นักวิเคราะห์ชี้ ช.การช่าง-แนเชอรัล พาร์ค ได้รับผลดีจากหุ้นรถไฟฟ้ากรุงเทพ-BMCL เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่การตั้งราคาไอพีโอ-ราคาซื้อขายในกระดานวงในระบุผลสำรวจเบื้องต้นราคาไอพีโอ BMCL สูงกว่าต้นทุน N-PARK, CK

วานนี้ (28 ธ.ค.) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK ปิดที่ 0.57 บาท ลดลง 0.01 บาท หรือลดลง 1.72 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.78 ล้านบาท บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ปิดที่ 11.90 บาท ไม่เคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นมามีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรซื้อขายในหุ้น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK และ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นระยะ ๆ โดยในส่วนของ N-PARK คาดว่างบการเงินงวดไตรมาส 4/48 ที่จะออกมาน่าจะดีขึ้น จากการขายทรัพย์สินออกไปในช่วงที่ผ่านมา โดยในส่วนของโครงการโรงแรม เชดี เชียงใหม่ ที่ขายออกไปเป็นเงินประมาณ 1,023.27 ล้านบาท

รวมทั้งที่ผ่านมาได้ให้บริษัทในเครือ บริษัท แนเชอรัล เรียลเอสเตท ขายสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารสำนักงานเมอร์คิวรี่ รวมทั้ง ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับโครงการอาคารสำนักงานดังกล่าวทั้งหมดในราคารวม 1,100 ล้านบาท ให้แก่บริษัท บางกอกออฟฟิศ 2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ lehman Brothers โดยระบุว่าจะนำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียน ชำระหนี้คืนให้แก่สถาบันการเงิน และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ต่อไป

แม้ในบางจังหวะราคาหุ้น N-PARK มีความผันผวน ก็เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่หลายกลุ่มถือหุ้นอยู่ อาทิ กลุ่มตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ เครือญาตินายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

ขณะที่ CK นอกจากกระแสข่าว โครงการเมกะโปรเจกต์ในปีหน้า ที่จะเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ แล้ว CK จะเซ็นสัญญาโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 มูลค่า 2.21 หมื่นล้านบาท และโครงการระบบระบายน้ำในสนามบินสุวรรณภูมิมูลค่า 1.46 พันล้านบาท จะทำให้มูลค่างานในมือเพิ่มจากปัจจุบันที่ 1.99 หมื่นล้านบาทเป็น 4.35 หมื่นล้านบาท

ด้านแหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ทั้ง N-PARK และ CK ยังจะได้รับผลดีจากที่หุ้นบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในต้นปี 2549 โดยที่ผ่านมาผลสำรวจราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) ซึ่งจะออกมาสูงกว่าต้นทุนที่ N-PARK ซื้อหุ้น BMCL มา

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบีเคย์ เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ BMCL จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นจะส่งผลดี กับ CK และ N-PARK มากน้อยเพียงไร ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งราคา IPO ว่าจะสูงกว่าราคาต้นทุนที่ทั้ง 2 บริษัทซื้อมาเท่าไร ซึ่งหากราคา IPO สูงกว่าราคาที่ซื้อมา ก็จะทำให้มีกำไร ซึ่งหากเป็นราคาเดียวกัน ก็จะไม่มีผลอะไร

อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงที่ BMCL เข้าซื้อขายในตลท.คาดว่าราคาหุ้นคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่สูงมากจากราคา IPO เนื่องจาก BMCL ยังมีผลขาดทุนอยู่ และภาวะตลาดในช่วงดังกล่าว ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ราคาหุ้นของ BMCL มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อมีการกำหนดว่าจะมีการต่อขยายรถไฟฟ้าอีก 7-10 สาย มีความชัดเจน เพราะจะทำให้บริษัทมีธุรกิจและมีผลประกอบการที่ดีขึ้น

บริษัทคาดว่าผลประกอบการ ช.การช่าง ปี 2549 จะมีรายได้ 13,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 470 ล้านบาท ซึ่งมีกำไรลดลงจากปี 2548 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ CK มีกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท น้ำประปาไทย ซึ่งปีหน้าอาจะมีการขายหุ้นจำนวนไม่มาก โดยขณะนี้มีงานในมือ จำนวน 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีหน้าประมาณ 40-45%

นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS กล่าวว่า การที่รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นปีหน้านั้นจะส่งผลดีกับผู้ถือหุ้น คือ N-PARK และ CK มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ การตั้งราคา IPO ว่าจะสูงกว่าราคาต้นทุนที่ 2 บริษัท ซื้อมาเท่าไร ซึ่ง N-PARK ซื้อหุ้น BMCL มาที่ 1.50 บาท ซึ่ง CK ก็ซื้อมาราคาใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิของ CK จะอยู่ที่ 930 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 0.78 บาทเพิ่มขึ้น จากปี 2548 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 518 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.47 บาท เนื่องจาก CK มีการกระจายลงทุนในธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่ดี เช่น ลงทุนในบริษัทน้ำประปาไทย เขื่อนน้ำงึม ธุรกิจของบริษัทก็มีการเติบโตที่ดี โดยบริษัทประเมินราคาหุ้นปี 2549 ช.การช่าง ที่ 13 บาทต่อหุ้น

นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการ ส่วนวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน บล. เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า การที่ รถไฟฟ้ากรุงเทพ เข้าจดทะเบียนในตลท.นั้นจะส่งผลดีกับผู้ถือหุ้น คือ CK และ N-PARK มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการตั้งราคา IPO ว่าจะสูงกว่าราคาต้นทุนที่ทั้ง 2 บริษัทซื้อมากเท่าไร

อย่างไรก็ตาม บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จะเสนอขายหุ้นจำนวน 1,550 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.97% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้น ละ 1 บาท ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชน มีการจัดสรรให้ รฟม.จำนวน 2,600 ล้านบาท และอีก 450 ล้านบาท กรรมการผู้บริหาร และ พนักงาน จะทำให้มีทุนจดทะเบียนเรียก ชำระแล้ว จำนวน 11,950 ล้านบาท

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น BMCL 5 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัท ช.การช่าง ถือจำนวน 4,522.85 ล้านหุ้น หรือ 61.54% ภายหลังเสนอขายหุ้นถือ 57.98% 2.กลุ่มบริษัท แนเชอรัล พาร์ค ถือ 1,433.95 ล้านหุ้น หรือ 19.51% ภาย หลังเสนอขายหุ้นถือ 18.39% 3. กลุ่มธนาคารกรุงไทย ถือ 730.66 ล้านหุ้น หรือ 9.94% ภายหลังเสนอขายหุ้นถือ 9.37% 4.ธนาคารทหารไทย ถือ 367.5 ล้านหุ้น หรือ 5% ภายหลังเสนอขายหุ้นถือ 4.71% 5. ธนาคารนครหลวงไทย ถือ 176.25 ล้านหุ้น หรือ 2.40% ภายหลังเสนอขายหุ้นถือ 2.26%