|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สามปาร์ตี้ "ช่อง 7-มีเดีย ออฟ มีเดียส์-เวิร์คพอยท์" พบทางออก วินวินวิน จับมือตั้งกิจการร่วมค้า "เวิร์ค มีเดีย" ส่งรายการชิงร้อยชิงล้านเข้าผังช่อง 7 หลังถูกช่อง 5 ตัดเวลา ชี้เป็นการลบช่องโหว่สถานีที่ยังอ่อนดีกรีในเรื่องของรายการเกมโชว์วาไรตี้ ขณะที่มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ก็จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น เหตุสะบัดทิ้ง "คืนแห่งดาว" ที่มีผลประกอบการขาดทุน ฉุดรายได้บริษัท "ชาลอต" เผยกุมบังเหียนมีเดียฯ จะเป็นบริษัทที่สร้างผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นและพร้อมหาพันธมิตรที่มีความชำนาญมาเสริมเขี้ยวเพิ่มความแกร่ง
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับบริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) ทำบันทึกข้อตกลงในกิจการร่วมค้าในนาม "เวิร์ค มีเดีย" โดยลงทุนกันฝ่ายละ 50% ประเดิมรายการแรกคือ "ชิงร้อยชิงล้าน" ซึ่งจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 ทุกวันพุธ เวลา 22.25-24.25 น. โดยจะมาแทนที่รายการ คืนแห่งดาว ที่ผลิตโดย มีเดีย ออฟ มีเดียส์ สำหรับรูปแบบโครงสร้างทางธุรกิจ คือ มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จะเป็นเจ้าของเวลา ส่วนเวิร์คพอยท์เป็นผู้ผลิต แบ่งรายได้ตามจริง
การปรับรายการคืนแห่งดาวที่ขาดทุนออกไปแล้วนำรายการ ชิงร้อยชิงล้าน ที่มีเรตติ้งดีเข้ามาแทน จะทำให้มีเดียฯ มีรายรับดีขึ้น ส่วนช่อง 7 ก็มีรายการวาไรตี้-เกมโชว์เข้ามาเติมเต็มผังรายการ เพราะผังรายการใหม่ของช่อง 7 ในปี 2549 จะเน้นปรับปรุงรายการในช่วงนอน ไพรม์ไทม์ คือ หลังข่าวเช้า ถึงช่วงละครเย็น และช่วงหลังละครค่ำ เพราะผังใหม่สถานีช่อง 5 ชิงร้อยชิงล้านถูกปรับลดเวลาเหลือ 1.5 ชั่วโมง และเป็นเหมือนการกลับมาอยู่บ้านเก่าที่ชิงร้อยชิงล้านเคยอยู่มาเมื่อปีพ.ศ. 2532
ช่อง 7 ฮุบมีเดียฯ เปิดทางรายได้
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารของบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ภายหลังการยื่นใบลาออกของนายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางยุวดี บุญครอง กรรมการผู้จัดการและกรรมการ ซึ่งทั้ง 2 คนได้ตั้งบริษัทใหม่ เอเชีย เทเลวิชั่น มีเดีย จำกัด (ATM) ตรงนี้จะทำให้กลุ่มนางยุวดี คงเหลือหุ้นในบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ 12% ขณะที่ช่อง 7 มีสัดส่วนหุ้นในบริษัทนี้เพิ่มขึ้นเป็น 88% จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ราว 70%
ทิศทางการดำเนินงานภายใต้นางชาลอตนั่งในตำแหน่งประธานบริหาร จะเน้นทำงานที่จะสร้างรายได้เข้าบริษัทให้มีมากขึ้น ตัดลดราย การที่ขาดทุนออกไป หาพันธมิตรที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในการทำรายการต่างๆ เข้ามา และเตรียมที่จะย้ายรายการที่อยู่ในบริษัท บีบีทีวี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของช่อง 7 ซึ่งมีรายการที่ผลิตอยู่กว่า 10 รายการ โดยจะคัดเฉพาะรายการที่สร้างรายได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของบริษัทมีเดียฯ ทั้งนี้เพราะบีบีทีวีเป็นบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่ต้องมุ่งหวังกำไรมากนัก แต่จะเป็นเสมือนห้องแล็บทดลองผลิตรายการ ส่วนบริษัทมีเดียฯ ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะต้องทำธุรกิจมุ่งหวังกำไรให้กับผู้ถือหุ้น
บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ มีรายได้ 3 ทางหลัก คือ 1. การทำรายการ 2. ขายโฆษณาให้กับ ช่อง 7 ในช่วงเวลาข่าว และ 3. รายได้จากสนามกอล์ฟเขาเขียว ซึ่งในส่วนของรายการปัจจุบัน บริษัท มีเดียฯ ผลิตรายการให้ช่อง 7 รวม 2 รายการ คือ ชั่วโมงพิศวง และคืนแห่งดาว ซึ่งในส่วนของชั่วโมงพิศวง ที่ออกอากาศ ทุกคืนวันอังคาร จะหมดสัญญากับช่อง 7 ในสิ้นปีนี้ แต่ บริษัท มีเดียฯ ได้ให้ช่วงเวลานี้ พร้อมกับชื่อรายการ แก่บริษัท ATM ของนางยุวดีไปดำเนินงานต่ออีก 1 ปี จากนั้นก็จะนำกลับมาทำเอง ปรับขึ้นค่าโฆษณาชิงร้อยชิงล้าน
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายการชิงร้อยชิงล้าน จะเริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ในวันพุธที่ 11 มกราคม 49 ซึ่งการตัดสินใจย้าย รายการมาอยู่ช่อง 7 ก็เพราะ ชิงร้อยชิงล้าน เป็นรายการเกมโชว์ ฟอร์มใหญ่ ต้องใช้เวลาออกอากาศอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แต่ผังรายการใหม่ของช่อง 5 ที่จะเริ่มใช้ในปี 2549 ได้ปรับลดเวลาของรายการเหลือ 1.5 ชั่วโมง เราจึงหารือกับทางช่อง 7 เพื่อขอเวลาการออกอากาศรายการดังกล่าว ส่วนเวลาที่สถานีช่อง 5 ในช่วงของรายการชิงร้อยชิงล้าน เราจะทำรายการใหม่มาทดแทน
"ชิงร้อยชิงล้าน เริ่มต้นออกอากาศครั้งแรกที่ช่อง 7 เมื่อปี 2532 แต่ต้องออกจากช่อง 7 ไป เมื่อปี 2540 เชื่อว่าปีหน้าจะมีมากกว่า 1 รายการให้กับช่อง 7"
ผลของการปรับผังรายการช่อง 5 ส่งผลให้บริษัทมีรายการอยู่ในช่อง 5 รวม 7 รายการ โดยรายการที่ถูกปรับออก คือ ผู้หญิงทั่วโลก และการลดเวลารายการซิกเซ้นท์ จากเดิม 1 ชั่งโมงเหลือ 30 นาที อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจการ ผลิตรายการของบริษัทปีหน้า น่าจะมีรายการรวม 15 รายการ แบ่งเป็นช่อง 9 ที่ 5 รายการ ช่อง 5 รวม 7 รายการ ช่อง 3 ที่ 2 รายการ และช่อง 7 อีก 1 รายการ ปีหน้าเวิร์คพอยท์ขอโต 20%
นายครรชิต ควะชาติ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ กล่าวว่า รายการที่ถูกช่อง 5 ตัดลดเวลาออกอากาศไม่ได้ส่งผลต่อรายได้ของบริษัท เพราะเป็นรายการที่ไม่ได้กำไรอยู่แล้ว ปีหน้ายังตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2547 ประมาณ 20% มาจากธุรกิจโทรทัศน์กว่า 90% รองลงมาเป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์ และธุรกิจแอนิเมชัน ส่วนรายการชิงร้อยชิงล้านที่ย้ายไปอยู่ช่อง 7 ก็จะมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาอีกราว 5-10%
ปีหน้าจะมีรายการใหม่เพิ่มอีก 2-3 รายการ จากปัจจุบันมีรายการที่ผลิต 14 รายการกระจาย อยู่ทุกช่องสถานี ได้แก่ 1. แฟนพันธุ์แท้ 2. เกมทศกัณฐ์ 3. เกมทศกัณฐ์เด็ก 4. เวทีทอง 5. ครัวตัวเอ้ 6. ชิงร้อยชิงล้าน 7. ระเบิดเถิดเทิง 8. สู้เพื่อแม่ 9. ซิกเซ้นท์ 10. ชัยบดินทร์โชว์ 11. หม่ำโชว์ 12. ละครโคกคูนตระกูลไข่ 13. คุณพระช่วย และ 14. ชิงช้าสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์ ปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 30 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 25-30% ส่วนธุรกิจแอนิเมชันปีนี้มีรายได้ 10 ล้านบาท ปีหน้าโต 15-20% โดยแผนงานปีหน้าจะมี รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์เข้ามาด้วย เรื่องแรกที่จะสร้างคือ "โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง" ที่ร่วมทุนกับทางสหมงคลฟิล์มมูลค่า 35 ล้านบาท เข้าฉายเดือนมีนาคม 49
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทมีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEDIAS และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK หลังจากมีการแถลงข่าว ดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้น โดยราคาหุ้น MEDIAS ปิดที่ 9.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท หรือ 20.81% มูลค่าการซื้อขาย 59.53 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น WORK ปิดที่ 19.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 29.92 ล้านบาท
|
|
|
|
|