|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มกราคม 2549
|
|
23 มกราคมนี้ ถือเป็นวันดีเดย์ของชาวแคนาเดียนในการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งที่ 39 และนับได้ว่าเป็นการเลือกตั้งในฤดูหนาวครั้งแรกของประเทศในรอบ 25 ปี ทั้งนี้เป็นผลจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีพอล มาร์ติน จากพรรคเสรี นิยมพ่ายแพ้ในการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจจากพรรคฝ่ายค้าน 171-133 เสียง ถือเป็นการปิดฉากการบริหารประเทศนานเพียง 17 เดือนของรัฐบาลชุดนี้
พอล มาร์ติน ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคม 2003 แต่ต้องประสบกับเรื่องอื้อฉาว หลังจากถูกเปิด โปงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ว่าได้นำงบประมาณส่วนกลางจำนวน 100 ล้านเหรียญ แคนาดาไปใช้สำหรับการโฆษณา ที่เรียกว่า Sponsorship Program ไปจัดสรรให้กับบริษัทของพวกพ้องของพรรค โดยที่บริษัทนั้น แทบไม่มีผลงานปรากฏให้เห็น
พรรคการเมืองสำคัญของแคนาดาเวลานี้มีจำนวน 4 พรรค ได้แก่ พรรคเสรีนิยม (Liberal Party) ภายใต้การนำของมาร์ติน พรรคอนุรักษนิยม (Conservative Party) มีผู้นำพรรคคือสตีเวน ฮาร์เปอร์ พรรคก้าวหน้า (New Democratic Party) มีแจ๊ค เลตัน เป็น หัวหน้าพรรค สุดท้ายพรรค Bloc Quebecois หรือบีคิว มีจิว ดูเซป เป็นหัวหน้าพรรค
บรรยากาศการหาเสียงเริ่มต้นทันทีภายหลังการประกาศเลือกตั้งอย่างชัดเจนต้น ปีหน้า ผู้นำพรรคการเมืองต่างออกตระเวนหาเสียงในพื้นที่ทางภาคกลางของประเทศเป็นหลัก นั่นคือมณฑลออนทาริโอและควิเบก เพราะถือเป็นพื้นที่สำคัญในการกวาดเก้าอี้ในสภา 308 เสียงให้ได้มากถึง 1 ใน 3 โดยเจ้าของพื้นที่เก่าเป็นของพรรคเสรีนิยมและพรรคบีคิว ส่วนพรรคก้าวหน้าและพรรคอนุรักษนิยมส่วนใหญ่ได้ที่นั่งจากฝั่งตะวันตก
เนื้อหาส่วนใหญ่ของการหาเสียงช่วง 2-3 วันแรกมุ่งเป้าตรงไปยังการคอร์รัปชั่นของ รัฐบาลมาร์ติน หลังจากนั้นผู้นำพรรคการเมือง ต่างๆ ก็เบนเข็มมาเน้นนโยบายของตนเองเป็น หลัก ทำให้เห็นว่าชาวแคนาเดียนต้องการฟังว่า ทิศทางของประเทศจะเป็นอย่างไรในอนาคต พรรคไหนมีวิสัยทัศน์กว้างไกลแค่ไหน
แคมเปญที่ชาวแคนาเดียนให้ความสำคัญคงไม่พ้นเรื่องการสาธารณสุข การลดภาษี การศึกษา เศรษฐกิจ และความมั่นคงปลอดภัยที่ทุกพรรคการเมืองต่างถือเป็นจุดขายที่ขาดไม่ได้
นโยบายของพรรคอนุรักษนิยมได้ประกาศเน้นย้ำถึงคำว่า Stand up for Change หรือแคนาดาต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีประชาธิปไตย นอก จากนั้นยังมีเจตนารมณ์ที่ต้องการปรับปรุงกฎหมายของรัฐบาลมาร์ติน ในเรื่องสิทธิการแต่งงานของเพศเดียวกัน
ฮาร์เปอร์ยังย้ำเรื่อง Wait time Guarantee ของการลดการรอคอยในการให้บริการของชาวแคนาดา ที่ต้องได้รับการบริการดูแลรักษาทั้งในและนอกพื้นที่ ส่วนนโยบายการลดภาษี GST เขาประกาศว่าจะลดจาก 7% เป็น 6% และภายใน 5 ปีจะลดลงเหลือเพียง 5%
การประกาศนโยบายดังกล่าวถูกโจมตี จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้นำพรรคก้าวหน้า และพรรคบีคิว เน้นว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นถึง 2,300 เหรียญแคนาดา และส่งผล ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณลดลงเหลือเพียง 4.5 พันล้านเหรียญแคนาดา จากเดิมที่เก็บภาษีได้ปีละ 30 พันล้านเหรียญแคนาดา
ข้างฝ่ายพรรคเสรีนิยมก็ไม่ได้น้อยหน้า เนื่องจากนำเรื่อง Canada Unity ความเป็น อันหนึ่งอันเดียวกันของชาวแคนาเดียนมาชูโรง เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากชาวแคนาเดียนในมณฑลอื่นๆ อีกทั้งยังเน้นถึงผลงานของรัฐบาล พรรคเสรีนิยม ในเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่ส่งผลทำให้มีงบประมาณคงคลังเหลือเป็นจำนวนมาก เรื่องอัตราการว่างงานที่ลดต่ำในรอบ 30 ปี
แคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศชั้นนำทางอุตสาหกรรม 7 ที่มีงบประมาณคงคลังเหลือไว้ใช้จ่ายภายในประเทศ ซึ่งส่งผลถึงค่าเงินที่สูงขึ้นตามมา ซึ่งส่งผลถึงค่าเงินที่สูงขึ้นตามมา 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 1.17 เหรียญดอลลาร์แคนาดา
ส่วนเรื่องการลดภาษีนั้นพรรคเสรีนิยม ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วที่จะมุ่งเน้นเรื่องของการลดภาษีแก่ชนชั้นกลางในปีหน้าจำนวน 5.3 พันล้านเหรียญ และจะลดลงอีก 25 พันล้านเหรียญในอีก 5 ปีข้างหน้า
ด้านพรรคบีคิวของดูเซปก็พยายามหาเสียงเพื่อเก้าอี้ในพื้นที่ควิเบก ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นชาวแคนาเดียนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ถึงขนาดที่เขาจะเสนอให้นักกีฬาฮอกกี้ทีมชาติแคนาดาที่มาจากควิเบก ขึ้นสังกัดทีมของควิเบกเท่านั้น ผลที่ตามมาคือการโจมตีจากทุกฝ่ายที่บอกว่า เป็นเรื่องตลกของผู้นำพรรค นี้ที่ไม่มีนโยบายอะไรที่จะเสนอแล้วถึงมาชูเรื่องกีฬาเพื่อการเมืองของตัวเอง
การนำคนหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมของพรรคเป็นสีสันอันหนึ่งที่พรรคเสรีนิยมได้ Marc Garneau นักบินอวกาศคนแรกของแคนาดา มาลงแข่งขันในมณฑลควิเบก ส่วนในพื้นที่ออนทาริโอมีนักการศึกษาสำคัญทางด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ Michael Lgnatilff และนักกฎหมายหญิงชื่อดังนาม Debarah Coyne เข้ามาชิงเก้าอี้ในเมืองโตรอนโต
ไม่น่าเชื่อว่าการใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ของชาวแคนาเดียนจะสูงเพียง 38% จากสถิติ การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2004 สำนักงานควบคุมดูแลการเลือกตั้งแคนาดาได้พยายามรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ โดยมุ่งเน้นไปยังคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งประกาศเรื่องการให้ชาวแคนาเดียนสามารถใช้สิทธิในการเลือกตั้งได้หลายทาง เช่น ในวันเลือกตั้งหรือ ลงทะเบียนการใช้สิทธิการเลือกตั้งล่วงหน้าทางเว็บไซต์ www.research@snowbirds. org หรือ www.elections.ca ทางโทรศัพท์ และโทรสาร เพื่อขอรับคู่มือการใช้สิทธิในต่างประเทศ
นอกจากนี้ชาวแคนาเดียนยังสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นทางสื่อมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการเปิดเว็บไซต์ และโทรศัพท์สอบถามนโยบาย และข้อคิดเห็น ได้ทั่วประเทศที่เตรียมการยิงส่งผ่านมายังห้องส่งของสถานีโทรทัศน์ซีบีซี
นับเป็นเรื่องน่าสนใจอันหนึ่งคือ การวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองแต่ละพรรคทางสื่อ หรือที่เรียกว่า War Room โดยมีนักวางแผนนโยบาย และยุทธศาสตร์ของพรรคออกมาแสดงความเห็นร่วมกัน เพื่อ ให้ชาวแคนาเดียนได้ชั่งน้ำหนักก่อนการตัดสินใจ
การสำรวจความเห็น ณ เวลานี้ของนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายฝ่ายระบุว่า รัฐบาลชุดใหม่น่าจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยจากพรรคเสรีนิยมอีกครั้งหนึ่ง โดยพรรคเสรี นิยมจะได้รับเสียง 35% พรรคอนุรักษนิยมได้รับ 30% และพรรคก้าวหน้าได้รับ 17% ทั้งนี้ พรรคเสรีนิยมจำเป็นต้องอาศัยเสียงสนับสนุน จากพรรคอื่นๆ ในการบริหารประเทศเหมือน การเลือกตั้งที่ผ่านมา และจะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย เว้นเสียแต่ว่าพรรคนี้จะได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มเป็น 40%
พิจารณาแล้วเหมือนกับไม่มีความหวัง ในการเลือกตั้งคราวนี้ แต่สิ่งสำคัญน่าจะกล่าว ได้ว่า นี่คือวิถีของประชาธิปไตยที่ชาวแคนาดา ควรภาคภูมิใจว่า พรรคการเมืองใดที่เข้ามา บริหารประเทศแล้ว มิได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้ กับประชาชนนั้นจะต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นได้ทุกเมื่อ
|
|
|
|
|