|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ศาลอาญานัดพิพากษาคดี "เกริกเกียรติ" และพวกยักยอกทรัพย์แบงก์บีบีซีกว่า 2 พันล้านวันนี้ ขณะที่การขอตัว "ราเกซ สักเสนา" พ่อมดการเงิน ผู้ต้องหาคนสำคัญ ศาลอุทธรณ์แคนาดา นัดพิจารณาส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ เดือนม.ค.ปีหน้า
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 803 เวลา 09.30 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ที่พนักงานอัยการกองคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ หรือเสี่ยตั้ว อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซีกับพวกอีก 3 คน คือ นายจิตตสร ปราโมช ณ อยุธยา, ม.ร.ว.ดำรงเดช ดิศกุล และ ม.ร.ว.หญิงสุภาณี สารสิน หรือ ดิศกุล ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ประมาณ 2,500 ล้านบาท ของธนาคารบีบีซีผู้เสียหายไปโดยทุจริต
คดีนี้พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องพวกจำเลยต่อศาลอาญาเมื่อปี 2543 โดยพวกจำเลยแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลจึงได้ทำการสืบพยานโจทก์-จำเลยเรื่อยมาจนแล้วเสร็จและนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.48 ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ได้มีคำพิพากษาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารบีบีซีรวม 3 คดี ซึ่งมีนายเกริกเกียรติกับพวก ร่วมกันเป็นจำเลย ฐานยักยอกทรัพย์จำนวน 2,472,363,966 บาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายเกริกเกียรติกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายเกริกเกียรติ คดีละ 10 ปี รวมจำคุก 30 ปี และปรับ 3,200 ล้านบาทเศษ โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ส่วนความคืบหน้าการขอตัว นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด มหาชน หรือ บีบีซี จำเลยคนสำคัญในคดีเดียวกัน จากที่ก่อนหน้านี้ ศาลอุทธรณ์ประเทศแคนาดาได้นัดพิจารณาคำอุทธรณ์ของนายราเกซ ที่ยื่นอุทธรณ์ให้ศาลทบทวนคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์แคนาดา มีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาการส่งตัวนายราเกซเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยหรือไม่ ออกไปเป็นปลายเดือน ม.ค.49
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์แคนาดามีคำสั่งขยายระยะเวลาการพิจารณาคดีส่งตัวนายราเกซกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากนายราเกซยื่นเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาของ ศาลอุทธรณ์เป็นจำนวนมาก และทราบว่านายราเกซ ยังยื่นเอกสารเพิ่มเติมเป็นระยะ และยังขอเลื่อนการตรวจเอกสารอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์แคนาดา โดยหากศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอแล้วก็อาจจะมีคำสั่งไม่รับเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
นอกจากนั้น นายตระกูล วินิจนัยภาค อธิบดีสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ส่งสำเนาคำพิพากษาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำ พิพากษาให้จำคุกนายเกริกเกียรติและพวก ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ บีบีซี จาก 3 คดี รวม 30 ปี และสั่งปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 3.2 พันล้านบาท ไปให้กับอัยการแคนาดา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยรายงานผลคำพิพากษาดังกล่าว ทางอัยการแคนาดาจะนำไปส่งให้กับศาลอุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาการส่งตัวนายราเกซเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายราเกซ ก่อนหน้านี้ ได้ยกเหตุที่ศาลไทยยังไม่พิพากษาว่ามีผู้กระทำความผิด ใช้เป็นข้อต่อสู้ในการคัดค้านการส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยเรื่อยมา และหลังจากศาลไทยพิพากษาว่า มีผู้กระทำความผิดแล้ว ทางฝ่ายไทยเชื่อว่าจะทำให้ศาลแคนาดาใช้ดุลพินิจในการพิจารณาคำร้องได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายจะส่งตัวนายราเกซ มาดำเนินคดีตามคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน
|
|
|
|
|