|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ประกอบการขายตรง ทั้งรายใหญ่และรายเล็กฟันธงขายตรงปีจอยังสดใสและอยู่ในช่วงขาขึ้น คาดการณ์ตลาดรวมโตประมาณ 10% "มิสทิน" ไม่หวั่นตัวแปรเศรษฐกิจยังเชื่อ คนอยากมีรายได้เพิ่มจึงรุกทำขายตรง "แอมเวย์" มั่นใจรายใหม่แห่เข้าตลาดเพียบ ดันภาพรวมธุรกิจโต ด้าน "สปอร์ต ทรอน" เชื่อขายตรงยังขาขึ้นหลังคนได้รับข้อมูลและเข้าใจตลาดมากขึ้น"คังเซน- เคนโก" ห่วงธุรกิจแอบแฝงทำธุรกิจปั่นป่วน
ตลาดขายตรงปีจอ 2549 เหล่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมองว่าธุรกิจขายตรงยังพบความสดใสอยู่และธุรกิจยังไปได้สวย ถึงแม้ว่าปีไก่ที่ผ่านมาจะเจอสารพัดปัจจัยลบกระหน่ำไม่หยุด ทั้งราคาน้ำมันปรับเพิ่มหรือการที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และสถานการณ์ภาคใต้ ฯลฯ แต่ปี 2548 ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ ให้เห็นว่าแม้จะมีปัจจัยลบหรือปัญหาอุปสรรคมากเพียงไร ธุรกิจขายตรง ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างสวยงาม ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราการโต 10% ส่วนจำนวนนักขายอิสระรวมทั้งหมดมีกว่า 4 ล้าน คน
ขณะที่ภาพรวมขายตรงปีหน้าคาดการณ์ว่าตลาดจะโตประมาณ 10% โดย ตลาดจะแบ่งเป็นธุรกิจขายตรงชั้นเดียว มีสัดส่วน 40% ซึ่งมิสทินเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 65% ส่วนขาย ตรงหลายชั้นหรือเอ็มแอลเอ็มมีแอมเวย์เป็นผู้นำตลาด รองมาเป็นกิฟฟารีน และ นู สกิน
มิสทินเชื่อคนสนทำขายตรงเพิ่ม
นายดนัย ดีโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงชั้นเดียว "มิสทิน" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่าทิศทางธุรกิจขายตรงปี 2549 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี แต่ธุรกิจขายตรงก็ยังสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อยู่ ซึ่งโอกาสที่คนหรือนักขายจะเข้ามาทำธุรกิจขายตรงและอยากมีรายได้เสริมจะมีมากขึ้น ตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์ของธุรกิจขายตรงในปีหน้า ขณะที่อำนาจการซื้อของผู้บริโภคอาจจะลดลงไปบ้าง ตรงนี้ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องมีการปรับตัว เช่น การดูแลต้นทุนการผลิต หรือวิธีการดึงดูดผู้บริโภค ฯลฯ ในส่วน ของเทรนด์การแข่งขันของตลาดจะแข่งที่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการทำโปรโมชันจะเป็นกุญแจสำคัญ (Key Success) ในการทำธุรกิจขายตรง
ในส่วนการทำตลาดของมิสทิน ปี 2549 จะเดินเกมรุกตั้งแต่ช่วงต้นปี ภายใต้งบการตลาด 400 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ รวมถึงการรุกช่องทางขายเข้าสู่คอน วีเนียนสโตร์มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและเป็นการกระตุ้นยอดรายได้มิสทินปีหน้าให้โตตามเป้าที่ 10%
แอมเวย์ชี้รายใหม่เกิดขึ้นเพียบ
นายปรีชา ประกอบกิจ นายกสมาคมการขายตรงไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความเห็นสอดคล้องกับมิสทินที่ว่า ธุรกิจขายตรงปี 2549 ยังคงสดใสและคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้นได้อีกมาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจโตมาจากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ โดยจากข้อมูลตัวเลขของผู้ประกอบการขายตรงที่ไปขึ้นทะเบียนกับทางสำนัก งานคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. พบว่าปัจจุบันมีกว่า 300 บริษัท
"ตลาดขายตรงปีหน้าจะเป็น ฟูลเยียร์ อิมแพ็ค ที่ได้รับผลต่อเนื่องมาจากปีนี้ที่มีปัจจัยลบหลายด้าน อาทิ สึนามิ, ราคาน้ำมัน และความมั่นคงปลอดภัย เป็นต้น แต่สิ่งที่กังวลในปีหน้าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนภายในองค์กรว่าทำอย่างไรถึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด"
ขณะที่การดำเนินธุรกิจของแอมเวย์ปีนี้บริษัทฯไม่รอช้า เตรียมเปิดเกมสร้างความเคลื่อนไหวในตลาด ภายใต้งบ การตลาดกว่า 80 ล้านบาท โดยยังคงโฟกัสไปที่ 2 แบรนด์เดิมอย่างเครื่องสำอางอาร์ทิสทรีและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นิวทริไลท์ รวมถึงเตรียมเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง อาทิ เครื่องกรองอากาศภายใต้แบรนด์ "แอท มอสเฟียร์" นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้มีการลงทุนเพิ่มในส่วนของระบบไอที เพื่อ อำนวยความสะดวกลูกค้า และเตรียมเปิดศูนย์แอมเวย์ ชอปเพิ่มอีก 3 แห่ง
ขายตรงยังขาขึ้นเพราะคนเข้าใจตลาด
ผู้ประกอบการขายตรงของคนไทย อย่างบริษัทสปอร์ตทรอน อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ยังเชื่อ ว่าขายตรงปีนี้จะยังดีอยู่ จากปัจจัยภายในของตลาดขายตรงที่เชื่อว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม อีกทั้งตัวผู้บริโภคก็มีความเข้าใจในธุรกิจมากขึ้นจากการที่ได้รับข้อมูลและข่าวสารจากสื่อต่างๆ มากขึ้น
คังเซนฯห่วงพวกแอบแฝงทำตลาดปั่นป่วน
ด้านนายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"ว่า สิ่งที่เป็นห่วงในปีนี้คือเรื่องธุรกิจขายตรงที่แอบแฝง หรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัญหาตรงนี้ภาค รัฐยังไม่สามารถแก้ไขหรือปราบปรามได้อย่างเด็ดขาด จึงก่อให้เกิดธุรกิจแอบแฝงขึ้น
ส่วนเทรนด์การแข่งขันของธุรกิจขายตรงปีนี้มองว่าจะเน้นแข่งที่ตัวสินค้าหรือการสร้างวัฒนธรรมในองค์กร ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กรด้วยว่าจะทำอย่างไรในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรไปยังสมาชิกและคนทั่วไปนอกจากนี้ ยังเชื่อว่าธุรกิจนี้จะเป็นที่สนใจ ของผู้ประกอบการรายใหม่ให้เข้ามาในตลาดมากขึ้น
|
|
|
|
|