กรมการประกันภัยคาดปีหน้าธุรกิจประกันภัยสดใส เบี้ยประกันภัยรวมเฉียด 3 แสนล้านบาท ขยายตัว 11% เหตุคนให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย หลังพบเห็นการเกิดภัยบ่อยๆ ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีทางเลือกออกกรมธรรม์รูปแบบใหม่ เอาใจคนทำประกันเพิ่มขึ้น เผยศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด "พาณิชยการประกันภัย" จ่อล้มละลาย
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันภัยในปี 2549 จะมีเบี้ยประกันภัยรวม 283,437 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.04% แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับของธุรกิจประกันชีวิต 183,088 ล้านบาท ขยายตัว 10% และเบี้ยรับของธุรกิจประกันวินาศภัย 100,349 ล้านบาท ขยายตัว 13% ซึ่งประเมินจากอัตราการขยายตัวของจีดีพีในปี 2549 ที่คาดว่าจะขยายตัว 4.7-5.7% อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของสถาบันการเงินที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และอัตราเงินเฟ้อ 3.5-4.5%
"ปีหน้าธุรกิจประกันภัยจะยังขยายตัวได้ดีทั้งธุรกิจประกันชีวิต และประกันวินาศภัย เพราะคนและธุรกิจเริ่มเห็นความสำคัญของการทำประกัน อันเป็นผลมาจากคนมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจประกันภัยดีขึ้น และที่สำคัญประชาชนเริ่มตระหนักว่าการประกันภัยจำเป็นและต้องมีเพื่อรองรับการเหตุการณ์หรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต"
สำหรับปี 2548 นี้ คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการขยายตัว 10.69% มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 255,248 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงของธุรกิจประกันชีวิต 166,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และเบี้ยรับของธุรกิจประกันวินาศภัย 88,804 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
นางสาวพจนีย์ กล่าวว่า ปัจจัยที่จะมีผลทำให้ธุรกิจประกันภัยในปี 2549 ขยายตัว เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะมีการออกกรมธรรม์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกรมธรรม์ที่มีลักษณะเป็น Mass Production ที่มีทุนประกันภัยค่อนข้างต่ำ เช่น การประกันภัยรถภาคสมัครใจประเภท 4 การประกันภัยสินเชื่อ NPL การประกันภัยดัชนีสภาพอากาศ การประกันภัยตึกสูง การประกันภัยโคล้านตัว หรือกรมธรรม์ที่มีรูปแบบการลงทุนที่เพิ่มทางเลือกในการออกทรัพย์ระยะยาวให้กับประชาชน เช่น กรมธรรม์แบบ Unit-Linked,Universal Life เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ยังพบว่าช่องทางการจำหน่ายกรมธรรม์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น Bank Assurance หรือการขายประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรผ่านร้านสะดวกซื้อ คุณภาพของตัวแทนมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และมีการปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน เช่น มีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (PDA) มาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของบริษัท รวมทั้งมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้รถทุกคันมีการทำประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) ซึ่งรวมถึงรถในหน่วยงานราชการที่ต้องมีการทำประกันภัย
นอกจากนี้ การเกิดภัยพิบัติต่างๆ ในประเทศและต่างประเทศในรอบปี 2548 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภัยจากพายุเฮอริเคนในสหรัฐฯ แผ่นดินไหวในปากีสถาน ภัยน้ำท่วมในภาคเหนือและภาคใต้ของไทย ทำให้มีการตื่นตัวในการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้นด้วย
นางสาวพจนีย์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการสั่งปิดบริษัท พาณิชยการประกันภัยเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดได้รับแจ้งจากผู้ชำระบัญชีว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ศาลสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เนื่องจากบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นต้ว โดยมีหนี้สินประมาณ 1,447 ล้านบาท ขณะที่ทรัพย์สินมีประมาณ 242 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปเรื่องทั้งหมดจะอยู่ในขั้นศาล ถ้าศาลเห็นว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวก็อาจจะสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกถ่ายโอนไปยังกรมบังคับคดี เพื่อจัดสรรให้แก่เจ้าหนี้ต่อไป
|