|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
TKT เดินหน้าปรับแผนงาน เน้นลดต้นทุนผลิต หวังดันมาร์จิ้นเพิ่ม เพื่อให้ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องและกำไรงาม เผยขณะนี้ มีงานใหม่ที่อยู่ในระหว่างการเจรจาคาดสรุปได้ ขณะที่สินค้า OEM และ เครื่องใช้ไฟฟ้ายังต้องการใช้ชิ้นส่วนเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเพิ่ม 10-15%
นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีกรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TKT) เปิดเผยแผนงานปี 49 ว่าบริษัทจะปรับแผนการดำเนินงานใหม่ ด้วยการหันมาเน้นลดต้นทุนการผลิตตลอดจนการดำเนินงานของบริษัท ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการปรับปรุงการปฏิบัติงานของพนักงาน โดยการลดต้นทุนโดยรวมของบริษัท เพื่อต้องการให้กรอส มาร์จิ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น
"เดิมกรอสมาร์จิ้นของเรามีต่ำกว่า 20% แต่หลังจากปีหน้าไปเราต้องปรับใหม่ให้ได้เกินกว่า 20% เพราะเราเน้นมาควบคุมต้นทุนการผลิต ซึ่งเราเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่กลางปีนี้แล้ว แต่จะยังไม่เห็นผลชัดเจนนักในปีนี้ ผมเชื่อว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 49"นายจุมพลกล่าว
จากการปรับปรุงระบบการบริหารงานใหม่ และการควบคุมต้นทุน ตลอดจนออเดอร์ที่มีจากลูกค้าเข้ามาอยางต่อเนื่อง ทำให้บริษัทปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้เพิ่มไปที่ระดับ 30-35% เพราะมองว่าธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตได้และเชื่อว่าปี49 ยังจะเติบโตต่อเนื่อง
TKT จึงตั้งเป้ารายได้ของปี49 เติบโตจากปีนี้เพียง 10-15% เท่านั้น พร้อมกับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเพิ่มอีก เนื่องจากออเดอร์ที่บริษัทเชื่อว่าน่า จะได้เข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งคาดว่าการเจรจากับลูกค้าน่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งแรกของปีหน้าและบริษัทยังมีกำลังการผลิตที่รองรับได้
อย่างไรก็ตาม หากปีหน้าพบว่าลูกค้ายังมีเข้ามาต่อเนื่อง TKT ต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็นลำดับต่อไป โดยเตรียมทุนไว้ซื้อเครื่องจักรใหม่ที่จะเริ่มผลิตได้ในปี 50 และรองรับออเดอร์ล็อตใหม่ที่จะได้รับมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อผลการดำเนิน งานของบริษัทด้วย เพราะหลังจากปรับแผนการดำเนินงานใหม่ จะลดต้นทุนผลิตเพื่อดันให้รายได้และกำไรงาม ขณะที่ยอดขายอาจไม่ได้ขยับมากนัก
โดย TKT ยังเชื่อว่ารายได้จากการผลิตพลาสติก OEM เพื่อป้อนลูกค้าบริษัทรถยนต์ก็ยังเติบโตได้ดี จากความต้องการของผู้ผลิตที่มีเข้ามา รวมทั้งชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรณีที่ต้นทุนค่าวัตถุดิบปรับราคาเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากหากพบว่าราคาวัตถุดิบอย่างพลาสติกที่ปรับตามราคาในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทก็สามารถผลักภาระให้กับลูกค้าได้ โดยปรับขึ้นตามราคาวัตถุดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งเช่นกัน ซึ่งในอนาคตไม่มีปัจจัยเรื่องต้นทุนค่าวัตถุดิบเพิ่มก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
นายจุมพลกล่าวต่อว่า ในระยะเวลาอันใกล้ หากบริษัทลดต้นทุนจนสามารถทำให้กำไรจากการดำเนินงานเติบโตได้ จะเป็นผลดีต่อการจ่ายเงินปันผลของบริษัทด้วย เพราะเมื่อปี47 บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 5 สตางค์ และคาดว่าสิ้นปี 48 ยืนยันปีนี้มีจ่ายปันผลต่อเนื่อง แต่มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นสำคัญ
สำหรับ TKT บริษัทเป็นผู้ให้บริการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกด้วยกระบวนการฉีดขึ้นรูปพลาสติก ภายหลังจากการฉีดขึ้นรูปแล้วชิ้นส่วนพลาสติกบางชนิดจะผ่านไปสู่กระบวนการอื่น เช่น การพ่นสี (Spray Painting) การพิมพ์สี (Silk-Screen & Hot Stamping) รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนพลาสติก (Sub Assembly) โดยบริษัทแบ่งสายการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกออกเป็น 3 กลุ่ม ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ และสายการออกแบบ ผลิตและซ่อมแซมแม่พิมพ์สำหรับการฉีดพลาสติกการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ และ การซ่อมแซม
|
|
|
|
|