แบงก์กสิกรไทยรุกบริการเทคโนโลยีควบคู่ความใส่ใจ เผยปีหน้าเน้นกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร หลังออกแคมเปญประสบความสำเร็จยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มเป็น 7-8 พันบาทต่อบัตรต่อเดือน วางกลยุทธ์ออกแคมเปญกระตุ้นยอดใช้จ่ายต่อเนื่อง พร้อมเปลี่ยนบัตรเครดิตเป็นชิพการ์ดได้ทั้งหมด

น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของยอดบัตรเครดิตในปี 2548 ของธนาคารกสิกรไทยเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันธนาคารมียอดบัตรเครดิตจำนวน 860,000 ใบ เฉลี่ยแล้วลูกค้าจะถือบัตร 1.5 บัตรต่อคน และมีอัตราการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเฉลี่ย 7,000-8,000 บาทต่อเดือน เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 ธนาคารได้ออก Campaign หลายตัว เช่น “10 หมื่นแตก” คือ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 48 จนถึง ก.พ. 49 ธนาคารจะแจกเงินอาทิตย์ละ 100,000 บาท ให้ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ร่วมสนุก

สำหรับแนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารในปี 2549 ธนาคารมุ่งที่จะเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าที่ไม่ค่อยมีการใช้จ่ายผ่านบัตรให้มากขึ้น โดยใช้ Campaign ต่างๆ ของธนาคารเป็นตัวกระตุ้นเพื่อส่งเสริมการใช้จ่าย

“เรามองว่าในปี 49 ธุรกิจบัตรเครดิตจะมีการแข่งขันรุนแรงเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะที่ผ่านมาแต่ละธนาคารต่างก็ได้จำนวนลูกค้าบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะทำยังไงให้ผู้ถือบัตรมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น หรือทำให้ลูกค้ากล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น ไม่ใช่เก็บบัตรถือไว้เฉยๆ” นางสาวขัตติยา กล่าว

นอกจากนี้ ภายในปี 2549 ธนาคารจะสามารถเปลี่ยนบัตรเครดิตเป็นชิพการ์ดได้ทั้งหมด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าตามสโลแกนของธนาคาร “เทคโนโลยีพร้อมความใส่ใจ”

สำหรับอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของธนาคารนั้น น.ส.ขัตติยากล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้เต็มเพดาน เนื่องจากธนาคารมีความเห็นใจลูกค้าไม่อยากให้ลูกค้าของธนาคารต้องรับภาระมากเกินไป โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย อยู่ที่ระดับ 17.75% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดเพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของสถาบันการเงินทั้งธนาคารและสถาบันการเงินที่ม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์)ไว้ที่ 18%