Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2540
"โคคา-โคลา" ผนึก "เนสท์เล่" ลุยตลาดกาแฟกระป๋อง             
 


   
search resources

เนสท์เล่ (ไทย), บจก.
โคคา โคลา (ประเทศไทย), บจก.
เคิร์ก วีลเลอร์




เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ณ สหรัฐอเมริกา ทั้งบริษัท โคคา-โคลา จำกัด และบริษัท เนสท์เล่ จำกัด ได้ประกาศผนึกกำลังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันนั้นโดยอาศัยความแข็งแกร่งของบริษัท โคคา-โคลา ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีระบบการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผนึกกับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารอย่างเนสท์เล่ เป็นผลให้การดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทประสบความสำเร็จไปทั่วโลก โดยในเบื้องต้นได้ลงทุนร่วมกันในการผลิตและจำหน่ายชาพร้อมดื่มจำหน่ายใน 30 กว่าประเทศทั่วโลก รวมทั้งได้ร่วมกันดำเนินธุรกิจกาแฟกระป๋องด้วย สำหรับประเทศในแถบเอเชียทั้ง 2 บริษัท ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกันในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง-มาเก๊า และมาเลเซีย ล่าสุด ทั้ง 2 บริษัทได้ตระหนักถึงความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ในประเทศไทยที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆ เช่น เนสท์กาแฟ คอฟฟี่เมท นมตราหมี ไมโลและแม็กกี้ เป็นต้น และมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 80% ประกอบกับศักยภาพการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำอัดลมในไทยและความชำนาญด้านการจัดจำหน่ายของโคคา-โคลา ในประเทศไทยที่มีมานานร่วม 50 ปี จึงได้มีการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท โคคา-โคลา เนสท์เล่ เบเวอเรจ (ประเทศไทย) ขึ้น โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท โคคา-โคลา เซาท์ เอเชีย โฮลดิ้ง ในสัดส่วน 51% และบริษัทเนสท์เล่ (ประเทศไทย) 49%

เครื่องดื่ม "โค้ก" ได้เริ่มจัดจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2491 โดยมีโรงงานผลิตและบรรจุภัณฑ์แห่งแรกที่หลานหลวง โดยธุรกิจได้มีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่ง ปี'39 ที่ผ่านมา "โค้ก" ได้มียอดขายสูงขึ้นถึง 11% และส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยสูงถึง 58%

"กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทนี้มีลักษณะเหมือนกันทั่วโลกคือ นำจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทมาประสานกัน ซึ่งถือเป็นความคุ้มค่าในการลงทุน โดยเฉพาะในแง่ของความสามารถในการแข่งขัน" เคิร์ก วีลเลอร์ ผู้จัดการภูมิภาคประจำประเทศไทย แห่ง โคคา-โคลา (ประเทศไทย) กล่าว ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวก็คือ "จุดแข็งด้านการจัดจำหน่ายของโคคา-โคลา ร่วมกับจุดแข็งในรสชาติกาแฟของเนสท์เล่" นั่นเอง

นอกจากนั้น วีลเลอร์ ยังเล่าความเป็นมาของการร่วมทุนครั้งนี้ด้วยว่า "การร่วมทุนของทั้ง 2 บริษัทในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายระดับโลกของทั้ง 2 บริษัท เพื่อเพิ่มและรักษาผลประโยชน์แก่ลูกค้าและผู้บริโภค โดยเฉพาะนโยบายระยะยาวในการดำเนินการและพัฒนาธุรกิจเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์"

และเพื่อเป็นการตอกย้ำความร่วมมือครั้งสำคัญในตลาดเครื่องดื่มไทย "โคคา-โคลา เนสท์เล่ เบเวอเรจ (ประเทศไทย)" จึงได้เปิดตัวเครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูปชนิดกระป๋อง 2 รสชาติ ได้แก่ "เนสกาแฟ เอ็กซ์ตร้า" และ "เนสกาแฟ คาเฟโอเล" ด้วยรูปโฉมที่สะดุดตา โดย "เนสกาแฟเอ็กซ์ตร้า" เป็นกาแฟรสชาติอร่อยเข้มหอมรสกาแฟแท้ ซึ่งบรรจุอยู่ในกระป๋องสีเขียวสดใส มีตราสัญลักษณ์ "NESCAFE" เป็นแนวตั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มข้น ส่วน "เนสกาแฟ คาเฟ โอเล" ในกระป๋องสีทอง เป็นกาแฟที่มีรสชาติหอมมัน กลมกล่อม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความอร่อย หวานมันของกาแฟเย็น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นการบุกตลาดกาแฟกระป๋องที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งทีเดียว

"ด้วยคุณสมบัติสุดยอดของทั้ง 2 บริษัท จะทำให้เราก้าวเป็นผู้นำในตลาดกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มประเภทกระป๋องของไทย และเราก็มีความเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะมีอัตราเติบโตถึงปีละ 50% ในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน" วีลเลอร์กล่าวอย่างเชื่อมั่น

นอกจากนี้ โทมัสเอส โคลีย์ ประธานกรรมการบริหารเนสท์เล่ (ประเทศไทย) ก็ได้กล่าวด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกันว่า "จากชื่อเสียงและภาพพจน์ของเนสกาแฟ ผนวกกับราคาที่เหมาะสมภายใต้การร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้เราเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดกาแฟพร้อมดื่มนี้แน่นอน"

ซึ่งผลจากการสำรวจตลาดก่อนที่จะมีการออกตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ก็พบว่า ผู้บริโภคต่างก็ชื่นชอบในรสชาติของเนสกาแฟ เอ็กซ์ตร้า และเนสกาแฟ คาเฟ โอเล มากกว่าของคู่แข่งรายอื่น อีกทั้งตลาดกาแฟในเมืองไทยยังเล็กมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียด้วยกัน โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่เกาหลี โดยมีอัตราการบริโภคสูงถึง 300 แก้วต่อคนต่อปี รองลงมาก็คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทยปริมาณการบริโภคกาแฟมีเพียง 60 แก้วต่อคนต่อปีซึ่งนับว่าเป็นอัตราส่วนที่น้อยมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีทางการตลาดของ "เนสกาแฟเอ็กซ์ตร้า" และ "เนสกาแฟ คาเฟ โอเล" ที่จะรุกตลาดกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มประเภทกระป๋องให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้โดยไม่ยากนัก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us