Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 ธันวาคม 2548
ตลาดสุขภาพและความงามแข่งดุปี 48 ขยายตัวสนองคนอยากสวยเพรียว-สุขภาพดี             
 


   
www resources

โฮมเพจ มารี ฟรานซ์ บอดี้ไลน์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)
โฮมเพจ บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป

   
search resources

Health
มารี ฟรานซ์ บอดี้ไลน์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์), บจก.
บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป, บจก.




ธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามยังมาแรงตลอดปี 2548 นี้ หลายตลาดอิงกระแสตอบรับความต้องการผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ด้านสถาบันลดน้ำหนักแข่งดุทั้งปีจาก 2 ค่ายใหญ่ มารีฟรานซ์และบอดี้เชพที่อัดแคมเปญต่อเนื่องทั้งปี หวังดึงลูกค้าและกระตุ้นยอดรายได้โต โรงพยาบาลเกาะกระแสหันเล่นตลาดความงามและสุขภาพ รพ.วิภาวดีส่ง "เมดิไซน์" บุกตลาด ส่วนธุรกิจสปายังขาขึ้น เพราะได้แรงหนุนชั้นดีจากรัฐบาล หลายรายผุดเปิดปีนี้สวนทางเศรษฐกิจชะลอตัว

ปีไก่ 2548 กำลังจะผ่านพ้นไปแล้วอีกไม่กี่วันนี้ แต่สำหรับสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอยู่ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ความงามหรือคลินิกความงาม, สปา, ฟิตเนส และสถาบันลดและกระชับสัดส่วน เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่รู้ดีว่าการมีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรง ถือเป็นลาภอันประเสริฐ อีกทั้งคนไทยก็เกาะกระแสอินเทรนด์ตามเมืองนอกที่จะเน้นเรื่องสุขภาพและความงามเป็นจุดขายในการให้บริการและขายสินค้าต่างๆ

ปี 2548 ปีแห่งการขับเคี่ยวของ 2 ผู้นำตลาดลดอ้วน

ปีนี้การแข่งขันของตลาดสถาบันลดและกระชับสัดส่วนมีความรุนแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี และคาดว่าคงจะยาวต่อเนื่องไปถึงปีหน้าแบบที่กะพริบตาไม่ได้ ซึ่งในปีนี้จะเห็นได้ว่าการทำการตลาดของ 2 ผู้นำตลาดอย่างมารีฟรานซ์และบอดี้เชพมีการแข่งกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ประมาณว่าค่ายไหนเปิดตัวกิจกรรมหรือแคมเปญใหม่ปุ๊บ อีกฝ่ายก็ไม่น้อยหน้ารีบออกแคมเปญใหม่ออกมารับมือทันที เช่น มารีฟรานซ์เปิดตัว แคมเปญบอกลาไขมัน (Bye Bye Fat) ของบอดี้เชพก็มีแคมเปญการสงครามพิชิตความอ้วน หรือการรุกตลาดกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ของทั้ง 2 ค่าย เป็นต้น

ในปีนี้มารีฟรานซ์ในฐานะผู้นำตลาดทุ่มงบการตลาดมากกว่า 230 ล้านบาท อัดกิจกรรมและแคมเปญต่อเนื่องทั้งปี หวังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่น อาทิ แคมเปญ "หุ่นสวยชีวิตก็เป็นได้สวย" เจาะกลุ่มแมสหรือผู้หญิงที่ต้องการลดเฉพาะจุด เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม ล่าสุดมารีฟรานซ์เดินเกมรุกเฮือกสุดท้ายของปีนี้ ด้วยการส่งแคมเปญส่งท้ายปีไก่ โดยได้ร่วมกับอาร์.เอส.ฯเปิดตัวแคมเปญ "ซินเดอเรลลา ชายนิ่ง สตาร์ คอนเทส บาย มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์" เพื่อให้โอกาสสาวอ้วนได้เข้าสู่วงการบันเทิง ภายใต้งบลงทุนเกือบ 10 ล้านบาท โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดรายได้ปีนี้โต 30%

ส่วนบอดี้เชพปีนี้เดินเกมตั้งแต่ช่วงต้นปีหวังโค่นตำแหน่งมารีฟรานซ์ลง โดยงัดกลยุทธ์การตลาดออกมาสู้หลายอย่าง เช่น ปฏิบัติการลับ 3...4...5 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ยอดขายบอดี้เชพหลังเปิดตัวโต 91% หลังจากนั้นบอดี้เชพก็เดินหน้าเปิดตัวแคมเปญต่อเนื่อง โดยช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัว แคมเปญใหญ่แห่งปี "มิสซิสบอดี้เชพ" ที่เจาะตลาดผู้หญิงหรือคุณแม่ที่มีลูกแล้ว ส่วนช่วงท้ายปีนี้บอดี้เชพคงไม่มีแคมเปญออกมาทำตลาดแต่จะได้เห็นอีกทีก็ปีหน้าฟ้าใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีทีเด็ดให้เห็นอีกมาก เพราะเป็นปีที่บอดี้เชพครบรอบ 13 ปี

ขณะที่รายอื่นอย่าง "ฟิลิป เวน" ที่เปิดบริการแบบครบวงจรโดยเน้นทั้งเรื่องสุขภาพและความงามควบคู่กันไป ปีนี้ก็เริ่มมีการทำตลาดมากขึ้นโดยมีการเปิดตัวทูตคนใหม่ "โรส วริศรา ลี้ตระกูล" และโปรแกรมสุขภาพใหม่ รวมถึงมีแผนจะลงทุนเปิดสาขาที่ 3 ในย่านชานเมือง ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสาขาให้บริการ 2 แห่ง คือ ที่ลาดพร้าวและสุขุมวิท

ปัจจุบันตลาดสถาบันลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยมารีฟรานซ์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 55% ตามด้วยบอดี้เชพมีแชร์กว่า 30% และอื่นๆ เช่น ฟิลิป เวน ฯลฯ

ธุรกิจเพื่อสุขภาพผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

ปีนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสวยความงามและเพื่อสุขภาพแห่เปิดตัวกันมากตามกระแสรักสุขภาพที่มาแรงในช่วงนี้และคาดว่าจะต่อเนื่องไปอีกหลายปี อาทิ บริษัท ยูเรเชีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเดย์สปา ซึ่งตั้งอยู่ที่ รร.โซฟิเทล สีลมและเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "แอนน์ ซีโมแนง" จากฝรั่งเศส ก็ให้ความสนใจกับธุรกิจความงามเหมือนกัน โดยบริษัทฯ เตรียมใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาทเปิดสถาบันเสริมความงาม "แอนน์ ซีโมแนง" ในรูปแบบแฟล็กชิพ สโตร์ในบูติค โฮเต็ลเป็นแห่งแรกในปีหน้า ซึ่งการบริการจะมีทั้งการดูแลใบหน้าและผิวกาย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเน้นลูกค้าคนไทยระดับไฮเอนด์หรือคนที่มี อายุ 25-45 ปีที่สนใจดูแลสุขภาพผิวตัวเอง

หรือแม้แต่ธุรกิจที่ให้บริการรับปรึกษาด้านความงามอย่างบริษัท ซี เวลเนส จำกัด ก็เห็นแนวโน้มของตลาดเฮลท์ แอนด์ บิวตี้จึงได้จัดตั้งบริษัทฯขึ้นภายใต้ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็นกลุ่ม อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซีเวลเนส, การบริการให้คำปรึกษาธุรกิจ, บริการทางด้านเครื่องมือให้แก่ลูกค้าทั่วไปและกลุ่มแพทย์ เป็นต้น

รพ.ลงเล่นตลาดความงาม

เทรนด์สุขภาพและความงามลามไปถึงโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกต่างๆ ด้วย เห็นได้จาก รพ.แต่ละแห่งจะมีแผนกที่ให้บริการด้านความงามหรือศูนย์ศัลยกรรมแยกออกมาโดยเฉพาะ อาทิ รพ.ยันฮี ที่มีการเปิดศูนย์ศัลยกรรมและความงามแบบครบวงจร เช่น ศูนย์ลด น้ำหนัก, ศูนย์ผิวหนังและความงาม หรือศูนย์ปลูกและรักษาเส้นผม เป็นต้น ส่วน รพ.บางมด ปีนี้มีการใช้งบกว่า 30 ล้านบาท ในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่และทำประชาสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการนำดารานักแสดงที่เคยใช้บริการมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการทำตลาด เช่น แนน ปรางวลัย และวรรณษา ทองวิเศษ เพื่อผลักดันยอดรายได้โต10%

ในส่วนของ รพ.วิภาวดีก็เห็นความสำคัญของตลาดกลุ่มนี้จึงได้มีการแตกบริษัทออกมาใหม่ภายใต้ชื่อ "บริษัท ออลเอ็กซ์เปิร์ท จำกัด" โดยดำเนินธุรกิจสถาบันวัยวัฒน์และความงามเมดดิไซน์ที่เปิดให้บริการดูแลด้านสุขภาพและความงามแบบครบองค์รวมหรือครบวงจร โดยมีทั้งเมดิคัลสปา, เมดิคัลดีไซน์ และฟิตเนส ซึ่งจะมีความแตกต่างจากธุรกิจอื่นที่เน้นให้บริการเฉพาะด้าน เช่น สปาก็ให้บริการนวดเพื่อผ่อนคลาย หรือฟิตเนสก็ให้บริการเรื่องการออกกำลังกาย เป็นต้น

โดยทางผู้บริหารเมดดิไซน์วาดฝันไว้ว่าเมดิไซน์จะก้าวไปสู่ฮับ หรือศูนย์กลางของเอเชียในการให้บริการด้านสุขภาพและความงามแบบครบวงจรได้ไม่ยากและจุดขายอีกอย่างที่สำคัญ คือ ค่าบริการที่มีราคาถูกกว่าต่างประเทศถึง 50% ดังนั้น ทางเมดิไซน์จึงได้มีการทำตลาด ด้วยการเจรจากับบริษัททัวร์ในการดึงลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการที่สถาบันฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัททัวร์ของประเทศคูเวตและมาเลเซียแล้ว โดยปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนกว่า 10-15% แต่ปีหน้าหลังการทำตลาดคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 30%

นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง โดยมีแผนลงทุนเปิดเอาต์เลตสถาบันความงาม "บอดี้ ดีไซน์" เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงพรีเมียม ซึ่งรูปแบบการบริการจะมีหลายอย่าง เช่น ลดน้ำหนัก, ดูแลผิวพรรณและรูปร่าง ฯลฯ ในส่วนราคาค่าบริการของบอดี้ ดีไซน์จะถูกกว่าเมดิไซน์ประมาณ 30-50%

ธุรกิจสปายังขาขึ้น

สปาเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่แจ้งเกิดในช่วง 2-3 ปีนี้ อีกทั้งได้รับแรงหนุนใหญ่จากภาครัฐที่ต้องการผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางสปาของเอเชีย (The Capital Spa of Asia) ซึ่งปัจจุบันนี้ถือได้ว่าสปาไทยติดอันดับต้นๆของโลกหรือในเอเชียอาจจะเป็นรองเพียงอินโดนีเซียประเทศเดียว โดยจุดเด่นของไทยได้เปรียบเรื่องการบริการและโนว์ฮาว ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปายังสู้อินโดนีเซียไม่ได้ เนื่องจากผู้ผลิตและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีความเข้าใจไม่ตรงกันและมีกรรมวิธีในการใช้ที่ผิดหรือส่วนใหญ่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสปายังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอยู่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าขณะนี้มีหลายประเทศสนใจอยากจะลงทุนสปามากขึ้น เช่น สิงคโปร์, เวียดนาม, ฮ่องกง, ไต้หวัน และญี่ปุ่น

ขณะที่ตลาดในไทยเองก็มีผู้ประกอบรายใหม่สนใจทำธุรกิจนี้กันมากและก็มีจำนวนมากที่ปิดตัวลง หลังทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว เนื่องจากไม่มีการวางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบ เห็นว่าธุรกิจนี้บูมจึงอยากเปิดบ้าง โดยที่ไม่ได้ศึกษารายละเอียดอย่างถ่องแท้ รวมถึงงบลงทุนหรือการทำตลาดก็สู้สปารายใหญ่ไม่ไหว แต่หากมองอีกมุมหนึ่งในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัวลงหรือน้ำมันแพงขึ้น ส่งผลให้คนเกิดความเครียดหรือเมื่อยล้าจากการทำงานจึงอยากพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยการนวด สปาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพ

สปารายใหม่แห่เปิดตัวปีนี้

สำหรับปีนี้สปาที่เปิดใหม่มีหลายแห่ง อาทิ สปาของนางแบบสาว "จอย" วราลักษณ์ วาณิชย์กุล ที่ได้ควักเงินลงทุน 12-13 ล้านบาท เปิดตัว "เซ็นต์ออฟจอย สปา" ซึ่งให้บริการแบบเดย์ สปาและเวลเนส ตั้งอยู่ที่อาคารจัสมินซิตี้ สุขุมวิท 23 ซึ่งการทำตลาดจะเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างแคลิฟอร์เนียฯหรือรายอื่นๆ

นอกจากนี้บริษัท ปภานัน จำกัดยังได้ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เปิดตัว "เอส เมดิคัล สปา" ที่ให้บริการครบสมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่ ที่ถนนวิทยุด้วยขนาดพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร จุดเด่นของเอสฯอยู่ที่การบริการที่นำเอาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่, แพทย์ทางเลือกและสปาบำบัดมารวมไว้ด้วยกัน โดยค่าบริการสปาอยู่ที่ประมาณ 2,000-10,000 บาท และในช่วงแรกจะเน้นกลุ่มเป้าหมายคนไทยเป็นหลัก 70% และคนต่างชาติ 30% จากนั้นปีต่อไปจะเน้นเป็นคนไทยและต่างชาติ เท่ากัน

นางพักตร์พิไล ทวีสิน ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปภานัน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ "เอส เมดิคัล สปา" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า แนวโน้มธุรกิจสปาจะก้าวไปสู่รูปแบบเมดิคัลเพิ่มขึ้น เพราะสามารถตอบโจทย์เรื่องการดูแลสุขภาพได้อย่างครบวงจร ส่วนแนวโน้มธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามในตลาดไทยคาดว่ายังไปได้ไกลอีก 20 ปี เพราะคนจะกลัวเจ็บและกลัวตายมากขึ้น โดยคนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีจะให้ความสำคัญกับเรื่องความงาม ส่วนคนอายุ 40 ปีขึ้นไปจะห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า

สำหรับธุรกิจสุขภาพและความงามในปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่าหมื่นล้านบาทและอัตราการเติบโตปีละกว่า 10-20% โดยแบ่งออกเป็นสถานเสริมความงามและคลินิคกว่า 2-3 พันล้านบาทและธุรกิจบริการต่างๆ 1-2 พันล้านบาท และที่เหลือเป็นตัวผลิตภัณฑ์และอื่นๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us