|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มกราคม 2549
|
|
ประชากรกว่า 1,260 ล้านคน ในประเทศกว้างใหญ่ไพศาลยุคเปิดประตูรับทุนนิยมเต็มที่อย่างจีนย่อมไม่ผิดอะไรกับ "สาวเนื้อหอม" ที่บริษัทข้ามชาติต่างหมายปองต้องการเข้าไปจับจองมีส่วนแบ่งตลาดสินค้ากันทั่วหน้า ประเมินกันว่าในระหว่างการสร้างนครเซี่ยงไฮ้ขึ้นมาใหม่ ต้องนำรถเครนมาใช้งานในสถานที่ก่อสร้างทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้จำนวนมากมายมหาศาลถึง 1 ใน 5 ของปริมาณรถเครนในทั่วโลก
นิตยสาร Commercial Design Trends Volume 21 No 9 (A) ให้ภาพเจาะจงลงไปอีกว่า การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางธุรกิจแบบเบรกไม่หยุดฉุดไม่อยู่นี้ย่อมทำให้บริษัทข้ามชาติทั้งหลาย อาทิ โซนี่ ซึ่งได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญช่ำชองในการนำตัวเลขสถิติเหล่านี้มาดำเนินการให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองไม่ยอมพลาดโอกาสทองเป็นแน่ เพียง 4 เดือนแรกหลังเปิดแกลเลอรี่แห่งใหม่ ณ อาคารยุคทศวรรษ 1930 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ก็สามารถดึงชาวจีนเข้าไปเยี่ยมได้ถึง 5 แสนคน
สถาปนิก Eric Lagerquist เล่าถึงบทบาทของแกลเลอรี่ ขนาด 929 ตารางเมตร กินพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 3 ชั้นของตัวอาคารบนถนน Huai Hai Road ว่า ทำหน้าที่เป็นห้องแสดงนวัตกรรมใหม่ๆ ของบริษัท รวมทั้งเทคโนโลยีด้านบันเทิงที่เปลี่ยนโฉมหน้าอยู่ตลอดเวลา
งานออกแบบแกลเลอรี่ของโซนี่เน้นความตื่นตาตื่นใจแบบตกตะลึงตาค้างให้ผู้เข้าชมกันตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าไป ตรงบริเวณทางเข้าด้านหน้าออกแบบเป็นอุโมงค์ยาว 12 เมตร ผนังอุโมงค์กรุด้วยแผ่นเหล็กสเตนเลสสี่เหลี่ยมเรียงตัวในลักษณะเหลื่อมกันให้แลดูคล้ายเกล็ดมังกรตัวมหึมานั่นเอง
บนผนังสเตนเลสยังติดตั้งจอภาพยนตร์ขนาด 24 ฟุต มอนิเตอร์ LCD 6 จอ และลำโพงอีก 8 ตัว เพื่อให้ผู้เข้าชมเต็มอิ่มกับความบันเทิงที่นำเสนอด้วยอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์อันล้ำสมัย
เมื่อเดินเข้าไปในอุโมงค์และลงทะเบียนแล้ว จะได้รับบัตร FeliCa ของบริษัท Duffy & Partners บัตรดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำหรับการวิจัยตลาดอันล้ำค่า ผู้เข้าชมสามารถนำบัตร FeliCa ไปใช้ ณ จุดที่มีดิสเพลย์แบบอินเตอร์แอคทีฟได้ทั่วทั้งแกลเลอรี่เพื่อสะสมแต้มแล้วรับรางวัลสมนาคุณต่างๆ อาทิ เสื้อที-เชิ้ต และสินค้าอื่นๆ ของโซนี่
พอโผล่พ้นอุโมงค์ออกมาก็จะพบกับ Walkman Gallery ออกแบบโดย Duffy Asia ที่แสดงถึงวิวัฒนาการของเครื่องเล่น Walkman ตั้งแต่โซนี่เริ่มวางตลาดเป็นครั้งแรกในปลายทศวรรษ 1970
ภาพขนาดยักษ์ที่ติดแสดงเรียงรายตามผนังจะโชว์เครื่องเล่น Walkman ขนาดเท่าของจริงขณะนำออกวางตลาด ณ เวลานั้น จุดเด่นคือ เหนือภาพแต่ละภาพติดตั้งลำโพงสำหรับให้ฟังเพลงฮิตของแต่ละยุคสมัย ขณะที่บนพื้นติดตั้งแผงไฟสำหรับให้อ่านคำบรรยาย
ทั่วทั้งแกลเลอรี่ยังประดับด้วยเสาขนาดมหึมาเป็นระยะๆ ถึง 12 ต้น สถาปนิก Lagerquist เล่าว่า เดิมทีเสาพวกนี้มีรูปทรงสี่เหลี่ยม แต่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีทรงกลมเพื่อให้มองเห็นได้จากทุกทิศทางบนตัวเสาปูด้วยกระเบื้องโมเสกกระจกของอิตาลีเป็นลวดลายมังกรจีนโบราณตัดกับยุคดิจิตอลสมัยใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง เพราะเสาทุกต้นติดตั้งจอภาพวิดีโอขนาดเล็กที่สามารถตั้งโปรแกรมฉายภาพยนตร์ขนาดสั้นและวิดีโอเพื่องานส่งเสริมการขายได้
เมื่อผู้เข้าชมเดินขึ้นบันไดไปจะมีกล้องถ่ายรูปไว้เพื่อให้ภาพไปปรากฏบนจอสีขาวขนาดใหญ่ที่รอพวกเขาอยู่บนชั้นสองแล้ว
ตรงกันข้ามกับจอเป็นเคาน์เตอร์รูปโค้งมีความยาวถึง 9 เมตร จัดให้เป็นบาร์สำหรับโชว์ผลิตภัณฑ์โซนี่ที่มีอยู่หลากหลายถึง 200 ผลิตภัณฑ์ สำหรับให้ผู้เข้าชมได้เลือกชม โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำตลอดเวลา "มันเหมือนกับการมีบาร์เทนเดอร์คอยผสมเครื่องดื่มให้นั่นเอง เช่น คุณบอกว่าอยากลองใช้เฮดโฟนกับคอมพิวเตอร์แลปทอปและกล้องดิจิตอล เจ้าหน้าที่จะจัดอุปกรณ์ทุกอย่างให้คุณได้ลองตามความต้องการทันที" สถาปนิก Lagerquist อธิบายรายละเอียด "เคาน์เตอร์ยาวรูปทรงโค้งเหมือนงูเลื้อยนี้ออกแบบเพื่อให้สายตาเกิดความรู้สึกลื่นไหลไม่สะดุด ส่วนการใช้แผ่นไม้ปูตรงส่วนบนสุดของเคาน์เตอร์ ก็เพื่อลดความแข็งกระด้างระหว่างผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่ในขณะมีปฏิสัมพันธ์กันนั่นเอง"
ชั้นสามของแกลเลอรี่จัดเป็นโฮมเธียเตอร์ สงวนไว้สำหรับผู้เข้าชมที่มีนัดกับทางแกลเลอรี่เท่านั้น แน่นอนว่าระบบเครื่องฉายและลำโพงต้องอยู่ในระดับแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงอุปกรณ์ด้านงานอาชีพไว้ต้อนรับลูกค้าเชิงพาณิชย์ด้วย อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัย และเครื่องหมายสำหรับใช้ในงานโฆษณาแบบ holographic digital
แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร Commercial Design Trends (Volume 21 No 9 (A))
และ Home Beautiful November 2005
|
|
|
|
|