้นยังอยู่ครบทั้ง 5 สถานี ส่วน คลื่น 94.0 เอฟเอ็ม ก็มีแนวโน้มที่จะได้เข้าบริหาร ขณะที่ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ต้องรอข้อมูลเพื่อประเมินอีกครั้ง หลังจากที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการปรับผังรายการของสถานีโทรทัศน์
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนหุ้น GRAMMY แนะถือ เนื่องจากยังมีจุดเด่นที่เป็นหุ้นยังมีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการอยู่ในอัตราที่ดี โดยผลการดำเนินงานล่าสุด ไตรมาส 3 ปี 2548 GRAMMY กำไร สุทธิ 71.99 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท ลดลงจากปีก่อนกำไรสุทธิ 203.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.41 บาท ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 197.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.40 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 567.01 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.16 บาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนกำไรสุทธิลดลงกว่า 369.74 ล้านบาท หรือลดลงจากปีก่อนประมาณ 65% เป็นผลจากการที่รายได้ของบริษัทลดลง แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน คือลดลงจาก 46% เป็นอัตรา 44% ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของ รายได้จากธุรกิจเพลงและก่อให้เกิดผล กระทบต่อธุรกิจที่ต่อเนื่อง ภาวะการแข่งขันทางด้านธุรกิจวิทยุ และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนของธุรกิจโทรทัศน์
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น GRAMMY วานนี้ (4 ม.ค.) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากวันก่อนค่อนข้างแรง สวนกระแสดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 20 จุด แต่มีปริมาณการซื้อขายไม่มากนัก โดยในช่วงเช้าราคาหุ้นปิดที่ 13.70 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.30 บาท หรือคิดเป็น 2.14% และมูลค่าการซื้อขายเพียง 0.32 ล้านบาท ขณะที่ในภาคบ่าย ราคาหุ้นยังคงมีการซื้อขายอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาปิดของวันก่อน และปิดการซื้อขายที่ 13.80 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.20 บาท หรือ 1.43% มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นเพียง 1.57 ล้านบาท ณ เวลา 11.12 น. หุ้น GRAMMY อยู่ที่ 13.60 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 0.17 ล้านบาท ส่วน GMMM อยู่ที่ 11.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 0.65 ล้านบาท
หุ้นบมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ที่ราคาปรับลดลงมาก กว่า 0.40 บาท หลังเปิดการซื้อขายใน ช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า น่าจะมาจากแรงขาย ทำกำไร หลังจากที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2548 ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง และวานนี้ราคาหุ้น GRAMMY ปรับขึ้นกว่า 0.70 บาท ซึ่งในช่วง ดังกล่าวก็ไม่มีปัจจัยเข้ามากระทบ จึงประเมินว่าราคาหุ้น GRAMMY ที่ปรับลดลงวันนี้จึงน่าจะมาจากการขายทำกำไรเท่านั้น
|
|
|
|
|