ห้วงเวลาไตรมาส 4 ของปีที่แล้วยังไม่ทันจะผ่านพ้นไป แต่บัตรกรุงไทย หรือ KTC ก็ประกาศแผนงานของปีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยยังคงแนวทางของแผน 5 ปีที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่กำหนดให้เป็นช่วงของการสร้างฐานสมาชิกให้ได้มากที่สุด (Membership Company) ทั้งจากผู้ถือบัตรเครดิตและลูกค้าสินเชื่อประเภทต่างๆ ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างจากบัตรเครดิตเจ้าอื่น ทั้งในรูปแบบของสิทธิประโยชน์และการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

ในด้านของโปรดักท์ได้กำหนดให้บัตรเครดิต เป็นหัวหอกในการเพิ่มจำนวนลูกค้า โดยจะมีการออกบัตรประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีการเปิดตัวบัตรเคทีซี มาสเตอร์การ์ด ไทเทเนียม ไปในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดและธนาคารโอซีบีซี ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง โดยผู้ถือบัตรไทเทเนียมจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรในประเทศไทยและในอีก 3 ประเทศดังกล่าวด้วย

"จากสถิติคนไทยเดินทางไปสิงคโปร์เป็นอันดับต้นๆ สมาชิก ของเคทีซีเดินทางมาสิงคโปร์ปีละกว่า 100,000 คน แต่ละคนมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยเกินกว่า 10,000 บาทขึ้นไป" นิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี ให้เหตุผลถึงความร่วมมือในครั้งนี้

นอกจากบัตรไทเทเนียมแล้ว ในปีนี้เคทีซียังเตรียมที่จะออกบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์ข้ามประเทศในลักษณะเดียวกันที่ประเทศญี่ปุ่นและจีน ซึ่งเป็นอีก 2 จุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวไทย โดยคาดว่าบัตรที่ร่วมมือกับ JCB ประเทศญี่ปุ่นจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาสแรกปีนี้ รวมทั้งยังจะมีบัตรที่จะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อาทิ เคทีซี วีซ่า อินฟินิต ที่ไม่จำกัดวงเงินในการใช้จ่าย ออกให้สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้นและบัตรเคทีซี วีซ่า แพลทินัม สำหรับกลุ่มลูกค้ารายได้สูง

เป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกของเคทีซีไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผู้ถือบัตรเครดิตและลูกค้าสินเชื่อเท่านั้น ในปีนี้ยังจะมีการเปิดตัว non-financial membership สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อจากเคทีซีแต่จะได้สิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไปของเคทีซี โดยหวังขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา เพื่อรอความพร้อมสำหรับการมาเป็นผู้ถือบัตรเคทีซีในอนาคต

นอกจากการเพิ่มจำนวนบัตรแล้ว เคทีซียังเตรียมการกระตุ้น ให้ลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรบ่อยครั้งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมจากการชำระด้วยเงินสดมาเป็นบัตรเครดิต ซึ่งไม่เพียงแต่การทุ่มงบ 150 ล้านบาทจัดแคมเปญ "ใช้ชีวิตที่น่าอิจฉากับเคทีซี" ที่มีจนถึงเดือนมกราคม 2550 เท่านั้น แต่ยังวางแผนร่วมกับพันธมิตรธุรกิจจัดโปรโมชั่นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รุกเข้าสู่ตลาดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหมวดที่มียอด การใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 5 อันดับแรกและมียอดใช้จ่ายสูงกว่ายอดการใช้จ่ายเฉลี่ยโดยทั่วไป

โดยเคทีซีได้ตั้งทีมบริหารจัดการท่องเที่ยว Leisure Marketing ขึ้น เพื่อเจาะตลาดธุรกิจท่องเที่ยวและหาสิทธิพิเศษให้กับผู้ถือบัตรเคทีซี ด้วยการร่วมมือกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว สายการบินและโรงแรมรีสอร์ตต่างๆ เพื่อให้บริการตั้งแต่ห้องพักราคาพิเศษ รายการนำเที่ยวราคาพิเศษทั้งในและต่างประเทศ บัตรโดยสารเครื่องบินและแพ็กเกจท่องเที่ยวจากสายการบินต่างๆ ไปจนถึงบริการผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ย 0-0.8% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน ซึ่งโปรโมชั่นและแพ็กเกจท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ จะเริ่มออกมาให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ปีนี้