|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
Hush Puppies รุกตลาดรองเท้าผู้หญิง-เด็ก ชูสินค้าแฟชั่นพ่วงเทคโนโลยี อัดสื่ออะเบิฟ เดอะ ไลน์ หวังกระตุ้นกำลังซื้อปี'49 งัดของพรีเมียมจูงใจผู้บริโภค พร้อมขยายไลน์สินค้ากลุ่มกระเป๋าเป็นครั้งแรก เพิ่มศักยภาพแบรนด์รับมือผู้เล่นรายใหม่ที่คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดอย่างน้อยอีก 2 ราย
แม้ภาพรวมตลาดแฟชั่นในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากน้ำมันขึ้นราคา ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จนทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ทว่า ภาพการแข่งขันกลับทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มดุเดือดมากขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจต้องทำการปรับตัว งัดกลยุทธ์ต่างๆออกมากระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค พร้อมกับรับมือผู้เล่นรายใหม่ที่คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศที่พร้อมใจตบเท้าเข้ามาเปิดตลาดในไทยอย่างคึกคัก Hush Puppies (ฮัช พัพพีส์) 1 ในแบรนด์แฟชั่นที่ซีเอ็มจีนำเข้ามาทำตลาดในไทยก็เตรียมรับมือด้วยเช่นกัน
พรรณี ตั้งจิตเสถียรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผลิตภัณฑ์ Hush Puppies บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมสินค้าแฟชั่นในปีนี้กับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ว่า การแข่งขันจะมีความรุนแรงมากขึ้น และตลาดมีแนวโน้มเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาสร้างสีสันในตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็มีเข้ามา 2 ราย คือ ดร.มาร์ติน กับทิมเบอร์แลนด์ และในปีนี้คาดว่าจะมีอินเตอร์แบรนด์เข้ามาทำตลาดอย่างน้อยอีก 2 แบรนด์
สำหรับแผนการตลาด ผู้ช่วยผู้อำนวยการแบรนด์ฮัช พัพพีส์ เผยว่า ปีนี้จะรุกหนักกลุ่มรองเท้าแฟชั่นลำลองสำหรับผู้หญิงเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก โดยปีที่ผ่านมารองเท้าผู้หญิงมีอัตราการเติบโตกว่า 20% เทียบกับปี 2547 ในขณะที่รองเท้าผู้ชายที่ทำรายได้หลักให้กับแบรนด์มีการเติบโตเพียง 5% ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมของผู้ชายจะมีความถี่ในการซื้อรองเท้าน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เฉลี่ย 1 เดือน จะซื้อรองเท้าอย่างน้อย 2 - 3 ครั้ง ซึ่งผู้หญิง1 คนจะมีรองเท้าประมาณ 4 - 5 คู่ ทั้งนี้สินค้าใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดครั้งนี้จะเป็นการนำเข้าจากประเทศอิตาลี บราซิล และจีน
นอกจากนี้ รองเท้าสำหรับเด็กก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่บริษัทหันมาทำตลาดมากขึ้นด้วย เนื่องจากมีการเติบโตที่ดี โดยปีที่ผ่านมาขยายตัวมากกว่า 10% เป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มรองเท้าผู้หญิง ซึ่งบริษัทจะเน้นสินค้ากลุ่มสปอร์ต จับกลุ่มลูกค้าเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป
"ปีนี้เราจะเน้นทำตลาดรองเท้าแฟชั่นผู้หญิง และกลุ่มรองเท้าสปอร์สำหรับเด็กเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก ส่วนรองเท้าผู้ชายบริษัทก็จะมีการออกสินค้าใหม่เช่นกัน โดยจะเน้นรองเท้าที่มีเทคโนโลยีมาเป็นจุดขาย เช่น รองเท้าพื้นแอร์ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดลูกค้ากลุ่มผู้ชายได้มากขึ้น และแบรนด์ของเรายังได้เปรียบเรื่องราคาที่ถูกกว่าประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับคู่แข่งอินเตอร์แบรนด์ เช่น ดร.มาร์ติน"
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเม็ดเงินจำนวน 6 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้เพียง 4 ล้านบาท สำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อประเภทอะเบิฟ เดอะ ไลน์ที่บริษัทจะให้ความสำคัญมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 60% และบีโลว์ เดอะ ไลน์ 40% เพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่น การจัดโปรโมชั่น การจัดอีเว้นท์เปิดตัวสินค้าใหม่ หรือการร่วมกิจกรรมกับเซ็นทรัล นอกจากจะเป็นการตอกย้ำแบรนด์แล้วยังเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้ด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนจะขยายไลน์นำสินค้าประเภทกระเป๋าใส่เอกสาร กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าลำลองเข้ามาจำหน่าย เพื่อให้แบรนด์มีสินค้าคอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภค จากเดิมที่เคยทดลองนำสินค้ากลุ่มแว่นตาเข้ามาจำหน่ายเมื่อ 2 ปีก่อน และทำการถอดออกเพื่อปรับให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น โดยตอนนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่เพื่อนำสินค้ากระเป๋ามาจำหน่าย ซึ่งหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาก่อน และหากได้การตอบรับเป็นอย่างดีอาจจะนำมาผลิตในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะขยายจุดจำหน่ายเพิ่มอีก ภายใต้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท แบ่งเป็น สาขารูปแบบสแตนอะโลน 3 แห่ง สาขาละประมาณ 2 ล้านบาท คือ เซ็นทรัล เวิลด์ หัวหิน และพัทยา สาขาแบบคอนเนอร์ที่จะขยายในต่างจังหวัดจำนวน 10 แห่ง โดยปัจจุบันฮัช พัพพีส์มีจุดจำหน่ายมากกว่า 100 จุดทั่วประเทศ
สำหรับผลประกอบการในปี 2549 บริษัทตั้งเป้าแบรนด์ฮัช พัพพีส์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากปีก่อนที่เติบโตเพียง 7% หรือมียอดขาย 260 ล้านบาท โดยคาดว่า รองเท้าผู้หญิงจะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากสุด 20% จากสินค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยรองเท้าผู้ชาย รองเท้าเด็ก และกางเกงในชาย ปัจจุบันฮัช พัพพีส์มีลูกค้าสมาชิกประมาณ 3 หมื่นราย เป็นลูกค้าแอคทีฟ 50%
|
|
|
|
|