จากรายงานยอดการผลิตและการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2548 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรากฏว่ามีทั้งสิ้น 1,026,297 คัน มากกว่าปี 2547 ระยะเวลาเดียวกัน 185,720 คัน หรือเพิ่มขึ้น 22.09% (ดูตารางประกอบ)

สำหรับรถยนต์นั่งผลิตได้ 252,718 คัน เท่ากับ 24.62% ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมด แต่ผลิตน้อยกว่าปีที่แล้ว 26,325 คัน ลดลง 9.43% ทั้งนี้เนื่องจากค่ายรถไม่มีรถใหม่ๆ มาเปิดตัว จึงส่งผลให้ยอดขายในประเทศลดลง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตลาดรถยนต์นั่งจะกลับมาคึกคักอีกแน่นอน เพราะฮอนด้าได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ "ฮอนด้า ซีวิค" สู่ตลาดไทย โดยฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายรถรุ่นนี้แต่ละปีสูงถึง 26,000 คัน และมีแผนส่งออกอีก 15,000 คัน ที่สำคัญต้นปีนี้โตโยต้าก็เตรียมเปิดตัวรถเก๋งซับคอมแพกต์ 5 ประตู "ยาริส" มาทำตลาดแข่งขันกับฮอนด้า แจ๊ซ รวมถึงรถใหม่กลุ่มคอมแพกต์ ที่นิสสันจะส่งรุ่นใหม่มาทำตลาดแทนซันนี่ นีโอ ในช่วงไม่เกินไตรมาสสองนี้เช่นกัน

ขณะที่ปิกอัพยังคงเป็นรถที่มียอดการผลิตและยอดขายสูงสุด โดยมียอดผลิตสูงถึง 750,691 คัน เท่ากับ 73.14% ของรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมดและผลิตมากกว่าปีที่แล้ว 212,854 คัน เพิ่มขึ้น 49.58% สาเหตุน่าจะมาจากยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น จากรถของค่ายโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้, อีซูซู ดีแมคซ์ และน้องใหม่ มิตซูบิชิ ไทรทัน เหนืออื่นใด แคมเปญที่ค่ายรถแข่งกันมานำเสนอให้กับผู้บริโภคมันเย้ายวนใจจนทำให้ต้องควักเงินซื้อจนยอดขายพุ่งสูงตามไปด้วย

ส่วนยอดการผลิต 750,691 คันแบ่งเป็นรถกระบะบรรทุก 408,226 คัน เพิ่มขึ้น 21.77% รถกระบะดับเบิลแค็บ 287,194 คัน เพิ่มขึ้น 48.29% และรถกระบะพีพีวี 55,271 คัน เพิ่มขึ้น 518.59% ปีหน้าตลาดรถกระบะจะคึกคักมากกว่าเดิมเพราะ 2 ค่ายรถเตรียมเปิดตัวรถกระบะโมเดลใหม่ แม้ว่ารถใหม่ของทั้ง 2 ค่ายจะไม่ทำให้ยักษ์ใหญ่กระเทือนได้แต่อย่างน้อยส่วนแบ่งการตลาดอาจจะถูกแบ่งไปบ้างไม่มากก็น้อย เนื่องจากความใหม่ สด ของตัวสินค้า แถมมีลูกค้าอีกมากที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ 2 ค่ายนี้

สำหรับยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ช่วง 11 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 3,207,371 คัน มากกว่าปีที่แล้ว 590,933 คัน เพิ่มขึ้น 22.58% แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป 2,120,130 คัน และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ 1,087,241 คัน

ส่วนการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2548 มีจำนวนทั้งสิ้น 311,167.36 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 103,281.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.68% โดยเฉพาะรถยนต์สำเร็จรูปมีจำนวนส่งออก 402,420 คัน เท่ากับ 39.21% ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมด และส่งออกมากกว่าปีที่แล้ว 104,750 คัน เพิ่มขึ้น 35.19% มีมูลค่าการส่งออก 196,585.54 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 62,822.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.97% แต่ถ้ารวมทั้งเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ จะมีมูลค่าถึง 279,445.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.41%

ด้านรถจักรยานยนต์มีจำนวนส่งออก 1,224,164 คัน โดยมีมูลค่า 20,651.48 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 62.64% และเมื่อรวมทั้งอะไหล่,ชิ้นส่วนมียอดถึง 31,721.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.90% แต่ถ้ารวมทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์และอะไหล่ของรถทั้ง 2 ประเภทรวมกันมีทั้งสิ้น 311,167.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.68%