ไทย พริวิเลจ สปา เผยแผนการตลาดปี 2549 เตรียมทำระบบออนไลน์จัดเก็บข้อมูลสปาทั้ง 4 สาขาเข้าด้วยกัน พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมและสินค้าใหม่เพื่อซัปพอร์ตลูกค้าต่อเนื่องทั้งปี ระบุได้ฤกษ์เปิดสาขาใหม่ที่นิวยอร์กแล้ว ภายใต้งบลงทุน 127 ล้านบาท หลังเกิดปัญหาล่าช้าจากการที่อเมริกาเข้มงวดเกินไป ตั้งเป้ายอดรายได้รวมปีหน้าโต 20%

นางสุรางค์รัตน์ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย พริวิเลจ สปา จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทฯ มีแผนปรับการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยเตรียมจัดทำระบบออนไลน์สำหรับจัดเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลด้านต่างๆ ของไทย พริวิเลจ สปาทั้ง 4 สาขาเข้าด้วยกัน ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา และสาขาออโรร่า เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงบริษัทฯเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีนวัตกรรม ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโปรแกรมนวดหน้า และนวดตัว

ประกอบกับปีหน้าในช่วงเดือนเมษายนบริษัทฯเตรียมใช้เงินลงทุน 127 ล้านบาท เปิดสาขาเพิ่มในย่านโซโห นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเปิดสาขาที่อเมริกาถือว่าเปิดช้ากว่ากำหนดเดิม สาเหตุมาจากอเมริกามีความเข้มงวดกับชาวต่างชาติที่จะเข้าไปทำธุรกิจในประเทศอเมริกามาก

ทั้งนี้ ไทย พริวิเลจ สปา จัดได้ว่าเป็นสปาที่มีบริการและคุณภาพเทียบชั้นหรือใกล้เคียงกับโรงแรม 5 ดาว แต่หากเทียบในเรื่องราคาค่าบริการกับ รร.แกรนด์ ไอแอท เอราวัณ และ รร.โฟร์ซีซั่นส์ ไทย พริวิเลจ สปาจะมีราคาถูกกว่า 20-50% หรือมีราคาตั้งแต่ 600-3,000 บาท ขณะที่บริการจะมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน นอกจากนี้สปาของบริษัทฯจะให้บริการในแต่ละแห่งที่เน้นรองรับความต้อง การของลูกค้าในแต่ละทำเลด้วย เช่น ลูกค้าสาขาพระราม 3 ชอบนวดเท้า เพราะเดินชอปปิ้งมาก จนเมื่อย เป็นต้น

สำหรับยอดรายได้ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทฯพบว่า สปาที่สาขาพระราม 3 มีรายได้เกินเป้าหมาย 15% หรือมียอดขายประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนสาขาภูเก็ต มียอดรายได้ต่ำกว่าเป้า 10% หรือมีรายได้ 10 ล้านบาท ซึ่งหลังจากได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิถล่มภาคใต้บริษัทฯ จึงได้ปรับลดเป้าลง ขณะที่ยอดรายได้ปี 2549 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้รวมเติบโต 20% แบ่งเป็นรายได้จาก การให้บริการด้านสปา และการขายผลิตภัณฑ์สปาภายใต้ยี่ห้อ "สราญ" ที่ผลิตจากสมุนไพรไทย

ล่าสุดเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้ บริษัทได้ทำบัตรของขวัญ หรือกิฟต์การ์ด ซึ่งเป็นบัตรของขวัญที่มีมูลค่าตามบัตร และสามารถใช้ชำระค่าบริการแทนเงินสดได้ หรือสามารถเติมเงินได้ เพื่อให้ผู้ซื้อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในช่วงปีใหม่ถึง 5 ล้านบาท