Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2549
Investor's Choice กลยุทธ์ที่ต้องคงไว้             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 


   
www resources

โฮมเพจ หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย

   
search resources

ทหารไทย, บลจ.
โชติกา สวนานนท์
Funds




โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย ได้ให้ภาพแนวโน้มรูปแบบการลงทุนของนักลงทุนในปีนี้ว่า ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อพิจารณาถึง core asset class หรือ core portfolio ที่ยังคงหนีไม่พ้น cash, bond และ stock ซึ่งรูปแบบดังกล่าวมีลักษณะที่เป็นเหมือนๆ กันทั่วทั้งโลก ขณะที่ property fund กองทุนทองคำ หรือกองทุนน้ำมัน ซึ่งเป็นกลุ่ม non-core asset นั้น แม้จะเป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ขนาดของการลงทุนจะไม่ค่อยใหญ่มากนักคือไม่เกิน 5% เป็นอย่างมาก

จุดที่ต่างกันระหว่างนักลงทุนในไทยและนักลงทุนในต่างประเทศคือ การลงทุนของต่างประเทศจะมุ่งเน้นไปยังการลงทุนในหุ้น ขณะที่รูปแบบการลงทุนของคนไทย ยังคงกระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรและตลาดเงินมากกว่า จากเหตุผลที่ว่าประเทศไทยมีลักษณะเป็น bank-based economy คนส่วนใหญ่ จึงยังคงปักหลักอยู่ใน fixed income แม้ปัจจุบันอาจจะมีคนจำนวนมากขึ้นที่คิดจะเปลี่ยนรูปแบบการออมจากเงินฝากธนาคารมายัง money market หรือ bond market มากขึ้นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ไม่ต้องการออกจากระบบการออมเงินในรูปเงินฝาก เพื่อเข้ามาสู่การลงทุนในแบบอื่นมากนัก

ขณะเดียวกันรูปแบบการลงทุนในกองทุนหุ้นนั้น อาจต้องใช้เวลาอยู่บ้างสำหรับนักลงทุนในไทย เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของไทยเติบโตขึ้นมาได้จากการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนเป็นหลัก ซึ่งจะต่างจากตลาดหุ้นในต่างประเทศ อย่างเช่นสหรัฐอเมริกาที่ตลาดหุ้นสามารถเติบโตขึ้นมาได้พร้อมกับนักลงทุนสถาบัน หรือรายย่อยที่นิยมเล่นผ่าน mutual fund แต่ก็มีต้นทุนในการลงทุนที่ค่อนข้างสูงอยู่มากสำหรับรายย่อย นกระทั่งเมื่อ 3-4 ปีก่อนหลังระบบอินเทอร์เน็ตขยายตัวเติบใหญ่ สหรัฐฯ จึงได้เริ่มหันมาสนับสนุนการลงทุนโดยตรงในตลาดให้แก่นักลงทุนในประเทศของตน ด้วยหวังว่าการลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ต นี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนในการลงทุนลงได้

"แนวโน้มการลงทุนของคนไทย ก็ยังน่าที่จะเป็นไปในแบบที่เคยเป็นกันมา แนวโน้มปีนี้ก็อาจจะยังเหมือนปีก่อน คือจะมีกองทุนในกลุ่ม non-core asset ออกมานิดๆ หน่อยๆ ต่อย่างไรก็ตาม government bond ยังคงจะเป็นตัวหลัก" กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าว

แม้ บลจ.ทหารไทยจะยังเดินไปในแนวทางเดียวกับปีก่อน แต่จะมีความพิเศษในแง่ที่ว่า ปีนี้จะต้องมุ่งเน้นการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการประกาศขายหน่วยลงทุนในกองทุนให้ครบทุกรุ่นทุกอายุการลงทุนทั้ง 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน

โชติกาบอกว่าการประกาศเปิดกองทุนใหม่ในแต่ละรอบนั้นจะเกิดขึ้นทุกๆ วันศุกร์สุดท้ายของแต่ละเดือน ด้วยหวังว่า การให้กำหนดระยะเวลาที่แน่นอนแบบนี้ จะช่วยให้นักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่มีพอร์ตการลงทุนมากกว่า 1 สามารถบริหารเงินสด วางแผนการลงทุน และจัดพอร์ตการลงทุนล่วงหน้าของตนได้ง่ายขึ้นกว่าที่เป็นมาในอดีต

กองทุนใหม่ที่ทยอยเปิดตัวตามกำหนดนี้ นอกจากจะถูกนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการช่วยผู้ลงทุนในการวางแผนการลงทุนแล้ว ยังจะถูกนำมาใช้เป็นกองทุนใหม่ทดแทนกองทุนเดิมที่กำลังจะทยอยหมดอายุลงในปีนี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยรักษามูลค่าสินทรัพย์สุทธิโดยรวมของ บลจ.ทหารไทยในอนาคต

"investor's choice ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักที่เราต้องคงไว้ ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ เพียงแต่ต้องดูว่าจะออกอะไรมาเมื่อไหร่ เพื่อที่จะทำให้ครบถ้วน" โชติกากล่าว

ตลอดปีที่ผ่านมา บลจ.บัวหลวงออกกองทุนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 7 กอง คิดเป็นมูลค่า ราว 12,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิโดยรวมเขยิบขึ้นไปปิดที่ราว 61,000 ล้านบาท จากเมื่อปีก่อนหน้าที่เคยติดลบ 4,800 ล้านบาท เนื่องจากการควบรวมกิจการของธนาคารทหารไทยเข้ากับธนาคารดีบีเอส ไทยทนุและบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยในปี 2549 บลจ. บัวหลวงตั้งเป้าว่า จะขยาย NPV เพิ่มขึ้นอีกราว 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร่วมๆ 15%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us