Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 มกราคม 2549
วิบากกรรมคอมพ์เดสก์ท็อป ผู้ค้าต้องพึ่งใบบุญ"โน้ตบุ๊ก"             
 


   
www resources

Acer Homepage

   
search resources

เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย), บจก.
Notebook




คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเดินเข้ามุมอับ ทำตลาดฝืด กำไรต่ำ หลังสงครามทะลุจุดเดือด ผู้ประกอบการต้องหาไลน์สินค้าเพิ่มเสริมรายได้ โดยพุ่งเป้าไปที่โน้ตบุ๊กที่เชื่อว่าเป็นแนวโน้มที่กำลังมาแรง และทำกำไรดี แต่คงหนีไม่พ้นสงครามราคา

คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือเดสก์ท็อป วันนี้และอนาคตอันใกล้ต้องยอมรับชะตากรรมตามการปรับเปลี่ยนและวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ที่ผู้ประกอบการเคยค้าขายหงายมือหากินกับตรงนี้ได้เป็น กอบเป็นกำ จำต้องยอมรับสภาพกับสงครามราคา ที่ทำเอากำไรต่อเครื่องเหลือไม่มาก หรือแทบไม่มี จน บางรายเน้นขายเอาปริมาณหรือวอลลุมเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ และพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่า ด้วยการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และต้องหาไลน์สินค้าใหม่เสริม โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กที่กระแสกำลังมาแรง เพราะถูกขับเคลื่อนด้วยการใช้งานแบบเคลื่อนที่หรือโมบิลิตี้ ที่มีทั้งเทคโนโลยีประเภทไว-ไฟ และไวแมกซ์ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ยิ่งทำให้ขีดความสามารถในการใช้งานมีมากขึ้น

ขณะที่เดสก์ท็อปยังพอมีความหวังอยู่บ้างกับนโยบายภาครัฐ ที่ให้มีเมกะโปรเจกต์เกี่ยวกับไอซีที เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับการศึกษา 2.5 แสนเครื่อง แต่ก็เป็นเค้กก้อนใหญ่ก้อนเดียวที่ผู้ค้ามองเห็นโอกาส และจ้องที่จะเข้าไปตรงนั้น ซึ่งก็ต้องฟาดฟันกันด้วยเรื่องราคา และสเปกตามที่ภาครัฐกำหนด

ส่วนตลาดที่เป็นแมสหรือคอนซูเมอร์และองค์กรขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีจริงๆ ผู้ประกอบการต่างก็พยายามรักษาฐานลูกค้าเก่า โดยการเพิ่มศักยภาพของเครื่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มรายสินค้าที่มีทำไรสูงเข้ามาเสริม รวมถึงการ ทำราคาให้ต่ำเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ด้วย

ตลาดคอนซูเมอร์คงปรับปรุงตามเทคโนโลยี เช่น จะมีชิปดูอัลคอร์ออกมา แต่ลูกค้าคงจะเป็นกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์และผู้ชอบใช้เป็นหลัก และช่วงที่ผ่านมา 1-2 ปี ตลาดเริ่มอิ่มตัว ทุกคนก็ดูว่าตลาดจะพลิกอัปเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่มี เดสก์ทอปถ้าไม่มี ไลน์สินค้าอื่นเสริมตายแน่ นายนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ กล่าว

นอกจากการหาไลน์สินค้าอื่นเสริมแล้ว การทำ ตลาดแบบเก่าที่ทุ่มงบการตลาดสูงๆ ก็ใช้ไม่ได้ เพราะรู้แล้วว่าไม่ได้ผลเหมือนยุคที่เดสก์ท็อปมีอัตราการโตเต็มที่ อย่างเอเทคในรอบปีนี้ใช้งบการตลาดประมาณ 9-10 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องใช้ 10 กว่าล้านขึ้นไป ส่วนรอบปี 2549 คาดว่ายังจะอยู่ในระดับ 9-10 ล้านบาทเช่นกัน

นายนิธิพัฒน์กล่าวว่า การทำตลาดของอินเตอร์ แบรนด์ไม่ได้มีผลกระทบกับโลคัล แบรนด์มากนัก เพราะอินเตอร์แบรนด์เองก็ทำตลาดลำบากเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากที่ผ่านมาที่เคยมีเป็น 10 แบรนด์แต่ขณะนี้เหลือหลักๆ เพียงฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) กับเอเซอร์ คอมพิวเตอร์ และตลาดก็จะเป็นกลุ่มองค์กร ประเภทฐานใหญ่อย่างคอนซูเมอร์จะไม่ค่อย ได้ เพราะราคาสูง ขณะที่คุณภาพการใช้งานไม่ได้ต่างกันมาก

ยุคนี้ใครปรับตัวทันก็จะได้เปรียบ ไม่สูญเสียในการทำตลาด จึงต้องรักษาฐานลูกค้าเก่าให้ได้ เพราะตลาดไม่โตขึ้น การทำธุรกิจจึงต้องประคองให้อยู่ แบรนด์ที่หายไปจากตลาดเพราะขาดทุน โลคัล แบรนด์ทำศึก 2 ด้าน

นายอลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า เดสก์ท็อปโลคัล แบรนด์ขณะนี้ต้องทำศึก 2 ด้าน คือ 1. ต้องแข่งกับอินเตอร์ แบรนด์ 2. ต้องแข่งกับเครื่องประเภทจ้างประกอบหรือ ดีไอวาย แต่การทำตลาดของเอเซอร์ แม้จะมีตลาดเครื่องดีไอวายก็มีรายได้อย่างอื่นเข้ามาเสริม เนื่องจาก มีสินค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กที่กำลังมาแรง อาศัยใบบุญโน้ตบุ๊ก

จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเดสก์ท็อปผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์ต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับการทำตลาด โน้ตบุ๊กมากขึ้น เนื่องจากเป็นกระแสที่กำลังมาแรง และมีกำไรสูงกว่าเดสก์ท็อป โดยมีเอเซอร์เป็นผู้นำตลาด

นายอลัน เจียงกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้เอเซอร์เป็นผู้นำตลาดคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดก่อนผู้ประกอบการรายอื่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างทางเลือกที่หลากหลาย บวกกับความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก

พร้อมกันนี้ เอเซอร์ยังได้จัดรายการพิเศษส่งท้ายปีเก่า ด้วยแคมเปญ "Let's Celebrate Acer Number 1" คือเมื่อลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์เอเซอร์ในราคาพิเศษแลัว ยังจะได้รับของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของเอเซอร์ทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้า และรักษาผู้นำตลาดไว้

สำหรับยอดขายโดยรวมทุกผลิตภัณฑ์ของเอเซอร์จะมาจากโน้ตบุ๊ก 64% เดสก์ท็อป 32% เซิร์ฟเวอร์ 1% แอลซีดี 2% และอื่นๆ 1%

ขณะที่เอเทคเองก็เห็นโอกาสและแนวโน้มที่กำมาเช่นกัน โดยเชื่อว่าโน้ตบุ๊กปี 2549 ต้องเน้นดีไซน์สวย น้ำหนักเบา เพราะขณะนี้ผู้หญิงเริ่มมีการ ใช้โน้ตบุ๊กมากกว่าผู้ชาย แต่การนำโน้ตบุ๊กออกสู่ตลาดในแบบไลฟ์สไตล์ ก็ยังไม่วายต้องเผชิญกับสงครามตลาดเหมือนที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะแบรนด์จากไต้หวัน

"ปีหน้าเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา และโน้ตบุ๊กจะถูกผลักดันด้วยเรื่องของโมบิลิตี้ ผู้ค้าทุกรายต่างก็เห็นโอกาส เห็นแนวโน้มเหมือนกัน สงครามราคาคงหนีไม่พ้น แต่คงเป็นระยะสั้นๆ เพราะต้องการ มาร์เกตแชร์เพิ่ม" นายอลัน เจียง กล่าวและว่า คู่แข่ง ที่สำคัญที่นอกเหนือจากเอชพีแล้ว คืออซุสเท็คซ์ เนื่อง จากมีโรงงานผลิตเองในไต้หวัน เป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง สามารถคุมราคาได้ และอีกยี่ห้อคือลิโนโว ที่ซื้อกิจการจากไอบีเอ็มไป

ด้านนายนิธิพัฒน์กล่าวเสริมว่า "โน้ตบุ๊กแม้เป็นแนวโน้มที่มาแรง แต่ในไต้หวันแข่งขันกันสูงมาก การทำตลาดจึงไม่ง่ายนัก หากเข้าชนกันตรงๆ ต้องมีทุนมาก สายป่านยาวโน้ตบุ๊กหากชนตรงๆ ต้องกระเป๋าหนัก ไม่เช่นนั้นเจ๊ง"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us